NimitGuitar webboard

ผมไม่มี Guild จากโรงงาน New York และ New Jersey นะครับเพราะตามตำนานเขาว่ากันว่ายุครุ่งเรืองของ Guild เริ่มในยุค 70's ซึ่งเป็นยุคตกต่ำของ
Fender, Gibson และ Martin เนื่องจาก Guild สร้างโรงงานใหม่และจ้าง
มือดีจาก Gibson มาควบคุมสายการผลิตทั้งหมดที่ Westerly, Rhode Island
ในปี 1969 ขณะที่สามเจ้าใหญ่ตอนนั้นผลิตไม่ทันขายเลยต้องเร่งผลิตจนคุณภาพ
ตกต่ำลง

มาเริ่มจากกีต้าร์ตัวแรกที่ผมซื้อด้วยสตางค์ของตัวเองครับ

1972 G-37 Blonde

สมัยนั้นผมไม่มีความรู้เรื่องกีต้าร์โปร่งเลยครับ จำใด้ว่าพอไปลองที่ร้านเขาก็เอา
Martin D-28 มาให้ลองแต่ผมกลับไปชอบ Gibson J-200 ซึ่งเกินงบไปมาก
เจ้าของร้านเลยบอกว่ามี่ Guild ที่เป็น dealer's sample อยู่ตัวหนึ่งที่เสียงดัง
มากและไปหยิบมาให้ลอง ผมลองอยู่สิบนาทีก็ซื้อเลยในราคาประมาณ 8,000
บาท (ตอนนั้นกำลังเห่อ John Denver อยู่แล้วด้วย)




ไม้หลังเป็น arched maple ไม่มีลวดลายครับ




ไม้หน้าสีเข้มขึ้นตามอายุของมัน มีร่องรอยกาวตรง bridge ที่เคยส่งกลับไปซ่อม
ฟรีที่โรงงานเพราะมันเผยอเมื่อสามสิบห้าปีที่แล้ว กีต้าร์ตัวนี้ไม่เคยเปลี่ยนชิ้นส่วน
อะไรเลยครับ bridge pin ตอนนี้เหลืองอ๋อยเลย ถ้าเปลี่ยนเสียงคงดีขึ้นเยอะแต่
ไม่อยากเปลี่ยนครับ




Headstock ตัวนี้มี G shield ด้วยซึ่งรุ่นที่ออกขายเป็นทางการในปี 1973 ไม่มี
ครับ




คอเป็น mahogany มี wings ที่ headstock (รุ่นหลังคอเป็น maple) ลูกบิดเป็น
แบบ open gear (รุ่นหลังเป็นแบบปิด) ซึ่งใช้มาหลายสิบปีแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร




ตัวนี้ติด active pickup ของ Fishman เมื่อสิบปีที่แล้ว




ในตัวมีรอยจุดด่างๆไม่รู้ว่าเป็น coke หรือรอยน้ำหมาก

---

1988 3C Classical

ในยุค '60s Guild และ Gibson ทำกีต้าร์สายไนล่อนออกมารับ Folk boom
แข่งกันอยู่สองเจ้าเป็นว่าเล่นและก็ใด้รับความนิยมพอสมควร กีต้าร์พวกนี้เสียง
ไม่เหมือนกีต้าร์ classic แต่เน้นเสียงกลางสไตล์ famingo มากกว่า

Gibson เลิกผลิตไปในยุค 70s แต่ Guild ก็ยังทำขายมาเรื่อยฯจนถึงกลางยุค
80s ก็เลิกผลิตเองและไปจ้างให้โรงงานในสเปนผลิตแทน




ตัวนี้ไม้หน้าเป็น cedar ไม้หลังและไม้ข้างเป็น mahogany ครัย




Binding เป็นไม้ maple




ผมติด LR Baggs Double Barrel ที่เป็น mic และ UST stereo output มาจาก
อเมริกาครับ

---

2002 JF-30 Sunburst (Corona plant)

ตอนที่ Fender ตัดสินใจปิดโรงงาน Guild ใน Rhode Island ลงในปี 2001
Fender ก็ตัดสินใจสร้างโรงงานใหม่ที่ Corona, California เพื่อผลิตกีต้าร์โปร่ง
Guild เพราะที่นั้นมีแต่โรงงานผลิตกีต้าร์ไฟฟ้าอย่างเดียวเลย (กีต้าร์โปร่งยี่ห้อ
Fender ทั้งหมดผลิตแถวบ้านเราครับ)

ปัญหาใหญ่ของ Fender ตอนนั้นก็คือช่างของโรงงานเก่าไม่มีใครยอมย้ายมาอยู่
California เลยซักคนเดียว Fender เลยต้องยืมตัวช่างจาก Guild Custom Shop
ที่ Nashville มาช่วยสร้างโรงงานใหม่และสอนคนงานที่จ้างใหม่ให้ทำกีต้าร์โปร่ง
จนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง แหล่งข่าวที่โน่นเขาบอกว่าตอนผลิต lot แรกฯนั้นคุณภาพ
ก็ดีอยู่หรอก แต่ต่อมาก็เริ่มแย่ลงแบบบางตัวก็ดีใจหาย บางตัวก็เสียงไม่ใด้เรื่อง
จนเมื่อ Fender ไปซื้อ Tacoma ใด้ในปี 2004 ก็เลยปิดโรงงาน Corona มันซะเลย


ตัวนี้ไม้หน้าเป็น sitka spruce ไม้หลังเป็น arched maple ไม้ข้างเป็น solid maple ขนาดใหญ่โต (กว้าง 17" หนา 5") เพราะเน้นเรือง volume










ตัวนี้เป็นล้อตแรกและเป็นตัวที่ 38 ที่ผลิตโรงงานนี้ มี Fishman ติดมาจากโรงงาน
ด้วยครับ



กีต้าร์โปร่ง Guild Corona นี่มักขายกันราคาต่ำกว่าโรงงานอื่นใน eBay ถ้าใคร
จะสอยโดยไม่ใด้ลองผมแนะนำให้เลือกเอาตัวที่ serial number ต่ำกว่าร้อยดีกว่า
นะครับ

2008 GAD-30 (China)

รุ่นนี้ความจริงแล้วเป็นกีต้าร์ที่คุ้มค่ามาก งานประกอบและวัสดุที่ใช้ก็เยี่ยมเพราะ
ทำโรงงานเดียวกับ Blueridge ราคาก็ถูกมากสำหรับ all solid

กีต้าร์ตัวนี้ผมภูมิใจมากเพราะน้าหนึ่งกับผมเป็นผู้ชุบชีวิตให้มัน ตอนที่น้า Toony
เอาลงมาจากเชียงใหม่มันมีปัญหาสองเรื่องที่เกิดจากร้านขายกีต้ารืที่ไร้ความรับ
ผิดชอบคือ

1. Action สูงปรี้ด ขนาดน้า Toony ใส่สายเบอร์สิบแล้วยังเล่นเจ็บนิ้ว น้าหนึ่งเลย
ต้องตั้งคอและปรับ saddle ใหม่หมด คราวนี้ใส่สายเบอร์สิบสองยังเล่นสบายครับ
เสียงก็ดีขึ้นด้วย

2. ตอนที่โชว์อยู่คงมีคนเอาไปกระแทกจนเกิดรอยบุบนิดนึงแถว lower bout
เจ้าของร้านก็เล่นเอากาวตราช้างมาอุดเฉยเลย ตอนแรกมันก็พอตบตาคนซื้อใด้แต่
พอใช้ไปเดือนสองเดือนกาวมันเริ่มขุ่นกลายเป็นวง คราวนี้คนซื้อก็ซวยไปครับ
ผมต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อลอกกาวออกแล้วแก้ไขอย่างถูกวิธีโดยการ
steaming (ใช้ผ้าชุบน้ำหุ้มหัวแร้งกด ไม่เคยทำอย่าลองนะครับ) เพื่อให้ไม้ตรงที่บุบมันคืนตัวกลับมาเหมือนเดิม

ตอนนี้เลยแจ่มแจ๋วตามรูปครับ
















จบภาคสองครับ

ฐานะที่มี Guild รุ่้นล่าง ๆ (DCE1 แต่ผมรักและชอบเสียงตัวนี้มาก) กะเขาอยู่ตัวหนึ่ง
่เลยมาเสริมอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ...

หากอยากตรวจสอบ Serial Number ว่ารุ่นไหนผลิตเมื่อใด ลองเข้าไปได้คร่าว ๆ ที่...
http://www.guitarnucleus.com/guildserial.html

ส่วนตัวอยากได้ GAD-30r (China) ครับ สวยมากๆเลย แต่หูผมมันเสียฟังตัวไหนก็เสียงดีไปหมดเลยเน้นที่ความสวยไว้ก่อนครับ คริๆ

แหล่มเลย

ผมอยากทราบวิธีการทำ steaming ครับ

พวกรอยบุ๋มเล็กๆสามารถกลับคืนมาได้จริงเหรอครับ

(26-08-2008, 15:37).::.pOoH.::. Wrote: [ -> ]แหล่มเลย

ผมอยากทราบวิธีการทำ steaming ครับ

พวกรอยบุ๋มเล็กๆสามารถกลับคืนมาได้จริงเหรอครับ

http://www.frets.com/FretsPages/Luthier/...mout1.html

อยากถามน้ากฤษณ์ว่า Guild ที่โรงงานไหนที่ถูกขายออกได้น้อยที่สุดครับ
จนบริษัทอยู่ไม่ได้ ผมรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าน้ากฤษณ์เคยบอกไว้แต่จำไม่ได้แล้ว

(26-08-2008, 22:05)pood Wrote: [ -> ]

(26-08-2008, 15:37).::.pOoH.::. Wrote: [ -> ]แหล่มเลย

ผมอยากทราบวิธีการทำ steaming ครับ

พวกรอยบุ๋มเล็กๆสามารถกลับคืนมาได้จริงเหรอครับ

http://www.frets.com/FretsPages/Luthier/...mout1.html

WOW WOW WOW! สุดยอดเลยครับ วิธีพ่อมดชัดๆ แหล่มสุดๆ

ขอบคุณครับ

(28-08-2008, 09:17)Maow Wrote: [ -> ]อยากถามน้ากฤษณ์ว่า Guild ที่โรงงานไหนที่ถูกขายออกได้น้อยที่สุดครับ
จนบริษัทอยู่ไม่ได้ ผมรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าน้ากฤษณ์เคยบอกไว้แต่จำไม่ได้แล้ว

ถ้าไม่นับโรงงานสมัยบุกเบิกคือ work shop เล็กๆใน New York ผมคิดว่าโรงงาน
ที่ Fender สร้างใหม่สำหรับผลิต acoustic Guilds ที่ Corona น่าจะมียอดผลิตน้อยสุดครับเพราะผลิตใด้รุ่นละร้อยสองร้อยตัวเท่านั้น

น้ากฤษณ์ครับ เห็น guild gad30 แล้วก็แอบคิดถึงเหมือนกันครับ เห็นแล้วอยากลองจับมาเล่นอีกครั้งเลยครับ ผมไปลองตัวอื่นมาผมว่าเสียงมันไม่เหมือนกับตัวที่ผมซื้อมาครับ ตอนนี้กีตาร์ได้อยู่ที่น้ากฤษณ์แล้ว อีกทั้งน้าชุบชีวิตขึ้นมาใหม่อีก ไว้ซักวันจะขอกลับไปลองอีกครับ น้าคงไม่ว่าอะไรนะครับ