NimitGuitar webboard

Full Version: น้าๆ สร้างแรงจูงใจในการเล่นกันยังไงครับ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
อ่านเบื้องหลังของน้า ๆ หลาย ๆ คนแล้ว ดูเหมือนผมจะเริ่มมีแรงจูงใจบ้าง ก็เพราะมารู้จักสังคมบ้านนี้...

เพราะรู้สึกอุปมาได้ว่า... ผมจะเป็นคนพูดได้ แต่อ่านหนังสือไม่ออก!...
- - ก็ไม่รู้ว่า สมัยโน้นมั่วเล่นดนตรีตามแค้มป์ฯ ตามโรงแรม และเคยทำเพลงประกอบสารคดีกะเขาได้ยังไง?!?
...เท่าที่ผ่านมา ผมได้แต่ฟังเพลงที่ชอบ แกะเพลงที่ชอบ มั่ว ๆ ไปตามอารมณ์
สมัยที่เล่นดนตรี (ไม่เรียกว่าอาชีพ เพราะถ้าถูกใจเล่นฟรี ๆ สนุก ๆ ก็เอา) อาจบังเอิญว่าเพื่อน ๆ ร่วมวง มีอัตตาคล้ายกัน คือไม่เคยเล่นเพลงตามคำขอ
(เคยขนาดว่า มีคนขอเพลงจนรำคาญ เลยล้วงเอาเหรียญบาทจากกระเป๋ากางเกงเขวี้ยงใส่กบาลมัน แล้วตะโกนสำทับว่า "กูไม่ใช่ตู้เพลง")

ครับ...เพราะจนถึงเดี๋ยวนี้ ยังตั้งสายเพี้ยนอยู่เป็นประจำ... นับจังหวะนับห้องก็ไม่เป็น...
รู้จักคอร์ดไม่กี่คอร์ด... ไม่รู้เรื่องสแกลใด ๆ เลย เพิ่งพอคลำหลักตามทฤษฎีได้กะเขาอยู่หนึ่งแบบ ก็เพราะน้าSARUN สอน...
ดูเท็บดูโน๊ตก็ไม่เป็น... เพลงก็รู้จักอย่างค่อนข้างจำกัด...
มี metronome มาหลายสิบปี ก็เพิ่งใช้เป็นเพราะน้าhattฯ สอนให้...
นี่ก็ว่าจะหาเวลาไปขอร่ำเรียนวิชาจากน้าej_ฯ....

อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงชอบดนตรีอยู่แค่บางแนวเท่านั้น...
(19-12-2008, 03:09)LittleNomad Wrote: [ -> ]อ่านเบื้องหลังของน้า ๆ หลาย ๆ คนแล้ว ดูเหมือนผมจะเริ่มมีแรงจูงใจบ้าง ก็เพราะมารู้จักสังคมบ้านนี้...

เพราะรู้สึกอุปมาได้ว่า... ผมจะเป็นคนพูดได้ แต่อ่านหนังสือไม่ออก!...
- - ก็ไม่รู้ว่า สมัยโน้นมั่วเล่นดนตรีตามแค้มป์ฯ ตามโรงแรม และเคยทำเพลงประกอบสารคดีกะเขาได้ยังไง?!?
...เท่าที่ผ่านมา ผมได้แต่ฟังเพลงที่ชอบ แกะเพลงที่ชอบ มั่ว ๆ ไปตามอารมณ์
สมัยที่เล่นดนตรี (ไม่เรียกว่าอาชีพ เพราะถ้าถูกใจเล่นฟรี ๆ สนุก ๆ ก็เอา) อาจบังเอิญว่าเพื่อน ๆ ร่วมวง มีอัตตาคล้ายกัน คือไม่เคยเล่นเพลงตามคำขอ
(เคยขนาดว่า มีคนขอเพลงจนรำคาญ เลยล้วงเอาเหรียญบาทจากกระเป๋ากางเกงเขวี้ยงใส่กบาลมัน แล้วตะโกนสำทับว่า "กูไม่ใช่ตู้เพลง")

ครับ...เพราะจนถึงเดี๋ยวนี้ ยังตั้งสายเพี้ยนอยู่เป็นประจำ... นับจังหวะนับห้องก็ไม่เป็น...
รู้จักคอร์ดไม่กี่คอร์ด... ไม่รู้เรื่องสแกลใด ๆ เลย เพิ่งพอคลำหลักตามทฤษฎีได้กะเขาอยู่หนึ่งแบบ ก็เพราะน้าSARUN สอน...
ดูเท็บดูโน๊ตก็ไม่เป็น... เพลงก็รู้จักอย่างค่อนข้างจำกัด...
มี metronome มาหลายสิบปี ก็เพิ่งใช้เป็นเพราะน้าhattฯ สอนให้...
นี่ก็ว่าจะหาเวลาไปขอร่ำเรียนวิชาจากน้าej_ฯ....

อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงชอบดนตรีอยู่แค่บางแนวเท่านั้น...

อ่อนน้อมถ่อมตัว....จ้างก็ไม่เชื่อหรอกครับ!
(19-12-2008, 03:20)povation Wrote: [ -> ]อ่อนน้อมถ่อมตัว....จ้างก็ไม่เชื่อหรอกครับ!

...ตอนนี้หมดเงินจ้างแล้วครับน้าป๋อ...
พรุ่งนี้ผมเลยต้องเดินทางไปรับจ้างหาสตางค์
เพื่อจะได้กลับมาควานหาแรงจูงใจ...อีกสักตัว-สักตัว-สักตัว-สักตัว....Big Grin
(19-12-2008, 03:36)LittleNomad Wrote: [ -> ]
(19-12-2008, 03:20)povation Wrote: [ -> ]อ่อนน้อมถ่อมตัว....จ้างก็ไม่เชื่อหรอกครับ!

...ตอนนี้หมดเงินจ้างแล้วครับน้าป๋อ...
พรุ่งนี้ผมเลยต้องเดินทางไปรับจ้างหาสตางค์
เพื่อจะได้กลับมาควานหาแรงจูงใจ...อีกสักตัว-สักตัว-สักตัว-สักตัว....Big Grin

เดินทางโดยสวัสดิภาพ กลับมาได้สวัสดิผล นะครับน้าอ้วน
(19-12-2008, 03:42)povation Wrote: [ -> ]
(19-12-2008, 03:36)LittleNomad Wrote: [ -> ]
(19-12-2008, 03:20)povation Wrote: [ -> ]อ่อนน้อมถ่อมตัว....จ้างก็ไม่เชื่อหรอกครับ!

...ตอนนี้หมดเงินจ้างแล้วครับน้าป๋อ...
พรุ่งนี้ผมเลยต้องเดินทางไปรับจ้างหาสตางค์
เพื่อจะได้กลับมาควานหาแรงจูงใจ...อีกสักตัว-สักตัว-สักตัว-สักตัว....Big Grin

เดินทางโดยสวัสดิภาพ กลับมาได้สวัสดิผล นะครับน้าอ้วน

ขอบคุณครับน้าป๋อ....
เคยเจอคอขวดหลายครั้งเหมือนกันครับ จนทำให้คิดว่า นี่เราทำอะไรอยู่เนี่ย

ยิ่งคิด ยิ่งหาทางออก ยิ่งบีบรัด

อย่างผม .... ก็เริ่มคิดได้ตอนเริ่มเล่นฟิงเกอร์สไตล์ เมื่อห้าหกปีก่อน

คือทำยังไงให้เล่นแล้ว "มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่เราเล่นที่สุด"
เก่งไม่เก่ง ไม่สน เล่นได้แค่หางอึ่ง แต่มีความสุข ก็พอใจกับมันที่สุดแล้วครับ

แต่พอเริ่มฝึก เริ่มเล่นได้ ก็รู้สึกสนุกยิ่งขึ้น พอสนุก มันก็เริ่มมีความสุขที่จะเล่นมัน
เล่นไปเรื่อยยิ่งมีความสุข เริ่มหลงไหล ถลำลึกลงไปเรื่อยๆ

ครั้นยิ่งพอเล่นให้คนอื่นฟังบ้าง ได้แสดงออก ปลดปล่อย คนอื่นๆก็ชอบสิ่งที่เราเล่น ( แม้มีไม่ชอบบ้าง ถือเป็นข้อที่ต้องแก้ไข )
ก็ได้ความสุขมาอีก ก็ยิ่งมีความสุขมากๆ ยิ่งสนุกที่จะเล่นขึ้นไปอีก
จึงทำให้ยิ่งค้นหาความสนุก หาความสุขมาแบ่งปันให้ผู้อื่น และตนเองอยู่เรื่อยๆครับ


สรุปง่ายๆ ... เล่นแล้วมีความสุข ก็พอแล้วครับ
รับชม และ รับฟัง ดนตรีในแบบที่สนใจ จากคนอื่นๆ และ แบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนบ่อยๆ
รวมทั้งทดลอง หัด ดัดแปลงมาเล่นเอง พอได้ทำแล้วมันสนุก ก็เกิดความอยากที่จะเล่นต่อไปเรื่อยๆครับ

ผมว่ากีตาร์ถ้าเริ่มจะฝึกมันก็สนุกแล้วครับ ถ้าเรารักจะเล่นมันจริงๆนะ เล่นแบบไม่ฝึกยังสนุกเลย สิ่งเดียวที่จะลดทอนความสนุกได้คือความอยาก.. แต่ไม่ทำ

อยากเล่นเป็น อยากเล่นได้ อยาก... แต่ไม่ฝึก ไม่จับมาเล่น คิดไปคิดมา ไม่ได้ทำ เลิกคิด เบื่อ ไปคิดเรื่องใหม่ แล้ววนกลับมาที่เดิม เพราะคิดแล้วเริ่มสักที ^^

สรุปง่ายๆให้ลองทำสิ่งที่ยังไม่เคยทำได้ ไม่เคยรู้จัก ยังทำได้ไม่ดี สิ่งแปลกๆใหม่ๆ นั่นแหละครับทำให้เราไม่อยากหยุดเล่น
ผมยึดหลัก อิทธิบาท 4 ครับ
ฉันทะ = ความพอใจที่จะเล่นอยากเล่นแบบนี้อย่างนี้ก็เล่นมันเข้าไป
วิริยะ = ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องจับขึ้นมาเล่น
จิตตะ = ตั้งใจเล่นแม้ว่าจะเล่นแบบไม่มีแก่นสารอะไรเท่าไหร่ ไม่ได้ฝึกอะไร แค่เล่นอย่างตั้งใจไปเรื่อยๆ
วิมังสา = รับฟังคำวิจารณ์หรือแม้กระทั่งคำด่าทั้งหลาย คำชมไม่ค่อยฟังครับ เพราะมันจะทำให้เหลิง และก็สังเกตการเล่นของคนอื่นเยอะๆครับ ในบ้านนี้มีหลายท่าน ที่กลายเป็นอาจารย์ผมโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมลักหลับ เฮ้ย... ลักจำเอาบางอย่างของเขามาใช้ และขอขอบคุณทุกๆท่าน ที่เล่นออกมาให้ผมได้ชมได้ดูได้จำครับ

จริงจังทำให้เราดูดี แต่จริงใจทำให้ดูดีกว่า อิอิ... (ยืมคนอื่นเขามาครับ)
ผมยึดหลัก พรหมวิหาร 4 ครับ
เมตตา = ปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับความสุข
เวลาเล่นกีต้าร์ผมอยากให้ผู้ฟังมีความสุขที่ได้ฟังเสียงกีต้าร์เพราะๆจากฝีมือของผม

กรุณา = ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
พอเล่นแล้วคนฟังทำท่าเซ็งเนื่องจากเสียงกีต้าร์ที่ผมบรรเลง ผมก็จะหยุดเล่น คนฟังจะได้พ้นทุกข์

มุฑิตา = ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
เวลาเห็นคนเล่นเพราะๆ จะเก่งหรือไม่เก่งไม่เป็นไร ขอให้เพราะก็แล้วกัน ผมจะชื่นชมและเอาเป็นแบบอย่าง

อุเบกขา = เป็นการวางเฉยในบุคคลที่กระทำดีและไม่ดีต่อตน
เวลาได้ยินคนติก็ไม่เอามาใส่ใจ ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมต่อไป ใครจะเก่งมาตั้งแต่เกิดล่ะ...เนอะ!Big Grin

ทั้งหมดนี้เป็นแรงจูงใจในการกลับมาเล่นกีต้าร์ของผม หลังจากแขวนมันไว้ที่ข้างฝาบ้านกว่าสิบปีครับBig Grin
เริ่มเข้าทางธรรมกันแล้ว

ได้ไอเดียขึ้นมากๆ จริงครับ
Pages: 1 2 3