Johnny Smith (1922-2013) เป็นศิลปินแจ้สยุคบุกเบิกทีผมไม่ค่อยจะรู้จักผลงานเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเป็นคนแต่งเพลง "Walk Don't Run" ที่ The Ventures เอามาเล่นเท่านั้น
ที่น่าสนใจก็คือกีตาร์ signature ของเขาซึ่งมีทั้ง Guild, Gibson และ Heritage นั้นเป็น flag ship model คือเป็นรุ่นที่แพงที่สุดของทั้งสามยี่ห้อ (ไม่นับพวก limited edition) ครับ
เหตุผลที่แพงก็คงเป็นเพราะเขากำหนดให้กีตาร์เป็น carved top และ back และใช้ X-bracing เหมือน D'Angelico ตัวโปรดของเขานั่นเอง คนที่ทำใด้คงต้องเป็นช่างที่ชำนาญมากเท่านั้น
Guild Era(s)
Guild Johnny Smith Award ออกมาปี 1955-1961 ในเวอร์ชั่นแรกครับ
ต่อมาเมื่อ Johnny โดน Gibson จีบไปอยู่ด้วยในปี 1961 จึงต้องเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น "Artist Award" แต่ก็ยังเป็นกีตาร์รุ่นแพงสุดมาจนถึงเดือนที่แล้วซึ่งโรงงาน New Hartford ปิดอย่างถาวร
Gibson Era
ในปี 1961 Ted McCarty ก็ชวน Johnny มาอยู่ด้วยและก็ออกรุ่น Gibson Johnny Smith ออกมาขายจนถึงปี 1988 ขายไปทั้งหมด 963 ตัวครับ
ต่อมาเมื่อ Johnny ย้ายไปอยู่กับช่างเก่าของ Gibson ที่ Heritage Guitar Inc. Gibson ก็ไม่ยอม retire model นี้เหมือนกันแต่ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "Gibson LeGrande" ที่ยังคงความแพงใว้เหมือนเดินจนถึงทุกวันนี้ครับ
็Heritage Era
็Heritage Johnny Smithผลิตระหว่างปี 1989-2001 ที่ต้องเลิกผลิตเพราะ Bob Benedetto มาชวน Johnny Smith ไปอยู่ด้วยโดยออกรุ่น Guild Benedetto Johnny Smith Award มาใด้ประมาณ 70 ตัวจากปี 2002-2005 ครับ
หมายเหตุ: South american mahogany ถูกนำขึ้น CITES Appendix II ในปี 2002 ทำให้ต้องมีเอกสารยืนยันว่าไม่ใช่ไม้ที่ตัดจากป่าก่อนจะส่งออกรือนำเข้าใด้ ราคาของ big leaf mahogany จึงแพงขึ้นจนไกล้เคียง rosewood ในเวลาไม่กี่ปี
คลิปแรกเป็นเสียงเปล่าๆ รายละเอียดของเสียงของมันมีเยอะที่สุดเท่าที่เคยฟังกีตาร์ประเภทนี้มา ตัวนี้ใช้สาย Martin Retro light gauge ซึ่งเป็นสาย acoustic ที่ใช้กับ magnetic pickup ใด้ครับ
คลิปที่สองเป็นเสียงผสมโดยมีไมค์จับเสียงเปล่าหนึ่งตัวและไมค์ตัวที่สองจับเสียงออกแอมป์โดยต่อสัญญาณจาก piezo เข้าแอมป์ AER Domino II และสํญญาณจาก magnetic pickup เข้าแอมป์ Fender Deluxe VM สัญญาณจากไมค์ mix ด้วยมิกเซอร์ตัวเล็กที่วางอยู่บนแอมป์ Fender และต่อ line out เข้ากล้อง video ครับ