NimitGuitar webboard

Full Version: OPEN HOUSE XII เปิดบ้านครั้งที่ 12
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
ปีนี้มีกีตาร์เปิดขายดังต่อไปนี้ครับ (ติดต่อ สอบถาม 081-821-7999, Line:krispood)

CLASSICAL AND NYLON STRING GUITARS:

1. 1984 Asturias JM20 John Mills Model...SOLD

2. 2011 Jose Ramirez Anos 125 Limited Run Model.

3. 1999 K. Yairi CE-2N...SOLD

4. 2013 Martin 000C Nylon...SOLD

5. 1976 Masaru Kohno 20 Brazilian Rosewood...SOLD

6. 2009 Takamine EC132SCX.....จองแล้ว พงษ์

7. 2015 Takamine PTU340n N....SOLD


STEEL STRING ACOUSTIC GUITARS:

1. 2013 Gibson J-35...SOLD

2. 2009 Gibson J-45 True Vintage VOS

3. 1989 Gretsch 6022 Rancher 2nd. Reissue..SOLD

4. 2015 K. Yairi JY-45 BS.

5. 2002 K. Yairi RF-90 RBX

6. 1996 Martin D-18..SOLD

7. 2009 Martin HD-28


ELECTRIC GUITARS:

1. 2001 D'Aquisto Centura...SOLD

2. 2006 Gibson Les Paul Goddess Ruby Burst...SOLD

3. 2001 Gretsch 6119 Tennessee Rose...SOLD


ถ้าต้องการมาลองก่อนวันงานหรือในวันงานก็แจ้งผมใด้ในกระทู้นี้ในแบบ first come-first serve โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าไม่สะดวกหรือยังไม่พร้อมก็สามารถวางเงินจอง 2,000 บาทแล้วมาลองภายในเวลาสองเดือนครับ

แจ้งจองใด้ทาง LINE: krispood, Email: krispood@hotmail.com, SMS: 081-821-7999

งานสังสรรค์และเปิดบ้านจัดวันที่ 23 ธันวาคม ตามแผนที่เลยครับ

[Image: 6rOUWYI.jpg]


[Image: HOZzYbo.jpg]




CLASSICAL GUITARS: 1984 ASTURIAS JM20 JOHN MILLS MODEL.

Asturias JM20 คือรุ่นแจ้งเกิดของกีตารยี่ห้อนี้ในวงการกีตาร์คลาสสิคระดับ concert ของโลกและเป็นรุ่นที่ John Mills ใช้ ราคาในตอนนั้นคือ 200,000 เยนซึ่งนับว่าแพงมากสำหรับกีตาร์ที่ back and side เป็น solid indian rosewood ส่วนไม้หน้านั้นใช้ solid german spruce เคลือบผิวแบบประคบด้วยมือ 7 ชั้น

ตัวที่ลงขายนี้สภาพเกือบ 100% และน่าจะหาอีกไม่ใด้แล้วสำหรับกีตาร์คลาสสิคอายุ 34 ปีครับ

[Image: z5IUpln.jpg]



[Image: 3tMhLUC.jpg]




[Image: 7FGGKWX.jpg]



[Image: CCHD5cX.jpg]



[Image: flGxniF.jpg]



[Image: daFFTG3.jpg]



[Image: RkpHuZ1.jpg]



[Image: zyYGveq.jpg]
VIDEO:

https://youtu.be/z2tWCIlhezg

SOLD



CLASSICAL GUITAR: 2011 JOSE RAMIREZ 125 ANOS

รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัดระหว่างปี 2007-2012 ตัวนี้ไม้หน้าเป็น solid western red cedar ไม้หลังและข้างเป็น solid indian rosewood  

ตัวนี้สภาพเหมือนใหม่ครับ

[Image: 1vJJ6tK.jpg]



[Image: nzMvIVm.jpg]



[Image: 0Ll6HqZ.jpg]



[Image: lteVkqT.jpg]



[Image: rSENL97.jpg]



[Image: SXGyUfk.jpg]



VIDEO:

https://youtu.be/4iJ76oa-s_E

ราคาซื้อขายมือสอง

[Image: hBhDim6.jpg]



Inquire 081-821-7999
CLASSICAL: 1976 Masaru Kohno No. 20 Brazilian Rosewood

ปี 1976 เป็นปีสุดท้ายที่ No. 20 ใช้ brazilian rosewood ครับ ตัวนี้เสียงดีมากสภาพโครงสร้างสมบูรณ์แต่มีร่องรอยเล็กๆน้อยๆจากการใช้งานตามปกติ

[Image: U8tNWMR.jpg]



[Image: whFKuDp.jpg]


[Image: inh7ppG.jpg]



[Image: naqdSjO.jpg]



[Image: USf2V3X.jpg]



[Image: HC1at9y.jpg]



ไม้หน้ามีรอบเล็บจิกและรอยขีดข่วนองสามรอย (ถ้าต้องการให้สวยก็ลงแลกเกอร์ใหม่ใด้แต่เสียงน่าจะดรอป) Binding มีรอยแลกเกอร์ลอกบ้างในบางจุด

[Image: dTravLe.jpg]



[Image: wFCxpsF.jpg]



เท่าที่หาเจอกีตาร์ Kohno brazilian rosewood ไม่มีใครเอามาขายในสภาพเดิมๆแต่มักเอาไปทำศัลยกรรมตกแต่งแล้วขายกันแพงๆเพราะมันหายากมากแล้ว

[Image: 2DsY5am.jpg]



[Image: XeMjq9C.jpg]



ตัวนี้ผมขายให้คนนี่จะเอาไปเล่นในราคา..SOLD.. บาทเท่านั้นครับ

ตอนอัดเสียงคลิปนี้ยังไม่ใด้เปลี่ยนสายใหม่นอกจากสายสี่ ตอนนี้เสียงมีประกายมากขึ้นครับ






HYBRID GUITAR: 1999 K. YAIRI CE-2N

รุ่นนี้คือรุ่นยอดนิยมสำหรับศิลปินที่ตามปกติไม่ใด้เล่นสายไนล่อนเพราะคอแคบเท่ากับกีตาร์สายเหล็ก Carlos Santana ก็ยังใช้




ถึงแม้จะเป็นกีตาร์ตัวบาง (3 1/4") แต่เสียงเปล่าก็สู้กับกีตาร์ตัวละแสนใด้สบาย




ตัวนี้เป็นปี 1999 ใช้ปรีรุ่นสามปุ่มที่เป็นแบบ saddle 6 ชิ้นเรื่องเสียงออกแอมป์และความถึกไม่ต้องห่วงครับ

[Image: NGaETfW.jpg]



[Image: CQCDxJH.jpg]



[Image: JlsEUPz.jpg]



[Image: Ihn7gSb.jpg]



[Image: DOz0kko.jpg]



รุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้ว ราคาสุดท้ายคือ 160,000 yen +8% VAT

[Image: JXcXEdP.jpg]




..SOLD
HYBRID: 2013 MARTIN 000C NYLON.

[Image: qgISMLL.jpg]



[Image: pxVgtSZ.jpg]



[Image: LjfM4CO.jpg]



[Image: ZdbgCON.jpg]



VIDEO: https://youtu.be/EvAEMbNHRkE

[Image: MmCiBPG.jpg]



.....SOLD....



HYBRID: 2009 TAKAMINE EC132SC

รุ่นนี้แจ้งเกิดเพราะ The Eagles ใช้

[Image: mYoOaIS.jpg]



[Image: I1BMWtn.jpg]



ตัวนี้สภาพสวย

[Image: 0bjPucy.jpg]



[Image: 90lwCCP.jpg]



[Image: L0ZVoZo.jpg]



[Image: 0usl3Ud.jpg]



กล่อง SKB Flight Case with TSA Lock

[Image: afub97G.jpg]


VIDEO: https://youtu.be/FdWqrADwW9w

SOLD



ELECTRIC CLASSICAL: 2015 TAKAMINE PTU340N N

รุ่นนี้เป็นคลาสสิคที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าจากโรงงาน มีขายในญี่ปุ่นเท่านั้น

[Image: oFzGXJB.jpg]



ตัวนี้สภาพใหม่ครับ

[Image: C2mLC5M.jpg]



[Image: vM0vw7l.jpg]



[Image: 3WTJmEm.jpg]



[Image: FLDLx8J.jpg]



[Image: rvSlGcP.jpg]



VIDEO: https://youtu.be/GAv8VSnDLEs

SOLD
ขณะนี้ผมไม่สามารถแก้ไขข้อความในกระทู้ใด้จึงต้องขออนุญาต update ในโพสต์ไปเรื่อยๆก่อน Asturias JM20 มีคนจองแล้วครับ



ACOUSTIC/ELECTRIC: 2013 GIBSON J-35.

J-35 คือรุ่นประหยัดของ J-45 ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2013 (ตัวนี้เป็นล้อตแรกๆ) โดยมีความแตกต่างกันที่สี (Natural vs. Sunburst), Bracing pattern (Wide X vs. Normal X) และราคา (60,300 vs. 81,000 บาท) เรื่องเสียงนั้น J-35 เสียงนุ่มกว่า J-45 เพราะ bracing และขนาดของสายจากโรงงาน (.011 vs. .012) ที่กิบสันตั้งใจใช้เบอร์เล็กกว่าเพราะกลัวว่า J-45 จะขายไม่ออก

ตัวนี้สภาพสมบูรณ์ เอกสารครบครับ

[Image: w8r3pLR.jpg]


[Image: xIJbrvH.jpg]



[Image: msDH1Ow.jpg]


[Image: IDJgLw3.jpg]



[Image: esqnnfG.jpg]



[Image: R9qGTPv.jpg]







จองแล้ว ทินกร






PURE ACOUSTIC: 2009 GIBSON J-45 TRUE VINTAGE VOS.

รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ใช้สเป็คและขบวนการผลิตเลียนแบบ J-45 Banner Era (1942-1945) โดยใช้ hot hide glue เขื่อม neck joint และ top braces ใช้ไม้หน้า adirondack spuce เกรดสูงและคัดเฉพาะไม้ mahogany ที่มีน้ำหนักเบามากมาใช้  J-45 TV ตัวนี้เลยเป็นกีตาร์ที่น้ำหนักน้อยที่สุดที่ผมมีครับ (1.7 กิโล)

[Image: zX9Vbrf.jpg]



กีตาร์ตัวนี้ยังใช้ fingerboard และ bridge เป็น madagascar rosewood ซึ่งกิบสันเลิกใช้ตั้งแต่ปลายปี 2009 เพราะโดนจับในข้อหาซื้อไม้เถื่อน

[Image: hjm8oN3.jpg]


[Image: ZfenwvD.jpg]



[Image: Se1scUO.jpg]



[Image: 3IEsjE8.jpg]



[Image: N6CEn0J.jpg]



[Image: F987yvd.jpg]


เสียงเปล่า


เสียงผ่านแอมป์
ACOUSTIC ELECTRIC: 1989 GRETSCH 6022 RANCHER + FISHMAN PREFIX PLUS T.

6022 Rancher เป็นกีตาร์โปร่งรุ่นเดียวของ Gretsch ที่ใด้รับความนิยมในหมู่ศิลปิน 6022 รุ่นแรกเริ่มขายในปี 1954 ในราคา $275 เท่ากับ Gibson SJ-200 แต่ Gretsch เป็น all laminate ที่หอนยากกว่า Gibson ที่เป็น all solid เวลาออกงาน รุ่นแรกเลิกผลิตในปี 1973 แต่ก็มีรุ่น Reissue ออกมาในปี 1975-1980 ที่ใช้สเป็คเดิมแต่เปลี่ยนหน้าตาเล็กน้อย โรงงาน Gretsch USA ปิดตัวลงในปี 1980 

Fred Gretsch ใช้เวลา 9 ปีในการเสาะหาโรงงานที่สามารถผลิตกีตาร์ Gretsch ใด้ตามมาตรฐานของเขาและก็มาลงเอยกับโรงงาน Terada ที่ญี่ปุ่นในปี 1989 จนถึงปัจจุบัน 6022 Reissue รุ่นสองนี่เปลี่ยนไม้หน้ามาเป็น solid spruce top ตามค่านิยมยุคใหม่และผลิตตั้งแต่ปี 1989-2009 


ตัวนี้สภาพดีครับ

[Image: OjWLfZT.jpg]



ไม้หน้า solid spruce
[Image: jVVt7LY.jpg]



Laminated maple neck, back and side.
[Image: F4hGh4S.jpg]



Fishman Prefix Plus T electronics (ราคา 14,500 บาท)

[Image: jvC6zi4.jpg]


กล่องสภาพใช้งาน มีรอยถลอกและไม่มีสายรั้งฝา

[Image: tsAWQH3.jpg]



ใครซื้อตัวนี้ผมแถมสายสะพายหนังแท้ของ Gretsch ซึ่งไม่มีขายในเมืองไทยให้เอาใช้ออกงานด้วยครับ

[Image: 0goMgDG.jpg]


VIDEO: เพลงเพื่อชีวิต ballad style  https://youtu.be/9MyxIJgNnDo

VIDEO: เพลงเร็ว bluegrass style  https://youtu.be/zH2IqogJcMc

ราคาอ้างอิง (ไม่มีปิคอัพ)

[Image: mFjWIrE.jpg]







ACOUSTIC ELECTRIC: 2015 K. YAIRI JY-45 BS ALL SOLID.

ตัวนี้สภาพเหมือนใหม่ครับ

[Image: uupKRkn.jpg]



[Image: dhFmONK.jpg]



[Image: yDgWqux.jpg]



[Image: z2iMfQq.jpg]



[Image: ksN1pJJ.jpg]



[Image: D9Hc9yu.jpg]


VIDEO: https://youtu.be/KM1HnutpmEo





ACOUSTIC: 2002 K. YAIRI RF-90 RBX ALL SOLID.

ตัวนี้มีตำหนิสองรอยบนไม้หน้าครับ

[Image: 3xjzqwu.jpg]



[Image: RUIFLu0.jpg]



[Image: vwB3TUc.jpg]



[Image: G3Dd1UV.jpg]



[Image: S44JDEz.jpg]



[Image: rI66Ir3.jpg]


VIDEO: https://youtu.be/C3Dit4sOmSE

https://youtu.be/oLHSzTdyh5o
ACOUSTIC: 1996 MARTIN D-18

ตัวนี้สภาพดีครับ

[Image: EySUtZ4.jpg]



[Image: 4OHZess.jpg]



[Image: Q9wnaTa.jpg]



[Image: 5eShq7d.jpg]



ไม้หน้ามีรอยตื้นๆอยู่หนึ่งรอย

[Image: PwvK3PA.jpg]


Saddle ยังเต็ม คอตรง ไม้หน้า bear claw sitka spruce.

[Image: IlljWwk.jpg]



กล่องสภาพสมบูรณ์แต่หน้าตาเก่า

[Image: HVSclrP.jpg]









ACOUSTIC ELECTRIC: 2009 MARTIN HD-28, LR BAGGS ELEMENT VTC PICKUP.

ตัวนี้สภาพดีมากครับ

[Image: zCcQCgO.jpg]



[Image: 8u6TKb6.jpg]



[Image: FkJuNtV.jpg]



[Image: nQQPGQe.jpg]



[Image: qJduc3l.jpg]



[Image: SWoevRB.jpg]



[Image: WD6BbjO.jpg]

ARCHTOP: 2001 D'AQUISTO CENTURA ACOUSTIC WITH KENT ARMSTRONG USA PICKUP.

หลังจาก Jimmy D'Aquisto เสียชีวิตในปี 1995 ครอบครัวของเขาก็ใด้ขายลิขสิทธิ์ พิมพ์เขียวและกีตาร์ที่ยังสร้างไม่เสร็จทั้งหมดให้กับ Aria ซึ่งนำเอาไปผลิตในญี่ปุ่นและเริ่มส่งออกในปี 2002 

D' Aquisto Centura เป็น acoustic archtop ขนาด 17" ถ้าเป็นรุ่นดั้งเดิมที่เป็น carved top และ carved back ราคามือสองเกินหนึ่งแสนเหรียญแล้ว ตัวนี้เป็นล้อตแรกๆของรุ่น Reissue ที่เป็น solid top ที่มีราคาซื้อขายประมาณ 80,000 บาท

[Image: PwtdCX0.jpg]



ไม้หน้า solid spruce

[Image: ZccJZqb.jpg]



ตัวนี้ติดตั้ง Kent Armstrong Jazzy Joe floating pickup และ John Pearce Ebony Custom Armrest.

[Image: D8c5GGB.jpg]



[Image: bxkHndw.jpg]



[Image: kW5yCU7.jpg]



[Image: VfWkHXh.jpg]



[Image: RFo7LPh.jpg]



[Image: aCcoxJz.jpg]


เสียงออกแอมป์  https://youtu.be/Zxyn4X6PNqM

เสียงเปล่า https://youtu.be/fEpSndqsCrI

SOLD



HOLLOW BODY: 2001 GRETSCH 6119 TENNESSEE ROSE

Gretsch ออกรุ่น 6119 มาแข่งกับ Gibson ES-335 ในปี 1958 ในยุคนั้น Gretsch ชนะแบบขาดลอยเพราะอิทธิพลของ Chet Atkins ที่มีต่อมือกีตาร์ในยุคนั้น วงในยุค ฺBritish Invasion ก็เลยใช้ 6119 กันทั่วหน้า

[Image: J8nIDv1.jpg]



การที่ 6119 ใด้รับความนิยมอย่างท่วมท้นนี่เองก็คือจุดจบของ Gretsch เพราะมียอดสั่งจองเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่าจนไม่สามารถรักษามาตรฐานที่ดีในการผลิตใด้ พอมาถึงยุคปลาย '60s ES-335 ก็เลยกลายเป็นผู้ครองตลาด hollow body thin-line แทนจนถึงปัจจุบัน

เมื่อ Fred Gretsch ไปจ้างโรงงาน Terada ผลิตตั้งแต่ปี 1989 กีตาร์ Gretsch จึงใด้รับความนิยมอีกครั้งเพราะมาตรฐานของ Terada สูงกว่าของ Gretsch USA มากมาย (นอกจากรุ่น USA Custom Shop ที่ราคาเกินหมื่นเหรียญ)

กีตาร์ตัวนี้ผลิตปี 2001 สภาพดีครับ

[Image: 0fdfepD.jpg]



[Image: xBwlsae.jpg]



[Image: ebaQ3CU.jpg]



[Image: 67VcWRm.jpg]



[Image: 3xagbPw.jpg]



VIDEO-JAZZ BALLAD:https://youtu.be/8hIYlku4Q4A

Video-ELECTRIC BLUES:https://youtu.be/C48DglGIGb0


ราคาที่อเมริกา

[Image: lylLDZo.jpg]



[Image: EhEVeQm.jpg]



SOLD
2006 GIBSON LES PAUL GODDESS RUBY BURST

Gibson เริ่มปรับตัวในเรื่องการออกแบบกีตาร์ตามรสนิยมของคนเล่นกีตาร์ที่เปลี่ยนจากสไตล์ heavy metal มาเป็นสไตล์ funk และ rhythm and blues ในยุค 2000s ในยุคร้อคโหดนั้นเขาเชื่อกันว่ากีตาร์ยิ่งหนักเสียงยื่งดีและหางเสียงยิ่งยาวดังนั้น Les Paul Standard และ Custom จึงมีน้ำหนักเฉลี่ยเกิน 5 กิโล

Gibson เริ่มหาทางลดน้ำหนักใหม่โดยการดัดแปลงจากวิธีเจาะรูเก้ารูมาเป็นการเจาะแบบมี pattern กับรุ่น Les Paul Standard และมีการเอาวิธีคว้านใส้ในทิ้งเกือบหมดมาใช้กับรุ่น Les Paul Goddess ในปี 2006

[Image: YXsOO8j.jpg]



Les Paul Goddess คือ Les Paul Standard ที่ออกแบบมาสำหรับหญิงสาวและคนตัวเล็กโดยมีขนาด body เล็กกว่ารุ่น Standard เล็กน้อย (ความหนา 2" เท่ากัน) คว้านลำตัวแบบ full chamber และเลือกใช้ไม้คอน้ำหนักเบาเพื่อความสมดุลย์เวลายืนเล่น ราคาตอนวางตลาดถูกกว่ารุ่น Standard เล็กน้อยแต่น้ำหนักลดลงไปประมาณ 40% เหลือแค่ 3 กิโลเท่านั้น

[Image: sismmHx.jpg]



กีตาร์รุ่นนี้ใช้ pickup 490R+498T ที่เสียงค่อนข้างนุ่มซึ่งเมื่อเอามาใส่ใน chamber body เสียงเลยออกแนว ES-335 มากกว่าแนว Les Paul ลองฟังตัวอย่างจากกีตาร์ของผมอีกตัวดูครับ




ในคลิปข้างบนจะเห็นใด้ว่า pickup ตัวหลังเสียงค่อนข้างบางเมื่อเทียบกับตัวหน้า พอผมใด้ตัวนี้มาก็เลยเปลี่ยนตัวหลังเป็น Seymour Duncan SH4 ทำให้บาลานซ์ดีขึ้น เสียงไม้ออกมากขึ้นแบบเอามาใช้แทนกีตาร์โปร่งใด้สบาย ลองฟังเสียง "เลสพอล มหัศจรรย์" ใด้เลยครับ




กีตาร์ตัวนี้สภาพสวยครับ

[Image: dpCWyM3.jpg]



[Image: DYq4NXZ.jpg]



[Image: CgBQ3Mu.jpg]



[Image: IWyC0h5.jpg]



[Image: 9UBpvKh.jpg]



[Image: vz11clc.jpg]



รุ่นนี้มือสองหายาก ใน eBay ไม่มีเลย ใน Reverb มีแต่ค่อนข้างแพง (เริ่มต้นห้าหมื่นกว่าบาท)

[Image: DM22ue9.jpg]

SOLD

กีตาร์ที่ลงขายทุกตัวไม่ขายให้พ่อค้านะครับ

ตอนนี D'Aquisto มีจองแล้วครับ
ของแถมพิเศษสำหรับผู้ซื้อ 6 ท่านแรก

ผมซื้อของขวัญปีใหม่มาจากฮ่องกงสองอย่างครับ อย่างแรกก็คือ REMOTE SENSOR HYGROMETER ที่เพิ่งเคยเห็นว่ามีขาย ตัวนี้มีประโยชน์มากเพราะสามารถวัดความชื้นในตัวบอดี้ของกีตาร์ที่เก็บในกล่องใด้และเก็บสถิติใว้ใด้ด้วย

[Image: xqwiiMk.jpg]


ถ้าคุณกำลังหามุมสำหรับเก็บกีตาร์ที่บ้านก็ใช้ตัวนี้วัดความชื้นและอุณหภูมิต่ำสุดและสุงสุดของแต่ละมุมใด้เลย อย่างที่บ้านผมผมจะเก็บกีตาร์โปร่ง all solid ใว้ในจุดที่มีความชื้นและอุณหภูมิแปรผันต่ำสุดและเก็บพวกกีตาร์ solid top และกีตาร์ไฟฟ้าใว้ในจุดที่ความชื้นแปรผันสูงครับ

[Image: CtPSHK7.jpg]


อีกอย่างที่ซื้อมาแจกก็คือ tuner แบบหนีบของ Fender ที่ผมว่าใช้ง่ายสุด

[Image: SpX0i2X.jpg]


ผมมีอย่างละสามชิ้นสำหรับแจกให้คนซื้อหกคนแรก (คนจองไม่เกี่ยว) ครับ