NimitGuitar webboard

Full Version: ......ดนตรี.....ในทัศนะของข้าพเจ้า.......
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
ว่าด้วยเรื่องของการเล่นสนับสนุน

ขอพูดถึงปัญหาที่พบเจอเกิดขึ้นบ่อย เรื่องนี้นับว่าสำคัญมาก เเต่ถูกมองข้าม ปล่อยผ่านเลยไปอย่างน่าตกใจ

สิ่งที่เขียนขึ้นมานี้ ขอให้ใช้ความอดทนด้วยสติปัญญา เเละ วิจารณญาณในการอ่าน

ข้าพเจ้าไม่ใช่นักเขียน เเต่มีความปราถนาดีจะเล่าให้ฟัง ดังนี้



ในเรื่องของดนตรี ใน 1 บทเพลงมีส่วนประกอบสำคัญหลักๆคือ

melody harmony rythm ดังที่เคยกล่าวถึงเอาไว้แล้ว

ในสร้างบทเพลง หรือ เวลาที่มีการร่วมบรรเลงกับผู้อื่น ส่วนที่เรามักมองข้ามไปคือ

counter melody

อันประกอบไปด้วย harmony และ rythm

ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่จะดัน เสริมแต่งให้ melody มีความชัดเจนโดดเด่นสวยงามขึ้น




ในการเรียนการสอนที่ผ่านมา ทั้งพบเจอด้วยตัวเอง และ เท่าที่สังเกตุมา

มักจะให้ความสำคัญกับเรื่องการ solo การสร้างสอนทักษะ เทคนิคต่างๆ ให้เล่นในตัวบทเด่นในบทเพลง



การจะมีพระเอกที่ดี คือ solo melodyที่ดี จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี counter melody ที่ดี

ทาง chord และ rhythm ที่ดีที่เข้าใจ grove จะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะสนับสนุนทิศทางที่จะดำเนินไปในบทเพลง



คนส่วนมากจะถูกฝึกให้มีความสามารถเข้าใจบทเด่น เป็นแต่พระเอกเพียงอย่างเดียว

ไม่ได้เข้าใจในการเล่นเสริมบทเด่น เล่นตัวประกอบมากนัก

จากในประสพการณ์ที่ ได้ร่วมบรรเลงดนตรีกับผู้อื่น มามากพอสมควรนั้น

ได้ทำให้ข้าพเจ้าได้มองเห็นเรื่องนี้ผ่านเข้ามา มีปัญหากับผู้เล่นจำนวนมาก

ที่เวลารับบทsolo ทำได้ดีมาก แต่เวลาเล่นประกอบ เล่นสนับสนุนผู้อื่นแล้ว

กลับก่อปัญหาทำให้บทเพลงเสียทิศทาง ในการเคลื่อนที่อย่างมีองค์ประกอบที่ดี

การเล่นอย่างเข้าใจในบทบาทของตน เวลาที่แสดงคือ ส่วนที่สำคัญที่อาจมองข้ามไป

จริงๆมีความสำคัญกว่า คุณเล่นคล่อง เล่นเร็ว soloดีเพียงไหน



มาเมื่อควรมา ไปเมื่อควรไป


จริงๆมันคือกฎของยุธภพ คำพูดที่เรียบง่าย แต่ทำกันไม่ค่อยได้

คนมักจะหยุดนิ่งรอ ปล่อยที่ว่าง เล่นโน๊ตตัวหยุด บรรเลงโน๊ตเงียบกันไม่เป็น

การเข้าใจมารยาทของการเล่นบท พูดเมื่อควรพูด พูดเสริมบทในการสนทนา การเชื่อมต่อเรื่องในการสนทนาสื่อสาร

คนเรามักไม่เข้าใจการเล่นบทสนับสนุน แต่ มักถนัดพูดแทรก ชิงตัดบท เสร่อกันแบบไร้มารยาท ไร้กาละเทศะ ดูไร้การศึกษา

อยากขอประนามว่า น่าสมเพส อุบาทว์หูยิ่งนัก ใส่สูทมา แต่ร่วมสนทนา เหมือนแมลงสาบผายลม

ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าคนจำพวกนี้ มีรสนิยมในการมีชีวิตอย่างไร

ช่างแร้นแค้นสติปัญญา อัตคัตรสนิยมเป็นยิ่งนัก /หมายถึงในวงการนักดนตรีอาชีพ ที่วิ่งไล่งับกระดูกอย่างเพ่นพ่านนะครับ/

ช่างน่าตกใจยิ่งนัก ที่มีแต่นักดนตรีที่ถูกผลิตออกมาเช่นนี้มากมายเหลือเกิน



กาละเทศะ.................


การเข้าใจในพื้นที่ว่าง เป็นส่วนสำคัญ ของการจัดวางองค์ประกอบของดนตรีที่เรียบง่าย และ พื้นฐานที่สุด

แต่คนมักไม่เข้าใจ และ มองข้ามมันไป

การขยันเล่นจนเกินเหตุ ใช้นิ้วนำสมอง ไม่ใช่สมองนำนิ้ว

ก่อให้เกิดโน๊ตที่เกินจำเป็น ที่จะสร้างความไม่ไพเราะต่อบทเพลง

อาจจะขัด grove ขัด melodyหลัก แต่คนเล่นอาจไม่ทันได้ฟังในภาพรวม จะมองโจทย์ในเชิงมิติเดียว ไม่มองในหลายมิติ



ก่อนเล่นในแต่ละโน๊ต เราต้องนึกก่อนเลยว่า เล่นทำไม เล่นเพื่ออะไร จะสื่ออะไรกับสิ่งที่เล่น

บางทีโน๊ตหลักเค้าอยู่ในจังหวะที่มีความถี่ห่างมากๆ เป็นโน๊ตเสียงยาวๆ เราอาจจะเน้นในพยางค์ของปลายจังหวะเพียงเล็กน้อย

ไม่ต้องใช้โน๊ตที่วิ่งมาก หรือ อาจวิ่งแต่ใช้ในอีกสัดส่วน ที่ล้อ หรือ เล่นในแนวประสาน อาจจะคู่ 4 คู่ 5 ตามเหมาะสมของ chord

ซึ่ง harmony และ groveก็จะบอกในสไตล์ที่เราต้องการสื่อ


อาจจะมองในเชิง หยินหยางได้ คือ มีขาวในดำ มีดำในขาว

แนวโน๊ตลายนึงวิ่ง อีกลายน่าจะสงบ มีเสียงโน๊ตหลัก อยู่ในเสียงที่สูง เราน่าจะไม่เล่นสูงกว่า ในเวลานี้

หรือ สูงกว่า ทำไปทำไม มีได้บ่อยแค่ไหน เพื่ออะไร



จริงๆแล้วทุกอย่างคือ การเข้าใจธรรมชาติ ของการจัดองค์ประกอบให้สื่อสารอย่างแนบเนียน




คำว่าเล่นเพื่อสื่ออะไร


คำๆนี้มีความจำเป็น และ สำคัญมากๆแต่มักได้รับการปฎิบัติในทางตรงข้ามเสมอ



ในที่นี้เราพูดถึงการใช้ปฎิภาณในการเล่นสด ซึ่งต้องมองหลายมิติในเวลาเดียวกัน

คือ ให้มอง อดีต ปัจจุบัน อนาคต เช่นที่ผ่านไปแล้วเกิดสิ่งนี้ เล่นสิ่งนี้ เวลานี้เกิดสิ่งนี้

เราจะทำยังไงวินาทีนี้ เผื่อต่อไปต้องเล่นอย่างไรอีกในอีกท่อนข้างหน้า เราทำอะไรไปแล้วบ้างเมิ่อท่อนเริ่ม


เมื่อกี้ท่อนนี้ใช้ความดังเท่านี้ ตอนนี้ควรทำอย่างไร เพื่อ ในท่อนต่อไปจะเกิดสิ่งไหน



ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีเหตุผล ทุกสิ่งส่งผลต่อเนื่องกัน

สั้น ยาว หนัก เบา ก่อให้เกิดพื้นผิวที่น่าสนใจในบทเพลง

วลีหลายๆคำ เรียงร้อยเกิดประโยค หลายประโยค แบ่งเป็นท่อน ท่อนต่างๆต่อทอดเนื่องกัน ทำให้เกิดดนตรี




การเล่นสนับสนุน เล่นร่วมกับผู้อื่น โดยการใช้ปฎิภาณในการเล่นสดนั้น

ต้องคิดให้เข้าใจว่า เราเป็นตัวรองท่อนไหน ตรงไหนต้องเด่นเป็นพระเอก

การเล่นในความถี่เสียงแหลมดัง กลบสิ่งใดในบทเพลง ที่คนอื่นแสดงอยู่หรือเปล่าว

หรือ ขัดแย้งแย่งบทของ melodyหลักหรือเปล่าว


ความถี่ของคลื่นเสียงในเครื่องที่เราเล่น รบกวน ตีกับผู้อื่นอย่างไร เราต้องคิดเผื่อในเรื่องของการ mix ด้วย ในองค์ประกอบของความถี่เสียง

range ของเครื่องดนตรีชิ้นต่างๆ หรือเครื่องเดียวกัน แต่คนละบุคคล ต้องปรับแต่งอย่างไร ในอยู่ร่วมกันได้ดี

ในที่นี้อาจจะไม่จำเป็นต้องปรับให้มีความถี่เสียงเท่ากัน อาจแหลมทุ้มในย่านความถี่ที่ต่างกัน แต่อยู่ชดเชยการขาดหายของเสียง ในกันและกัน



ดังในท่อนที่ควรดังเล่นดัง เล่นเบาเมื่อควรเบา

คำๆนี้มีความความสำคัญที่จะทำให้คนที่มีความสามารถมาก เป็นไอ้โง่ หรือ คนโง่เป็นอัจฉริยะได้

ดังจะเห็นมาอย่างมากในชีวิตการเล่นดนตรีที่ผ่านๆมา


นักดนตรีที่เล่นสนับสนุนที่ดี มักจะมีหลักการคิดเท่าที่ได้สังเกตุ และ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้มานั้น

จะให้ความสำคัญในการคิดมากกว่าเล่น

ดังคำพูดง่ายๆเช่น.........

เล่นให้เหมือนไม่มีอยู่ แต่ขาดไปแล้วจะรู้สึกไม่สมบูรณ์

เล่นให้หลุด พลาดน้อยที่สุด รู้จักการอยู่นิ่งในช่องว่าง

พลาดแม้ไม่กี่ตัวในบทเพลง ก้อเหมือนเราทำลายโน๊ตที่เล่นมาทั้งเพลง


การเล่นดนตรี เหมือนเราแต้มสีลงในพื้นที่ว่างเปล่าว ต้องมีช่องว่างมีอากาศที่เหมาะสม

ไม่ใช่รกจนดูไม่ออกว่าในพื้นที่มีอะไรบ้าง อะไรจุดเด่น อะไรจุดรอง

การเล่นสนุกในความว่างเปล่าวทางดนตรี จะมีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวด้วย

ซึ่งตรงนี้จะทำให้แตกต่างจากศิลปะในเชิงวาดเขียนอย่างมาก

มิติที่แสดงออก ในเรื่องของเวลา จะมีข้อจำกัดก่อเงื่อนไขในการคิดเสดง


ซึ่งจะอธิบายในตอนต่อไป
ลงชื่อเข้าชม
อ่านหมดแล้ว ติดตามอยู่ครับ
ลงชื่อเข้าชม เช่นเดียวกับน้ารันครับ.....

รู้สึกเหมือนโดนด่า แบบนี้มาเมื่อวันเสาร์ ณ หัวหิน....เอิ๊กส์ เอิ๊กส์
มาลงชื่อเข้าห้องเรียนด้วยคนครับน้า...
พี่น้องของบ้านนี้ ผมไม่มีเจตนาว่าเลย

ผมเน้นพวกมืออาชีพ ที่ร่ำเรียน เเล้วไม่เข้าใจพื้นผิวของเรื่องภาคตัวเเสดงสมทบ

เกิดมา solo ..hero เล่นไม่ฟังใคร เเล้ว ไม่พัฒนา เจตนาคือ อยากให้พวกนั้นอ่านโดยเฉพาะ เเต่มาลงที่นี่ไว้ เพื่อให้ผู้สนใจได้อ่านบางส่วนที่จะเกิดประโยชน์

ผมกราบเลยนะ ไม่มีเจตนาว่า พี่น้อง หรือ นักดนตรี ที่กำลังพัฒนาตัวเองเลย กลัวเข้าใจผิดเหมือนกันเเต่ผมเชื่อว่า คนที่เข้าใจ จะเข้าใจ

ผมรักที่จะพัฒนาในสิ่งที่ผมพอเข้าใจบ้างเท่านั้น


รักนะ จุ๊ฟๆ
hattaya111 Wrote:นักดนตรีที่เล่นสนับสนุนที่ดี มักจะมีหลักการคิดเท่าที่ได้สังเกตุ และ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้มานั้น

จะให้ความสำคัญในการคิดมากกว่าเล่น

ดังคำพูดง่ายๆเช่น.........

เล่นให้เหมือนไม่มีอยู่ แต่ขาดไปแล้วจะรู้สึกไม่สมบูรณ์

เล่นให้หลุด พลาดน้อยที่สุด รู้จักการอยู่นิ่งในช่องว่าง

พลาดแม้ไม่กี่ตัวในบทเพลง ก้อเหมือนเราทำลายโน๊ตที่เล่นมาทั้งเพลง

ชอบอันนี้อ่ะ.. อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆครับ..

และผมเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า.. " มาเมื่อควรมา ไปเมื่อควรไป "
hattaya111 Wrote:พี่น้องของบ้านนี้ ผมไม่มีเจตนาว่าเลย

ผมเน้นพวกมืออาชีพ ที่ร่ำเรียน เเล้วไม่เข้าใจพื้นผิวของเรื่องภาคตัวเเสดงสมทบ

เกิดมา solo ..hero เล่นไม่ฟังใคร เเล้ว ไม่พัฒนา เจตนาคือ อยากให้พวกนั้นอ่านโดยเฉพาะ เเต่มาลงที่นี่ไว้ เพื่อให้ผู้สนใจได้อ่านบางส่วนที่จะเกิดประโยชน์

ผมกราบเลยนะ ไม่มีเจตนาว่า พี่น้อง หรือ นักดนตรี ที่กำลังพัฒนาตัวเองเลย กลัวเข้าใจผิดเหมือนกันเเต่ผมเชื่อว่า คนที่เข้าใจ จะเข้าใจ

ผมรักที่จะพัฒนาในสิ่งที่ผมพอเข้าใจบ้างเท่านั้น


รักนะ จุ๊ฟๆ


มามะ มาดูดปาก ทีนึง...อาจารย์หนึ่ง 555
ลงชื่อด้วยคนครับ เป็นความคิดที่ลึกซึ้งและเป็นประโยชน์มาก ขอบคุณครับ
Run Wrote:ลงชื่อเข้าชม
อ่านหมดแล้ว ติดตามอยู่ครับ
อ่านแล้วครับ...แต่....
ขอเวลาอ่านอีกรอบ
แป๊บบบ นึงครับ Tongue
Grid.. Wrote:และผมเห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า.. " มาเมื่อควรมา ไปเมื่อควรไป "

"เมื่อไรเขามา ฉันจะไป"

Therock Wrote:มามะ มาดูดปาก ทีนึง...อาจารย์หนึ่ง 555
ต้องเอาตัวเข้าแลกวิชากันเลย เอ๋อ???

pop_250823 Wrote:เป็นความคิดที่ลึกซึ้งและเป็นประโยชน์มาก
เห็นด้วยค๊าบ
แต่ขออ่านอีกรอบนึง นะ
(เพราะไม่แน่ใจ ว่า นี่ หนึ่งหัดทายา จิงๆเหรอ 555 ไม่น่าเชื่อ สาระเพียบบ)
อ่านแล้ว . . . . . ได้ความรู้ ได้ทรรศนะ ได้เปลี่ยนมุมมอง

--------------------------------------

ขอบคุณคับ
Pages: 1 2 3