07-08-2008, 01:52
07-08-2008, 01:52
.::.pOoH.::. Wrote:โหว...ล่มกระทู้น้ากิจจังซะเลย ฮี่ๆๆๆๆ
รถบังคับมันไม่ถึงใจอ่ะครับพี่ "ตัวไม่ได้ถูกขับเคลื่อน"
Kyosho เคยซื้อมอเตอร์มาโมฯเล่นตอนม.ปลาย เป็นรถไฟฟ้าครับ จี๊ดสุดๆ
ตอนนี้นั่งดูตัวกล่องไม้ขีดงามๆ เอามายำเล่นดีกว่า เอิ๊กสส์
มันต่างกัย ลิบ ครับ ลองเครื่องยนต์แล้วจะ ลืม ไฟฟ้าไปเลย 555 แรงบิดคนละเรื่อง
มาๆ มา จี๊ดๆๆๆๆๆ ด้วยกัน เร๊ววว
07-08-2008, 01:55
หง่ะ...ตอบพร้อมกัน 2 ทีละ...
คงต้องขอตัวไปนอนก่อง ตาปรือละครับ บ๋ายยยบ บายยยยยย
คงต้องขอตัวไปนอนก่อง ตาปรือละครับ บ๋ายยยบ บายยยยยย
07-08-2008, 02:01
หง่า )))) ยุมะขึ้นเลยวุ๊ยยยย
07-08-2008, 02:09
ยอดเยี่ยม69 Wrote:[/color]LittleNomad Wrote:น้าชัย แกอ้างการไหว้พระเพื่อหาเรื่องเที่ยว...ถ้าจะไหว้พระตามปีเกิด แบบไทย (อันที่เป็นประเพณีคนเหนือ -น้าชัย ก็คนเนี๋ย ทำเป็นบ่ฮู้บ่หัน)
ผมอ่านจากหนังสือไหว้สาป๋าระมี พระบรมธาตุดอยสุเทพ วิสาขบูชา ๒๕๔๘ หน้าที่ 56 ครับน้าอ้วน
มีใจความว่า คนล้านนาไทยมีความเชื่อถือในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะเป็นศิริมงคล โดยยึดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญเป็นที่เคารพกราบไหว้ตามรอบปีเกิดดังนี้ (คนไทยภาคอื่นจะปฏิบัติตามก็ไม่ผิดกฎหมายนะครับ)
1-2-3-4-5-6
7. ปีสะง้า (มะเมีย นักษัตร ม้า) ไหว้ พระธาตุตะโก้ง หรือ ชเว ตะโกง ประเทศพม่า ('ชเวดากอง' อ้างจากน้าอ้วนเอง) [color=#FF0000]
8-9-10-11-12
้
สงสัยว่าคนเขียนน่าจะจบจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ข้อมูลเลยคลาดเคลื่อน เดี๋ยวผมต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกทางหนึ่ง ไม่อย่างงั้นสมาชิกบ้านม้าจะไขว้เขวกัน เดี๋ยวไม่มีใครไปเที่ยวกับผมแน่เลย
จริงอยู่ครับ...ตำราไหว้ธาตุตามปีเกิดหลายเล่มหลายสำนวน เขียนไว้อย่างที่น้าชัย ยกนำมาอ้าง...
แต่ในแง่ตรรกะ ที่ผมหยิบมาแย้ง เพราะมันทะแม่ง ๆ พิลึก ซึ่ง 11 ปีเกิด ทั้งหมดล้วนไหว้ในประเทศไทย มีแต่ปีสะง้า ที่ทะเล่อทะล่าอยากไปไหว้ต่างแดน!!!
...มันก็เลยดูเหมือนเข้าทาง ให้คนอยากเที่ยวเอามาอ้างหาเพื่อนแก้เหงา... -เท่านั้น...
แล้วก็ไม่จำเป็นต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม และคนเขียนให้น้าฯ เอามาอ้างก็ไม่ได้เรียนมาจาก "มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน" ของอาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์ หรอก
แล้วถ้าตำราที่น้าฯ อ้าง เขียนเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘ ตอนนั้น "มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน" ยังเป็นวุ้นอยู่เลย! เพราะศาลาความรู้ทางอินเทอร์เน็ตแห่งนี้ เผยแพร่เป็นครั้งแรกทางสื่อยุคโลกาภิวัฒน์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2548 ครับ...
สำหรับความเชื่อเรื่องไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิด
หากเป็นคนมีสังเกตเป็นธาตุประจำตัว ไม่มั่ว ๆ อ้างสั่ว ๆ เพราะอยากเที่ยว ก็คงสังเกตจับได้ว่าน่าจะมาจากประเพณีพี่น้องทางภาคเหนือ...
ผมบอกน้าฯ เอาบุญก็ได้ครับว่า...
...ความเชื่อเรื่องไหว้พระธาตุประจำปีเกิดดังกล่าว เป็นวัฒนธรรมพี่น้องชาวล้านนา ซึ่งโยงมาจากคติที่ว่า... มนุษย์ทุกคนเกิดตามกรรมบุญที่สั่งสมไว้แต่ปางก่อน เมื่อสิ้นอายุขัย (ปางก่อน) ก็จุติ (ตายแล้วไปเกิด) ตามปัจเจกบุญกรรมที่ก่อ ดวงวิญญาณที่เป็นกุศล ก็จะจุติไปสถิต ณ พระธาตุเจดีย์ต่าง ๆ ตรงตามกุศล ส่วนใครที่มีกรรมก็เกิดไม่ตรง เลยต้องหาโอกาสไปนมัสการยังพระธาตุประจำปีกเกิด เพื่อจะได้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต...
แล้วน้าชัยฯ ในฐานะลูกหลานชาวล้านนา
น้าฯ รู้หรือไม่ว่า ใครเป็นคนคิดคติการไหว้พระธาตุปีเิกิด?
ลองไปค้นข้อมูลหน่อยครับ...
...อย่างไรก็ตาม ถ้าน้าชัย อยากไปพม่า อยากไปดูไปไหว้ ชเว ตะโกง (ชเว ภาษาพม่าแปลว่า ทอง : ตะโกง เป็นคำโบราณหมายถึง มอญ)
ในเดือนมกราคม ปีหน้า...ไปกับผมไหม?
พอดีผมมีแผนจะไป รัคขิ่น (ยะไข่ รัฐสุดตะวันตกของพม่า ติดบังคลาเทศ) ที่นั่นมีเมืองโบราณ ที่เต็มไปด้วยซากโบราณสถาน ซึ่งยังไม่ถูกการท่องเที่ยวย่ำยี... ผมจะแวะ ยางโกง (ย่างกุ้ง) ด้วย จะพาน้าฯ ไปไหว้พระธาตุ ชเว ตะโกง (เรื่องปีเกิดไม่ต้องห่วง เพราะรอบมหาพระธาตุเจดีย์องค์นี้ มีพระ มีแน็ต (ผีดี) เรียงรายให้ไว้ตามปีเกิดและละเอียดถึง "วันที่เกิด " ไม่ว่าจะ อาทิตย์-จันทร์-อังคาร-ฯลฯ ครบอย่างไม่ขาดตกหล่น...
แล้วถ้าจะบนบานอะไร ก็อย่าทำนิสัยบนบานติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบบ้านเรานะครับ!...
เพราะชาวพม่า ไม่ติดสินบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จะถวายก่อนขอ
ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะประทานให้หรือไม่ นั่นก็เป็นเรื่องการตัดสินใจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์..
07-08-2008, 02:28
LittleNomad Wrote:...อย่างไรก็ตาม ถ้าน้าชัย อยากไปพม่า อยากไปดูไปไหว้ ชเว ตะโกง (ชเว ภาษาพม่าแปลว่า ทอง : ตะโกง เป็นคำโบราณหมายถึง มอญ)
ในเดือนมกราคม ปีหน้า...ไปกับผมไหม?
พอดีผมมีแผนจะไป รัคขิ่น (ยะไข่ รัฐสุดตะวันตกของพม่า ติดบังคลาเทศ) ที่นั่นมีเมืองโบราณ ที่เต็มไปด้วยซากโบราณสถาน ซึ่งยังไม่ถูกการท่องเที่ยวย่ำยี... ผมจะแวะ ยางโกง (ย่างกุ้ง) ด้วย จะพาน้าฯ ไปไหว้พระธาตุ ชเว ตะโกง
ส่วนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะประทานให้หรือไม่ นั่นก็เป็นเรื่องการตัดสินใจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์..
น้องหนึ่งสนใจไปด้วยครับ เอาจริง.... เห็นเค้าว่า ที่นั่นเหมือนเชียงใหม่สักเมื่อ 100 ปีก่อน ไม่รู้จริงไหม
[attachment=9821]
รบกวนน้า LittleNomad ในเรื่องรายละเอียด การเตรียมตัวเดินทางด้วยนะครับ
ไว้ว่างๆ ค่อยคุยกัน เนิ่นๆก็คงดี จะได้เตรียมตัวให้พร้อม
07-08-2008, 02:57
hattaya111 Wrote:น้องหนึ่งสนใจไปด้วยครับ เอาจริง.... เห็นเค้าว่า ที่นั่นเหมือนเชียงใหม่สักเมื่อ 100 ปีก่อน ไม่รู้จริงไหม
รบกวนน้า LittleNomad ในเรื่องรายละเอียด การเตรียมตัวเดินทางด้วยนะครับ
ไว้ว่างๆ ค่อยคุยกัน เนิ่นๆก็คงดี จะได้เตรียมตัวให้พร้อม
...ผมเกิดไม่ทันครับน้าหนึ่ง เลยไม่รู้ว่าสภาพเชียงใหม่เมื่อร้อยปีก่อนเป็นอย่างไร...
แต่เมืองในพม่า ที่กำลังจะไปช่วงเดือนมกราฯ ปีหน้า
เส้นทางนี้ผมเคยไปมาแล้ว 2 หน...
(ตอนนี้) เป็นเมืองที่ผมชอบอันดับต้น ๆ ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้...
จากกรุงเทพฯ บินไป ยางโกง (ย่างกุ้ง) แล้วบินต่อไปอีกชั่วโมงเศษถึง ซิตเวย์ (เมืองเอกของรัฐรัคขิ่น)
ซิตเวย์ เป็นเมืองที่พวกจักรวรรดิอังกฤษมาสร้างไว้สมัยยึดครองพม่า เคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในอ่าวเบงกอล แต่เมืองทั้งเมืองก็ถูกเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดทำลายจนหมดสิ้น เหลือแต่หอนาฬิกาโครงเหล็กเก่า ๆ หอเดียว
แต่วิถีชีวิตที่นั่้นในปัจจุบันยังเต็มไปด้วยสีสันพื้นเมือง...
จาก ซิตเวย์ นั่งเรือเลียบชายฝั่งทะเลอีกประมาณ 5-6 ชั่วโมง ไปเมืองมะรัคอู ราชธานีเก่า
ระหว่างทางในช่วงฤดูหนาว นอกจากจะเห็นฝูงนกอพยพย้ายถิ่นจากซีกโลกเหนือ นับพันนับหมื่นตัวแล้ว ท้องทะเลยังแต่งแต้มไปด้วยเรือใบของชาวบ้าน...
ครับ...ผู้คนชายทะเลแถบนี้ ยังใช้เรือใบ, เรือใบบางลำ กางใบด้วยผ้าโสร่ง!!!...
ตัวเมืองมะรัคอู เงียบ...กลางวันไม่มีไฟฟ้า รถยนต์นาน ๆ ถึงจะเห็นสักคัน
ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้จักรยาน... รถรับจ้างคือสามล้อถีบ...
รถเกวียนเทียมม้า เป็นภาพธรรมดาของที่นี่...
รอบ ๆ เป็นเมืองโบราณ เต็มไปได้วยซากเจดีย์นับร้อยแห่ง...
เอาไว้ว่าง ๆ จะมาเล่าต่อ...
07-08-2008, 03:07
ดูจากภาพแล้วสวยจังครับ
07-08-2008, 03:44
น้าWeb. ชอบหรือครับ...
งั้นเอารูปมาให้ดูอีก...
งั้นเอารูปมาให้ดูอีก...