29-03-2015, 22:42
ปีนี้มีข่าวใหญ่ในวงการกีตาร์โปร่งเมื่อมีขาใหญ่อย่าง Martin, Gibson, Taylor และ Collings อ้างว่าใด้ค้นพบวิธีมหัศจรรย์ที่สามารถผลิตกีตาร์ใหม่ให้เสียงเหมือนกีตาร์อายุหลายสิบปีใด้สำเร็จแล้ว วิธีพิเศษนี้เขาเรียกว่า "Torrefaction" ครับ
Torrefaction เป็นการอบไม้ในเตาไร้ออกซีเจนเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้มีพลังงานสูงขึ้นเท่าๆกับถ่านหินและขนส่งใด้ถูกลง วิธีนี้ถูกค้นพบในประเทศฟินแลนด์ในปี 1990 ครับ
เมื่อสี่ปีที่แล้วผมใด้เคยไปดูระบบนี้ที่ฟินแลนด์ก็เลยรู้ว่าทำไมเขาถึงต้องหาวิธีนี้มาใช้ ประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกมีป่าไม้เชิงอุตสาหกรรมมากมายเพราะเขามีความหนาแน่นของประชากรน้อยมาก (ฟินแลนด์มีประชากร 1 คนต่อพื้นที่ 40ไร่ เมืองไทยมีประชากร 1 คนต่อพื้นที่ 5 ไร่) ฤดูเพาะปลูกของเขายาวแค่ 40 วันก็เลยปลูกพืชไร่ไม่ใด้ต้องปลูกป่าอย่างเดียว อุตรสาหกรรมไม้แปรรูปของเขามีปริมาณการส่งออกวันละหนึ่งล้านลูกบาศเมตรครับ
สองฟากถนนระหว่างเมืองจะมีป่าเต็มไปหมด ไม้ที่ปลูกส่วนใหญ่ก็มีไม้สน ไม้สปรูซ (ต้นคริสต์มาส) และต้น birch ที่ใบกำลังเปลี่ยนสีครับ
ข้างหลังของโรงงานแปรรูปไม้มีกองขี้เลื่อยใหญ่ขนาดภูเขาลูกย่อมๆ
ไม้นั้นมีองค์ประกอบของโครงสร้างอยู่สามอย่างคือ cellulose, hemi-cellulose และ lignin ในอัตราส่วนประมาณ 2:1:1 การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างที่ทำให้ไม้มีพลังงานสูงขึ้นจะเกิดขึ้นที่อุณภูมิเกิน 300 องศาเซลเซียสซึ่งทำให้ไม้ติดไฟง่ายขึ้นและนานขึ้น ความจริงเรื่องนี้เราก็รู้กันมานานแล้วตอนที่เราใช้ถ่านหุงข้าวซึ่งใด้มาจากการนำไม้ไปเผาไงครับ
Torrefaction คือการอบไม้ในเตาไร้อากาศซึ่งไม่มีการเผาไหม้ด้วยอุณภูมิประมาณ 350 องศาซึ่งมีการสูญเสียพลังงานน้อยมาก ไม้ที่ผ่านขบวนการนี้จะแข็งและเปราะทำให้บดเป็นผงใด้เหมือนถ่านหินครับ
โรงงานนี้ผลิต torrified wood chip ใด้ 500 ตันต่อวัน
ขบวนการนี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อการใช้ biomass เป็นเชื้อเพลิงใด้ในโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งตามปกติจะใช้ biomass เผาร่วมใด้ไม่เกิน 10% โรงไฟฟ้าถ่านหินสมัยใหม่สามารถใช้ torrified biomass ใด้ถึง 100% ซึ่งเป็นการลดมลพิษใด้อย่างมหาศาลครับ
ความจริงแล้วผมไปดูระบบนี้เพื่อหาวิธีนำ biomass ที่ถูกเผาทิ้งปีละ 33 ล้านตันในภาคเหนือซึ่งทำให้เกิดปัญหามลพิษทุกปีเอามาเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างเช่นที่แม่เมาะแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จเพราะขาดการสนับสนุนครับ
Torrefaction เป็นการอบไม้ในเตาไร้ออกซีเจนเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้มีพลังงานสูงขึ้นเท่าๆกับถ่านหินและขนส่งใด้ถูกลง วิธีนี้ถูกค้นพบในประเทศฟินแลนด์ในปี 1990 ครับ
เมื่อสี่ปีที่แล้วผมใด้เคยไปดูระบบนี้ที่ฟินแลนด์ก็เลยรู้ว่าทำไมเขาถึงต้องหาวิธีนี้มาใช้ ประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกมีป่าไม้เชิงอุตสาหกรรมมากมายเพราะเขามีความหนาแน่นของประชากรน้อยมาก (ฟินแลนด์มีประชากร 1 คนต่อพื้นที่ 40ไร่ เมืองไทยมีประชากร 1 คนต่อพื้นที่ 5 ไร่) ฤดูเพาะปลูกของเขายาวแค่ 40 วันก็เลยปลูกพืชไร่ไม่ใด้ต้องปลูกป่าอย่างเดียว อุตรสาหกรรมไม้แปรรูปของเขามีปริมาณการส่งออกวันละหนึ่งล้านลูกบาศเมตรครับ
สองฟากถนนระหว่างเมืองจะมีป่าเต็มไปหมด ไม้ที่ปลูกส่วนใหญ่ก็มีไม้สน ไม้สปรูซ (ต้นคริสต์มาส) และต้น birch ที่ใบกำลังเปลี่ยนสีครับ
ข้างหลังของโรงงานแปรรูปไม้มีกองขี้เลื่อยใหญ่ขนาดภูเขาลูกย่อมๆ
ไม้นั้นมีองค์ประกอบของโครงสร้างอยู่สามอย่างคือ cellulose, hemi-cellulose และ lignin ในอัตราส่วนประมาณ 2:1:1 การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างที่ทำให้ไม้มีพลังงานสูงขึ้นจะเกิดขึ้นที่อุณภูมิเกิน 300 องศาเซลเซียสซึ่งทำให้ไม้ติดไฟง่ายขึ้นและนานขึ้น ความจริงเรื่องนี้เราก็รู้กันมานานแล้วตอนที่เราใช้ถ่านหุงข้าวซึ่งใด้มาจากการนำไม้ไปเผาไงครับ
Torrefaction คือการอบไม้ในเตาไร้อากาศซึ่งไม่มีการเผาไหม้ด้วยอุณภูมิประมาณ 350 องศาซึ่งมีการสูญเสียพลังงานน้อยมาก ไม้ที่ผ่านขบวนการนี้จะแข็งและเปราะทำให้บดเป็นผงใด้เหมือนถ่านหินครับ
โรงงานนี้ผลิต torrified wood chip ใด้ 500 ตันต่อวัน
ขบวนการนี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อการใช้ biomass เป็นเชื้อเพลิงใด้ในโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งตามปกติจะใช้ biomass เผาร่วมใด้ไม่เกิน 10% โรงไฟฟ้าถ่านหินสมัยใหม่สามารถใช้ torrified biomass ใด้ถึง 100% ซึ่งเป็นการลดมลพิษใด้อย่างมหาศาลครับ
ความจริงแล้วผมไปดูระบบนี้เพื่อหาวิธีนำ biomass ที่ถูกเผาทิ้งปีละ 33 ล้านตันในภาคเหนือซึ่งทำให้เกิดปัญหามลพิษทุกปีเอามาเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างเช่นที่แม่เมาะแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จเพราะขาดการสนับสนุนครับ