NimitGuitar webboard

Full Version: Yamaha ไต้หวันตัวเดียวของผม
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
กีต้าร์โปร่ง YAMAHA ในบ้านเรารู้สึกว่าจะมีคนคลั่งไคล้ "Made in Japan" กันมากแต่ผมกับชอบรุ่นแพงของไต้หวันมากกว่าเพราะผมว่ามันคุ้มราคามากกว่าเยอะ
ครับ

กีต้าร์โปร่งญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นกีต้าร์ลึกลับโดยเฉพาะพวกที่ไม่ส่งออกนี่แทบหาข้อมูลไม่ใด้เลยถ้าเป็นรุ่นที่เลิกผลิตแล้ว บังเอิญผมใด้หนังสือ "The History of
Yamaha Guitars" มาจากน้ายอดเยี่ยมก็เลยขอบรรยายประวัติของโรงงานไต้หวันซะเลยเพราะคงมีหลายคนที่ยังไม่ทราบ

ยุคบุกเบิก

ยามาฮ่าเริ่มผลิตกีต้าร์สายเหล็กออกมาขายในปี 1966 (FG150, FG180) ตอนนั้น
ผมจำใด้ว่าสยามกลการขายตัวละ 450 บาท (ตอนนั้นทองบาทละ 400 บาท) กีต้าร์ยุคนั้นเรื่องเสียงไม่ต้องเอามาเทียบกับสมัยนี้หรอกครับแต่เรื่องทนนี่ไม่เป็นรองแน่

[Image: 1966cu1.jpg]

พอมาถึงปี 1969 ก็มีรายการส้มหล่นเพราะ Country Joe McDonald แกคว้าเอา
FG150 ไปขึ้นเวทีที่ Woodstock คราวนี้กีต้าร์เลยขายดีจนโรงงานแห่งเดียวคือ
Nippon Gacki ที่เมือง Hamamatsu ผลิตไม่ทันขาย
KAOHSIUNG FACTORY

ยามาฮ่าก่อตั้งโรงงานใหม่ที่ไต้หวันในปี 1970 ครับ ตอนนี้แหละครับที่ข้อมูลของแหล่งผลิตเริ่มมั่วเพราะยามาฮ่ากลัวว่าคนจะไม่ยอมรับก็เลยแปะป้าย "Made in
Japan" กันเหนียวไว้ก่อนทั้งๆที่ผลิตในโรงงานไต้หวัน

ตามข้อมูลในหนังสือของยามาฮ่าเองกีต้าร์ในยุค 70's รุ่นต่อไปนี้ผลิตที่ Kaohsiung factory ในไต้หวันครับ

CLASSICAL GUITARS: G55 through G255
ACOUSTIC GUITAR: L5, L6, L8, CJ7, CJ10, CJ15B

ในยุค 80's ยามาฮ่ามุงทำตลาด synthesizer เลยขายกีต้ารไม่ค่อยออก โรงงาน
ที่ญี่ปุ่นเลยต้องปิดตัวในเดือนธันวาคม 1985 เหลือไว้เพียง custom shop และช่างสี่คนที่ทำแต่รุ่นสุดแพง กีต้าร์โปร่งทั้งหมดของยามาฮ่าตอนนั้นจึงผลิตในไต้หวันทั้งหมดครับ

พอมาถึงยุค MTV Unplugged ที่กีต้าร์โปร่งเริ่มขายดีอีกครั้ง Yamaha เลยไปเปิด
โรงงานใหม่ที่อินโดนิเชียในปี 1990 และให้โรงงานไต้หวันผลิตแต่รุ่นไฮเอ็นด์

Yamaha กลับมาเปิดโรงงานที่ญี่ปุ่นอีกครั้งในปี 1997 เพื่อผลิตรุ่น hand crafted
series และ custom series ครับ

Kaohsiung factory ปิดกิจการถาวรในเดือนมีนาคม 2007 ครับ
Yamaha เปิดตัว LD series ตอนปลายปี 1990 โดยมีสามรุ่นคือ
LD-10 60,000 yen, LD-20 80,000 yen, LD-30 100,000 yen
ร่นส่งออกมีรุ่นเดียวคือ LD-10 ส่วน LD-30 เป็น hand crafted series
ที่ขายในญี่ปุ่นเท่านั้นครับ

ตอนไปญี่ปุ่นครั้งหนึ่งผมเคยลองเสียง LD-30 เทียบกับ LL-36 มาแล้ว
แต่ไม่ใด้ซื้อเพราะตัวที่ลองสภาพมีริ้วรอยอยู่หลายจุด หลังจากนั้นก็เสาะหามา
เรื่อยจนเจอตัวนี้ที่ผลิตเดือน 11/1991 สภาพใหม่เลยครับ

[Image: ld30-6.jpg]



[Image: ld30-1.jpg]


ไม้หน้าเป็น solid spruce

[Image: ld30-2.jpg]


ป้ายหนัง

[Image: ld30-3.jpg]


Ebony fretboard, snow flake inlay

[Image: ld30-4.jpg]


Indian rosewood back and side

[Image: ld30-5.jpg]
แฟนยามาฮ่าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยกรุณาชี้แนะด้วยครับ
หวัดดีครับน้าpood ทำไมกีต้าร์โรงงานเกาซุงถึงชอบเป็นฝ้าละครับ ผมมี2ตัวFG-340 กับFG-365S ไอ้ตัว365Sมันเป็นฝ้าตรงฺBackครับ และก้อเห็นของคนอื่นเป็นหลายตัวมากSad
สำหรับโรงงานยามาฮ่าที่ไต้หวันเนี่ย ผมเคยอ่านจากหนังสือเดอะกีต้าร์แม็กของอังกฤษเขาว่าผลิตให้takamineด้วยนะครับShy
Shy ผมอยากรู้การแตก ซีรี่ส์ ของ ยามาฮ่า มาก
เจอทั้งรุ่น ป้ายส้ม ป้ายหนัง ป้ายกระดาษ
Code ก็เป็น F เป็น C CG ????? เวลาไปพบเจอ ยามาฮ่า เก่าๆ
จะได้พอทราบข้อมูลพื้นฐานว่าเป็นอย่างไร ครับ
ยามาฮ่า Classic ( C180SA) ผมเป็นฝ้าขาว เหมือนของน้า billy เลย
ครับ น้ากฤษณ์ มีคำแนะนำไหมครับในการขจัดฝ้าขาว ดูแล้วเสียดาย ลาย
โรสวู๊ด มากเลยSad
ใข่ครับเรื่องฝ้า นี้ ผมเคยเห็นคนประกาศขาย รุ่น LD-20 หรือ ว่าสูงกว่านั้น เป็นฝ้าทั้งหลังและข้าง
รุ่นนิ้ก็ค่อนข้างสูงเหมือนกัน ยังเป็นฝ้าเลย

ผมเคยถามคนที่เค้ารู้เรื่อง yamaha เค้ายอกว่า
กีตาร์รุ่นที่เขียนว่า made in taiwan ส่วนมากจะเป็นฝ้าง่าย
รักษาไม่หาย แต่ถ้าไม่ผ่านการเล่นเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยเป็น
ส่วน รุ่นที่ เชียนว่า made in japan ยังไม่เคยเห็นเป็นฝ้า

ส่วนเรื่องที่ ทำใน taiwan แล้ว มา เขียน made in japan เค้าบอกว่าก็อาจจะเป็นไปได้
แต่อาจจะเป็น ไม้นำเข้าจาก taiwan แล้วมาประกอบที่ japan

ผมยังงงๆ อยู่เลย แต่ พี่ เค้าให้สังเกตุว่า ถ้า ทำใน taiwan เหมือนกัน จริงๆ
แล้วทำไม คุณภาพ ถึง ไม่เหมือนกัน เช่น เรื่องฝ้า เป็นต้น
ผมก็เลย คิดว่า made in japan ดีกว่า

หนังสือ The History of Yamaha Guitars ผมอ่านที่มาเลย์ ( มันโทรมมากไม่ได้ซื้อมา )
ดูแล้วมันแปลกๆ หลายจุด เลยคิดว่าไม่ใช่ ต้นตำหรับเขียนเอง
แต่ อย่างไร ผมก็พยายามหาข้อมูลจากเวปของญี่ปุ่น อยู่เรื่อยๆ

อย่างที่ พี่ billy บอกครับ เรื่องฝ้า แก้อย่างไรดี
หนังสือ "History of Yamaha Guitars" เป็นหนังสือที่บริษัทเป็นสปอนเซ่อร์
ครับ เรื่องข้อมูลผิดคงจะยากแต่เรื่องรายละเอียดไม่มีทางครบครับเพราะกีต้าร์
Yamaha นั้นมีจำนวนรุ่นมากที่สุดในโลก (เกินพัน) เฉพาะ FG series นี่ก็เกิน
สองร้อยแล้วครับ

โรงงานที่ไต้หวันของยามาฮ่าเคยเป็นโรงงานผลิตกีต้าร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ
ในยุค 90's มีคนงานถึง 850 คน แต่ตอนหลังรู้สึกว่าจะถูกแซงโดย Samick
ที่ผลิตกีต้าร์ใด้ถึงปีละหนึ่งล้านตัว

เรื่องฝ้านั้นน่าจะเกิดจากการเคลือบด้วย catalyzed polymer finish ซึ่งไม่มี void
ให้ความชื้นระบายออกมาใด้ พอมาอยู่เมืองไทยซึ่งอากาศชื้นมากความชื้นที่ซึม
เข้าไปตามผิวด้านในที่ไม่ใด้เคลือบเลยไม่สามารถระบายออกใด้และก่อตัวเป้นฝ้า
อยู่ข้างใต้ครับ ส่วนโรงงานญี่ปุ่นนั้นคงจะเคลือบด้วย nitro finish ที่หายใจใด้ก็เลย
ไม่เป็นฝ้า (ผมเดานะครับ ไม่มีข้อมูลอ้างอิงแม้แต่น้อย)

Catalyzed polymer finish ที่หายใจใด้เพิ่งคิดค้นใด้ในปี 1995 โดยมี Taylor
นำมาใช้เป็นเจ้าแรกครับ

เรื่อง finish ชนิดต่างอ่านใด้ในกระทู้นี้ครับ

http://www.nimitguitar.com/mybb/showthre...742&page=2

ส่วนการแก้ไขเรื่องกีต้าร์เป็นฝ้านั้นคงต้องลอกแล้คเคอร์ออกทั้งตัวและเคลือบใหม่
โดยใช้ nitro finish ครับ
ไม่เคยเห็นเลยครับ วันหลังขอชมบ้างนะครับ
จดๆๆๆ
ความรู้ทั้งนั้น!!!
เป็นฝ้าต้องใช้ครีมกวนอิมครับ แฮ่ๆ ล้อกันเล่นครับ Takamine N10 และ EN40C Made in Japan ของผมก็เป็นฝ้าเหมือนกันครับ
ผลิตมาเป็นพันรุ่นเชียวรึนี่....ผมยังชิมไม่ถึงสิบรุ่นเลยมั้ง