NimitGuitar webboard

Full Version: Martin D-45 V.S Martin D-45V
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4
อยากถามผู้รู้หรือเพื่อนๆพี่ๆที่เคยเล่นหรือเป็นเจ้าของ Martin D-45 กับ D-45V ว่า เสียงระหว่างสองรุ่นนี้มันแตกต่างกันมากไหมครับ คือผมสมมุติว่าถ้าให้คนนั่งฟังหลับตา หรือ หันหลังให้คนเล่น guitar แล้ว ต่อจากนั้น ให้คนเล่นguitar เล่น 2 รุ่นนี้สลับไปมาโดยมี สาย guitar กับ setup เหมือนกันทั้ง 2 ตัว คนนั่งฟังจะรู้สึกถึงความแตกต่างทางเสียงไหมครับ แล้วรุ่นไหนมี Balance ดีกว่ากันเหมาะสำหรับตีคอร์คนุ่มๆ รบกวนเพื่อนๆพี่ๆช่วยแสดงความคิดเห็นหรือประสบการณ์ที่เคยมีกับทั้งสองรุ่นนี้ ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
เคยลอง D-45 ที่ Lucky Music ลองตีคอร์ดเสียงหนักแน่นแต่ก็มีความนุ่มนวลดี แม้แต่สายขึ้นสนิมมากแล้ว

เคยลอง D-45V ของน้ากฤษณ์ ผมให้ใจตัวนี้มากกว่า เสียงที่ได้ออกมามันช่างครบเครื่องหนักแน่นและละมุนละไม
และเนื่องด้วยรูปลักษณ์ที่เป็น vintage การวาง bracing และคอที่เป็น modified V

ถ้าให้เอามาเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้วนั่งฟังผมยังไม่เคยครับ ถ้าให้เลือกรูปลักษณ์ ผมชอบ vintage ที่ซู๊ด
(22-12-2008, 17:47)Maow Wrote: [ -> ]เคยลอง D-45 ที่ Lucky Music ลองตีคอร์ดเสียงหนักแน่นแต่ก็มีความนุ่มนวลดี แม้แต่สายขึ้นสนิมมากแล้ว

เคยลอง D-45V ของน้ากฤษณ์ ผมให้ใจตัวนี้มากกว่า เสียงที่ได้ออกมามันช่างครบเครื่องหนักแน่นและละมุนละไม
และเนื่องด้วยรูปลักษณ์ที่เป็น vintage การวาง bracing และคอที่เป็น modified V

ถ้าให้เอามาเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้วนั่งฟังผมยังไม่เคยครับ ถ้าให้เลือกรูปลักษณ์ ผมชอบ vintage ที่ซู๊ด

ผมยังหลงเสียงเลยพี่หม่าว แต่วาสนาผมได้แต่เจียมตัว Tongue เกิดมาได้จับได้เล่นนิดๆหน่อยๆก็บุญโขแล้วครับ
มาเข้าเรื่องเลยครับ ผมว่ากีต้าร์ระดับนี้ เสียงออกมาเทียบกัน คงแตกต่างกันไม่ห่างกันไกลจนมากเกิน เพียงแต่ถ้าบางตัวเสียงที่ออกมาดีกว่าพวกละก็ โชคดีที่ได้พบครับ ( ในความคิดของผมนะครับน้า )
งานนี้ต้องรออากฤษณ์ กับ น้ายอดจุ๊ มาคอนเฟิร์มดีกว่า Big Grin
ผมเคยลองเทียบเสียงกันสองครั้งครับ เสียงต่างกันแบบหลับตาฟังออกแน่นอนแต่ก่อนจะวิจารณ์เรื่องเสียงควรทราบความเป็นมาของทั้งสอง series ก่อน

Martin D-45 ยุคแรกถือกำเนิดในปี 1933 และเลิกผลิตในปี 1942 สมัยนั้น
ขายไม่ดีเทาไหร่เพราะราคาสูงมาก ( D-45 $250, D-28 $100, D-18 $65 )
ยอดที่ผลิตทั้งสิ้น 96 ตัว ตอนนี้มีเหลืออยู่ในโลกเท่าที่หาเจอ 78 ตัว ราคามือสอง
สภาพดีไม่ต่ำกว่าเจ็ดล้านบาทครับ

ส่วน D-45 ยุคปัจจุบันมาเริ่มผลิตใหม่ในปี 1968 ครับ ความแตกต่างจากรุ่น prewar อยู่ทีการใช้ modern bracing ซึ่งเป็น pattern มาตรฐานของ Martin
ในยุคนั้นทุกรุ่น ส่วน Martin D-45V นั้นเพิ่งมาเริ่มผลิตในปี 1999 โดยย้อนกลับ
ไปใช้ vintage bracing pattern เหมือนรุ่นก่อนสงคราม

Modern bracing pattern ถือกำเนิดในยุค bluegrass เพราะมือกีต้าร์สมัยนั้น
ต้องการเล่นแข่งกับ banjo เลยใส่สายใหญ่ๆให้ดังไว้ก่อน (สายขนาด .015-.016") ผลก็คือ bridge ยกกันเป็นประจำ Martin ต้องรับซ่อมจนเบื่อเพราะเขา
รับประกันตลอดชีวิตก็เลยต้องขยับ X-brace เข้าไปไกล้ bridge เพื่อแก้ปัญหานี้ครับ การขยับนี่ทำให้ sustain สั้นลงเพราะ vibrating surface ของ lower bout
มันเล็กลงซึ่งทำให้ตีคอร์ดสนุกขึ้น Martin ก็เลยใช้ pattern นี้มาตลอดทั้งๆที่
ไม่มีความจำเป็นแล้วเพราะเดี๋ยวนี้อีเล่นแสตมป์ไว้เลยว่าถ้าเองใช้สายใหญ่กว่า
medium gauge ก็ตัวใครตัวมันนะเฟ้ย

นอกจาก bluegrass แล้ว Martin ยังเป็นกีต้าร์โปร่งยอดนิยมของ country music
อีกด้วย ต้งแต่ยุค 50's ถึงต้นยุค 90's นี่ดนตรี acoustic เขาเน้นการตีคอร์ดเป็นหลักซึ่ง modern bracing pattern ก็ตอบสนองใด้ 100% และเป็นเสียงที่เราคุ้นเคยกันดีว่ามันคือ Martin sound ครับ

Fast forward มาถึงยุค 90's ที่ acoustic guitar เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง
คราวนี้แตกต่างจากยุค 60's ตรงนี่มีแนว fingerstyle แทรกเข้ามาด้วย lสำหรับ
สไตล์นี้ Taylor ครองตลาดครับส่วน Martin นั้นจ๋อยรับประทานไป

Martin กลับไปนั่งตึกตรองอยู่สองสามปีว่าจะเอาอะไรมาแข่งกับ Taylor ดีวะ ในที่สุดก็มีคนหัวใสลองเอา vintage bracing pattern กลับมาใช้เพราะมันเหมาะกับการเล่น fingerstyle มากกว่า bracing สมัยใหม่ นี่คือจุดกำเนิดของ vintage
series ครับ

Martin ทรง D ที่ใช้ forward shifted vintage bracing pattern มีดังต่อไปนี้

Martin HD-28V, 1996-
Martin D-41 Special, 2004-
Martin D42, 1996-
Martin D-45VR, 1997-1998
Martin D-45V, 1999-

ถ้าอยากเทียบเสียงระหว่าง Martin D-45 กับ D-45V ผมว่าไปลองเทียบเสียงระหว่าง HD-28 กับ HD-28V น่าจะหามาเทียบง่ายกว่าเยอะ ถ้าคุณเลือก V คุณจะใด้ความหวานฉ่ำมาแทนที่ความดุดันของรุ่นธรรมดา มีน้าๆหลายคนเคยเทียบเสียง
ระหว่าง HD-28V กับ D-41 มาแล้วครับ ถ้าเล่น fingerstyle นี่ผมว่า D-41 กินไม่ลงหรอกแต่ต้องรอความเห็นจากท่านอื่นๆก่อนครับ

เรื่องที่เล่ามานี่หาอ่านที่ไหนไม่ใด้หรอกครับเพราะผมฟังมาจากเจ้าของร้านที่ขาย
Martin มาสี่สิบปีแล้วเมื่อหกปีก่อน ตอนนี้แกเสียชีวิตไปแล้วแต่ผมก็ยังซื้อกีต้าร์
จากลูกชายแกประจำ ร้านอยู่ที่เมือง Akron, Ohio ครับ
อ่านสนุกเหมือนเคย
ขอบคุณมากครับน้ากฤษณ์
ฮ่าๆๆ แค่อ่านที่พี่กฤษณเล่ามาก้อ มันส์ ในอารมณ์แล้วครับ
ได้ความรู้ กับ สาระมากๆครับ


ตอบน้า Witt

สำหรับผมเคยลองหลับตาแล้วให้เพื่อนสลับ ส่งกีต้าร์ให้
ตัวนึงคือ HD28V ของผมเอง
อีกตัวก็เป็น HD28V ของเพื่อนอีกคน
ซึ่งถ้าลองเล่นแบบลืมตาและเอาความรู้สึกเช็คกันตัวต่อตัว
ผมจะรู้สึกว่า ตัวของเพื่อนผม เสียงดีกว่าของผม เหมือนเสียงพุ่งกว่า
โดยเราตกลงกันว่าจะหลับตาและไม่เอาความรู้สึกของเราไปอยุ่ที่ ทัชชิ่ง ของกีต้าร์
แต่ .....
จะใช้แค่เพียงโสตประสาทที่ได้ยินต่อเสียงนั้นๆ ทั้งๆที่ผมเล่นเองด้วยซ้ำไป
แค่เพียงสลับไปสลับมาแล้วเพื่อนผมถาม ด้วยคำถามว่า ตัวนี้เป็นยังไง

ผมอธิบายได้เป็นตุเป็นตะ แต่ตัวที่เป็นของเพื่อนผม ที่ผมรู้สึกว่าดีกว่า
ถ้าเรารักษาสัจจะและตอบไปตามความรู้สึกจาก เสียงนั้น จริงๆ


เพื่อนผมที่เป็นคนสลับกีต้าร์ ส่งให้ บอกว่า ผมตอบผิดหมดเลยครับ
สรุปว่า โทนเสียง มันใกล้กันมาก จนผมแยกไม่ถูก

แต่มันแปลกว่า ถ้าลืมตาดูแล้วเล่นด้วยนี่ เหมือนมันแตกต่างกันแบบรู้สึกชัดเจนมากๆครับ
สิบปากว่า ไม่เท่าได้ลองทำครับ ลองดู ๆ
อาจจะตอบไม่ตรงคำถามนะครับ ถือว่าเราแชร์ประสพการณ์กันครับ Smile
(22-12-2008, 22:29)poPPie Wrote: [ -> ]ฮ่าๆๆ แค่อ่านที่พี่กฤษณเล่ามาก้อ มันส์ ในอารมณ์แล้วครับ
ได้ความรู้ กับ สาระมากๆครับ


ตอบน้า Witt

สำหรับผมเคยลองหลับตาแล้วให้เพื่อนสลับ ส่งกีต้าร์ให้
ตัวนึงคือ HD28V ของผมเอง
อีกตัวก็เป็น HD28V ของเพื่อนอีกคน
ซึ่งถ้าลองเล่นแบบลืมตาและเอาความรู้สึกเช็คกันตัวต่อตัว
ผมจะรู้สึกว่า ตัวของเพื่อนผม เสียงดีกว่าของผม เหมือนเสียงพุ่งกว่า
โดยเราตกลงกันว่าจะหลับตาและไม่เอาความรู้สึกของเราไปอยุ่ที่ ทัชชิ่ง ของกีต้าร์
แต่ .....
จะใช้แค่เพียงโสตประสาทที่ได้ยินต่อเสียงนั้นๆ ทั้งๆที่ผมเล่นเองด้วยซ้ำไป
แค่เพียงสลับไปสลับมาแล้วเพื่อนผมถาม ด้วยคำถามว่า ตัวนี้เป็นยังไง

ผมอธิบายได้เป็นตุเป็นตะ แต่ตัวที่เป็นของเพื่อนผม ที่ผมรู้สึกว่าดีกว่า
ถ้าเรารักษาสัจจะและตอบไปตามความรู้สึกจาก เสียงนั้น จริงๆ


เพื่อนผมที่เป็นคนสลับกีต้าร์ ส่งให้ บอกว่า ผมตอบผิดหมดเลยครับ
สรุปว่า โทนเสียง มันใกล้กันมาก จนผมแยกไม่ถูก

แต่มันแปลกว่า ถ้าลืมตาดูแล้วเล่นด้วยนี่ เหมือนมันแตกต่างกันแบบรู้สึกชัดเจนมากๆครับ
สิบปากว่า ไม่เท่าได้ลองทำครับ ลองดู ๆ
อาจจะตอบไม่ตรงคำถามนะครับ ถือว่าเราแชร์ประสพการณ์กันครับ Smile

น้าปี้ ก็บอกน้า ๆ ไปได้ว่าตัวที่ว่านั้นเป็นของสิงห์เกษตรเองครับ ฮี่ ๆๆ (น้าปี้บอกได้ไม่หวงชื่อจ้า จุ๊บ ๆ แต่ไม่บอกนี่เดี๋ยวมียิง) ไปลองบ้านน้ายอดจุ๊ มีน้ายอดจุ๊ น้าโจ๊ก น้าปี้ น้าหนึ่งหัด น้ากิจจา คนส่งกีตาร์ให้ลองก็คือน้ายอดจุ๊ กับน้าโจ๊ก สลับไปสลับมา น้าปี้แกทายผิดหลายทีครับ สรุปว่า เสียงดีทั้งคู่ครับ
(22-12-2008, 23:09)Kitja Wrote: [ -> ]น้าปี้ ก็บอกน้า ๆ ไปได้ว่าตัวที่ว่านั้นเป็นของสิงห์เกษตรเองครับ ฮี่ ๆๆ (น้าปี้บอกได้ไม่หวงชื่อจ้า จุ๊บ ๆ แต่ไม่บอกนี่เดี๋ยวมียิง) ไปลองบ้านน้ายอดจุ๊ มีน้ายอดจุ๊ น้าโจ๊ก น้าปี้ น้าหนึ่งหัด น้ากิจจา คนส่งกีตาร์ให้ลองก็คือน้ายอดจุ๊ กับน้าโจ๊ก สลับไปสลับมา น้าปี้แกทายผิดหลายทีครับ สรุปว่า เสียงดีทั้งคู่ครับ

ไม่ครับ หมอนวล ฟันธง ของผมดีกว่า จะมายิงก็มาสิฟร๊ะ ... 55555
อิโด่เอ๊ยยยย..... สิงห์เกษียนแก่แล้วก็เงี๊ยหละ หูไม่ดี Big Grin กร๊ากกกกกกกก
ขอบคุณทุกความเห็นครับ และสำหรับข้อมูลเจาะลึกของพี่กฤษณ์ครับ ส่วนตัวผมสงสัยที่พี่ว่า "ความหวานฉ่ำ" พี่หมายถึงเสียง balance โดยรวมหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
(22-12-2008, 23:16)poPPie Wrote: [ -> ]
(22-12-2008, 23:09)Kitja Wrote: [ -> ]น้าปี้ ก็บอกน้า ๆ ไปได้ว่าตัวที่ว่านั้นเป็นของสิงห์เกษตรเองครับ ฮี่ ๆๆ (น้าปี้บอกได้ไม่หวงชื่อจ้า จุ๊บ ๆ แต่ไม่บอกนี่เดี๋ยวมียิง) ไปลองบ้านน้ายอดจุ๊ มีน้ายอดจุ๊ น้าโจ๊ก น้าปี้ น้าหนึ่งหัด น้ากิจจา คนส่งกีตาร์ให้ลองก็คือน้ายอดจุ๊ กับน้าโจ๊ก สลับไปสลับมา น้าปี้แกทายผิดหลายทีครับ สรุปว่า เสียงดีทั้งคู่ครับ

ไม่ครับ หมอนวล ฟันธง ของผมดีกว่า จะมายิงก็มาสิฟร๊ะ ... 55555
อิโด่เอ๊ยยยย..... สิงห์เกษียนแก่แล้วก็เงี๊ยหละ หูไม่ดี Big Grin กร๊ากกกกกกกก

ฝากเอาไว้ก่อน เดี๋ยวน้องวินไม่มีคนพาไปเที่ยวตอนปีใหม่ เหอ ๆๆๆๆๆ
Pages: 1 2 3 4