ส่วนกิจการหลังคาเหล็ก ของผมก็ได้รับผลกระทบทันทีครับ การลงทุนสร้างโรงงานชลอกันไปหมด เริ่มจากเรื่องการเมือง ความไม่แน่นอนทางการเมือง ราคาน้ำมันที่มีผลกับราคาเหล็ก ขึ้นไปจนสูงสุดแล้วก็ดิ่งนรกลงมา จนเป็นเหตุให้คนขายเหล็กทุกชนิดเจ็บตัวกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้กระทั่งสิงห์เกษตร ตอนนี้ยอดขายก็ยังไม่ค่อยกระตื้องเท่าไหร เนื่องจากลูกค้าบอกว่า "รอ ๆๆๆ" ให้ราคาเหล็กลงมากว่านี้แต่สต๊อกผมก็บวม ๆๆๆ ขึ้นทุกวัน ตอนนี้ก็ได้วางแผนรับมือปีหน้าไว้แล้ว "ไม่กู้ ลดค่าใช้จ่าย สงบเสงี่ยมเจียวตัวครับ"
(16-12-2008, 11:16)yodchula Wrote: [ -> ]อะไรๆก็เงียบไปหมด ตอนนี้เก็บเงินลูกเดียว กลัวของจริงที่จะมาถึงในปีหน้า
ของจริงที่ว่าจะเจอในปีหน้าน่ากลัวขนาดไหนครับ
ของจริงที่ว่าจะเจอในปีหน้าน่ากลัวขนาดไหนครับ
[/quote]
ลองแชร์กันดูครับ ได้ยินผู้ใหญ่เล่ามาว่า
" จริงๆช่วงนี้ต้องช่วยกันใช้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนะครับ เพราะไม่งั้นจะหยุดชะงักยิ่งกว่าเดิม แต่ให้ใช้สอยอย่างประหยัดและเกิดคุณค่า หลีกเลี่ยงการลงทุนกับสินทรัพย์ที่ก่อหนี้ระยะยาวและไม่ก่อให้เกิดรายได้ "
แต่ปีหน้าสงสัยจะน่ากลัวอย่างที่ว่า สังเกตุง่ายๆครับ โครงสร้างเศรษฐกิจขึ้นกับภาคก่อสร้างและภาคการเงิน ตอนนี้ภาคก่อสร้างเริ่มชะลอตัวทั้งที่เป็น high season ส่วนภาคการเงิน ธนาคารก็ออกโปรโมชั่น เงินกู้มากขึ้น และมีแผนลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้คนเอาเงินไปใช้ ที่มันหนักเพราะเราไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดหลักได้ เนื่องจากตลาดต่างประเทศก็ประสบภาวะวิกฤตเหมือนกัน หนำซ้ำdemand ในบ้านเราก็หดหาย จากสถานะการณ์การเมือง
ขอให้ทุกท่านโชคดีและฉลองปีใหม่อย่างสนุกสนาน เตรียมรับมือกับปีหน้าให้ดีครับ เป็นกำลังใจให้กันครับ ขอให้ช่วงนี้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วด้วยเถิด
ที่น่ากลัวกว่าปี 40 คือ Sector ส่งออกซึ่งเป็น Real Sector หลักที่ทำรายได้เข้าประเทศเราโดนกระทบจากเศรษฐกิจเมืองลุงแซม ต่างปี 40 ที่เราโดนภาคการเงินก่อนแล้วค่อยๆ ลามไป Real Sector ผลของปีนี้คือ ภาคส่งออกต้องลดCost เพื่อความอยู่รอด วิธีหนึ่งคือต้องปลดคนงานออก หรือลดเงินเดือนลง ส่วนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจเปนเรื่องที่ภาครัฐต้องนำเงินพระคลังออกมาใช้จ่าย เช่น จัดซื้อจัดจ้าง ทำเมกกะโปรเจค เพื่อให้ มีเงินหมุนเวียน จ้างงานในระบบ ไม่ใช่ให้เอกชนนำในการใช้จ่ายครับเพราะลำพัง ประคองตัวเองก็แย่แล้วครับ หนำซ้ำการเมืองที่ผ่านมาเล่นการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวทำรายได้เข้าประเทศเรา ...หายไปเยอะ
ยังไงพี่น้องก็อย่าเครียดจนเกินไปครับ เปลี่ยนจากฟังขาวเครียดๆ มาฟังเพลงบ้างเพราะ เล่นดนตรี มีกีตาร์ดีๆ มีก็แบ่งปันกันใช้ สุขภาพสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดครับ ขอให้โชคดีสนุกกับเทศกาลปีใหม่
(17-12-2008, 09:55)Paiman Wrote: [ -> ] (16-12-2008, 14:06)Bearclaw Wrote: [ -> ]
ของจริงที่ว่าจะเจอในปีหน้าน่ากลัวขนาดไหนครับ
" หลีกเลี่ยงการลงทุนกับสินทรัพย์ที่ก่อหนี้ระยะยาวและไม่ก่อให้เกิดรายได้ "
[/quote]
สินทรัพย์ที่ว่านี้หมายถึงกีตาร์ด้วยใช่มั๊ยคับ อิอิ ล้อเล่นครับ แต่ฟังเรื่องเศรษฐกิจแล้วรู้สึกหดหู่ยังไงก็ไม่รู้.......น้าๆมีวิธีป้องกันตัวยังไงกันบ้างครับ
ปีหน้าหวังว่า จะไม่เล่นกีฬาสีกันแล้วนะ
ปีหน้าอยากให้รองเท้านักข่าวอิรัก เขวี้ยงได้เร็วกว่านี้อีก
(17-12-2008, 12:18).::.pOoH.::. Wrote: [ -> ]ปีหน้าหวังว่า จะไม่เล่นกีฬาสีกันแล้วนะ
ปีหน้าอยากให้รองเท้านักข่าวอิรัก เขวี้ยงได้เร็วกว่านี้อีก
ผมว่าถ้านักข่าวอิรักได้ติดตามการเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
อาจไม่ใช้รองเท้าครับน้าปุ๊ แต่อาจใช้ตัวหนอน หรือ อุนจิ แทน
พวกนี้แม้ขว้างไม่ถูกแต่รับรองแตกฮือแน่นอน
ยิ่งเตือน ยิ่งขู่กันมาก คนก็ยิ่งไม่ใช่เงิน
ยิ่งไม่ใช้เงิน ก็ยิ่งพังกันละครับ ไม่มีเงินหมุนเวียนทั้งออกทั้งเข้า ทั้งในทั้งนอก
ตอนนี้ผมก็ได้รับผลกระทบแล้ว เพราะเป็นหนี้ Professor อยู่ท่านหนึ่ง
อาจจะต้องเปลี่ยนสายใช้หนี้แทนเป็นเวลา 6 เดือน
เดี้ยงตั้งแต่วางระบบป้องกันแล้วครับ...คิดว่าเข้มกว่าสถานการณ์จริงที่จะเกิดเสียอีก
ถูกตัด ถูกตอน ทุกอย่างจนเกลี้ยง ไม่มีงานเลี้ยง คอร์ส เทรนนิ่ง สัมมนา อะเวย์เดย์ ...เหลือแต่ต้นยืนแห้งโด่เด่ ไร้ดอก ใบ ก้าน
โบนัส เงินเดือน ไม่ต้องถาม ไม่ให้แถมถูกริบอีกด้วย..เพื่อให้ยังคงมี "ที่ทำงาน"
ก็คงทำตัวเหมือนเดิมครับ ทำแบบไม่มีกิน ไม่มีเงิน
โชคดี ทำเหมือนมาก ทำมานานละ 555
เป็นนักดนตรี ทำงานอิสระ รายได้มาจากคนเที่ยว ถ้าคนเที่ยวน้อยลงยังไม่รู้เลยว่างานจะเป็นยังไงต่อไป
ปกติก็ใช้เงินอย่างประหยัดอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาเรื่องการเงินเท่าไหร่ แต่อาจมีผลเรื่องเงินเก็บที่จะลดน้อยลง ถ้ารายได้ลดลง
จุดหมายที่จะมีบ้าน รถ และทรัพย์สิน ราคาแพง ก็คงใช้เวลาสร้างมันเพิ่มขึ้นอีก -_-''