NimitGuitar webboard

Full Version: HERITAGE ALL SOLID GUITARS
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2
HISTORY

โรงงานกีตาร์ของ Gibson มีอยู่โรงเดียวที่ 225 Parsons Street, Kalamazoo, Michigan ตั้งแต่ปี 1917 ในปี 1974 Gibson เปิดโรงงานใหม่ใน Nashville, Tennesse เพราะอยูไกล้แหล่งศิลปิน country มากกว่าและค่าแรงถูกกว่า โรงงานเดิมที่ Kalamazoo ก็เลยผลิตแต่กีตาร์โปร่งและกีตาร์ archtop ราคาแพงที่เป็นงาน hand built เท่านั้น

ในที่สุด Gibson ก็ตัดสินใจปิดโรงงานที่ Kalamazoo อย่างถาวรในปี 1984 ถ้าช่างคนไหนไม่อยากตกงานก็ต้องย้ายไป Nashville ซึ่งช่างหลายคนก็ไม่อยากย้าย ดังนั้นจึงมีช่างอาวุโสสีคนขอเช่าโรงงานของ Gibson และขอซื้อเครื่องจักร์เก่าๆเอามาทำกีตาร์ขายเองในปี 1985 โดยใช้ชื่อว่า "The Heritage" ซึ่งหมายความว่าเป็นมรดกตกทอดจากกีตาร์ Gibson สมัยที่สร้างด้วยมือล้วนๆครับ


โรงงาน Heritage ที่ 225 Parsons Street ก็คือตึกหลังแรกของโรงงาน Gibson นั่นเองครับ

[Image: 140715050039.jpg]




ดุไกล้ๆก็เหมือนโรงงานผีสิง

[Image: 140715050243.jpg]



ความจริงก็คือโรงงานนี้มีช่างประมาณยี่สิบคน (รวมผู้ก่อตั้งทั้งสี่คนที่ยังลงมือเองด้วย) ผลิตกีตาร์ใด้วันละ 4-6 ตัวเท่านั้นแต่สงขายไปทั่วโลก พื้นที่ของโรงงานคือตัวอาคารหลังที่เก่าสุดของโรงงาน Gibson เดิมทีประกอบไปด้วยอาคารห้าหลังในรูป

[Image: 140715050743.jpg]


โรงงานนี้ทำงานด้วยมือล้วนๆเพราะไม่มีเครื่อง CNC แม้แต่เครืองเดียว ผมคิดว่าเขาทำ archtop โดยการเอาไม้ solid มา carve แทนที่จะเอาไม้ laminate มาอัดขึ้นรูปก็เพราะถ้าผลิตเพียงไม่กี่ตัวมันไม่คุ้มที่จะต้องทำ mold เพื่ออัดขึ้นรุปครับ


เชิญชมคลิปเยี่ยมโรงงานครับ




จุดขายของ The Heritage ก็คือราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อมเมื่อเทียบกับกีตาร์ยี่ห้ออื่นในสเป็คเดียวกัน

[Image: 140715053628.jpg]
MY HERITAGE GUITARS

ตอนนี้มีอยู่หกตัวครับ เป็น all solid ทุกตัว

[Image: Group.jpg]
1990 Heritage Johnny Smith Signature "The Rose"


[Image: DSC02286.jpg]



Johnny Smith (1922-2013) เป็นศิลปินแจ้สยุคบุกเบิกทีผมไม่ค่อยจะรู้จักผลงานเท่าไหร่ รู้แต่ว่าเป็นคนแต่งเพลง "Walk Don't Run" ที่ The Ventures เอามาเล่นเท่านั้น



ที่น่าสนใจก็คือกีตาร์ signature ของเขาซึ่งมีทั้ง Guild, Gibson และ Heritage นั้นเป็น flag ship model คือเป็นรุ่นที่แพงที่สุดของทั้งสามยี่ห้อ (ไม่นับพวก limited edition) ครับ

เหตุผลที่แพงก็คงเป็นเพราะเขากำหนดให้กีตาร์เป็น carved top และ back และใช้ X-bracing เหมือน D'Angelico ตัวโปรดของเขานั่นเอง คนที่ทำใด้คงต้องเป็นช่างที่ชำนาญมากเท่านั้น


Guild Era(s)

Guild Johnny Smith Award ออกมาปี 1955-1961 ในเวอร์ชั่นแรกครับ

[Image: 140716011650.jpg]


ต่อมาเมื่อ Johnny โดน Gibson จีบไปอยู่ด้วยในปี 1961 จึงต้องเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น "Artist Award" แต่ก็ยังเป็นกีตาร์รุ่นแพงสุดมาจนถึงเดือนที่แล้วซึ่งโรงงาน New Hartford ปิดอย่างถาวร

[Image: 140716012039.jpg]


Gibson Era

ในปี 1961 Ted McCarty ก็ชวน Johnny มาอยู่ด้วยและก็ออกรุ่น Gibson Johnny Smith ออกมาขายจนถึงปี 1988 ขายไปทั้งหมด 963 ตัวครับ

ต่อมาเมื่อ Johnny ย้ายไปอยู่กับช่างเก่าของ Gibson ที่ Heritage Guitar Inc. Gibson ก็ไม่ยอม retire model นี้เหมือนกันแต่ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "Gibson LeGrande" ที่ยังคงความแพงใว้เหมือนเดินจนถึงทุกวันนี้ครับ

[Image: 140716013053.jpg]


็Heritage Era

็Heritage Johnny Smithผลิตระหว่างปี 1989-2001 ที่ต้องเลิกผลิตเพราะ Bob Benedetto มาชวน Johnny Smith ไปอยู่ด้วยโดยออกรุ่น Guild Benedetto Johnny Smith Award มาใด้ประมาณ 70 ตัวจากปี 2002-2005 ครับ

็Heritage จึงเป็นผู้ผลิตเจ้าเดียวที่ retire รุ่นนี้อย่างถาวร ผมไม่ทราบว่าผลิตทั้งหมดกี่ตัวแต่ที่แน่ๆคือราคามือสองแพงกว่ามือหนึ่งแล้วครับ

ราคามื่อหนึ่งเมื่อ 25 ปีที่แล้ว

[Image: 140716015405.jpg]




ราคาขายของตัวที่เป็นของ Johnny Smith (พร้อมหัวแอมป์)

[Image: 140716015537.jpg]



สเป็คครับ

[Image: specs.jpg]



Inlay เป็นหอยมุกแท้ครับ

[Image: DSC02278.jpg]



ด้านข้างหนา 3" Finger tail piece สามารถปรับแรงกดของสายใด้โดยอิสสระ
รุ่นนี้เสียงเปล่าดังมาก ตัวนี้ใช้ pickup สองระบบและมี 2 outputs ครับ


[Image: DSC02282.jpg]

[Image: DSC02284.jpg]





Carved solid maple back. 5 pieces flame maple and walnut neck

[Image: DSC02283.jpg]


ตัวนี้ยังไม่ใด้อัดเสียงครับ

1996 Eagle ASB

Heritage Eagle เป็น all solid 17" archtop ที่ราคาถูกที่สุดสำหรับ กีตาร์อเมริกัน รุ่นนี้ผลิตตั้งแต่ยุคเริ่มต้นในปี 1976 จนถึงปี 2007 ราคาสุดท้ายตือ $3,580 ครับ

รุ่นนี้ใช้ carved solid honduran mahogany ทั้งตัว พอ mahogany ราคาเริ่มแพงทาง Heritage ก็เลยเลิกผลิตรุ่นนี้ในปี 2007 คงเหลือแต่รุ่น Eagle Classic ที่ใช้ spruce/maple ที่ราคาแพงกว่าครับ

หมายเหตุ: South american mahogany ถูกนำขึ้น CITES Appendix II ในปี 2002 ทำให้ต้องมีเอกสารยืนยันว่าไม่ใช่ไม้ที่ตัดจากป่าก่อนจะส่งออกรือนำเข้าใด้ ราคาของ big leaf mahogany จึงแพงขึ้นจนไกล้เคียง rosewood ในเวลาไม่กี่ปี

http://www.swietking.org/cites.html

กีตาร์ Heritage ทุกตัวจะมีใบรับรองจากเจ้าของทั้งสี่คนแถมมาด้วย

[Image: 21.jpg]



ตัวนี้หน้าตาไม่หรูหราอะไรแต่สีสวย

[Image: DSC02299.jpg]



ปิ้คอัพใช้ Benedetto S6 Floating Pickup. 25.5" scale.

[Image: DSC02288.jpg]


Body width - 17". Depth = 3". Ebony tail piece.

[Image: DSC02287.jpg]



Carved mahogany back. Mahogany neck.

[Image: DSC02295.jpg]

1994 Eagle TDC ASB

TDC = Thinline Double Pickups with Cutaway

ASB = Almond Sunburst Finish.

็Heritage Eagle นั้นอยู่ในกลุ่มของ acoustic archtops ที่มี floating pickup ให้ลูกค้าเลือกใด้หลายยี่ห้อเผื่อต้องการจะใช้เล่นออกแอมป์เป็นครั้งคราว

รุ่น Eagle นั้นใช้ parallel top bracing ตามสไตล์ของ Gibson จึงทำให้สามารถเจาะใส่ humbucking pickups ใด้สองตัว ( ถ้าใช้ X-bracing อย่างรุ่น Johnny Smith จะเจาะใส่ pickup ตัวหลังไม้ใด้) Heritage ก็เลยออกรุ่น thinline มาเอาใจคอกีตาร์ไฟฟ้าที่ไม่ชอบใช้กีตาร์ตัวหนาบนเวทีครับ

[Image: 07.jpg]



Eagle TDC ผลิตถึงปี 2006 ครับ ราคามือหนึ่งตอนนั้น $3,680 แต่ราคามือสองใน Blue Book แพงกว่า Eagle Standard 400 เหรียญเพราะหายากกว่า


[Image: DSC02300.jpg]



[Image: DSC02302.jpg]



็Heritage HRW pickups

[Image: DSC02308.jpg]




Solid mahogany carved top. Solid mahogany carved back. Solid mahogany side. Body depth = 2.25"

[Image: DSC02304.jpg]



Nut width ของรุ่น Eagle และ Eagle TDC จะกว้างเท่ากับ Gibson Les Paul Standard ยุค '60s คือ 1.65" ครับ

[Image: DSC02309.jpg]


เสียงผ่านแอมป์ Fender Deluxe VM

เป็นกีต้าร์ที่น่าใช้มาก เคยลองแล้วดีมาก ราคามือสองยิ่งน่าสนใจ
(17-07-2014, 23:29)วันละเป๊ก Wrote: [ -> ]เป็นกีต้าร์ที่น่าใช้มาก เคยลองแล้วดีมาก ราคามือสองยิ่งน่าสนใจ

กีตาร์ยี่ห้อนี้ถ้าเทียบราคามือสองกับคุณภาพก็น่าจะคุ้มที่สุดของกีตาร์อเมริกันครับ อย่างตัวต่อไปนี่เสียงเป็น acoustic มากกว่า Gibson ES-175 มากมายเพราะเป็น all solid แต่ราคามือสองถูกกว่าหลายหมื่นบาท

[Image: J45-0214-d-banner.jpg]




2008 H-575 Classic Natural

เสป็คของรุ่น H-575

[Image: H575-ANT-NAT.jpg]



รุ่น H-575 Classic ราคาแพงขึ้น $150 เพราะ upgrade pickups เป็นรุ่น Heritage HRW หรือ Seymour Duncan Custom '59 ที่มากับตัวนี้ครับ


[Image: DSC02322.jpg]



Ebony pickguard

[Image: DSC02312.jpg]



Solid curly maple carved top. Solid curly maple side.

[Image: DSC02317.jpg]



Solid curly maple carved back. One piece mahogany neck.

[Image: DSC02315.jpg]


เสียงแบบ acoustic ผ่านแอมป์ Fender Acoustasonic Ultralight





ลองเทียบเสียงกับ electric hollow body ของ Gibson, Gretsch และ Guild.

2005 Millennium DC Black Beauty


รุ่นนี้เป็นกีตาร์ semi-acoustic hollow body ทีมีขนาดลำตัวเล็กเท่าๆกับ Les Paul และทำด้วย solid maple ทั้งตัว กีตาร์รุ่นนี้ออกวางตลาดในปี 2000 ครับ

[Image: spec.jpg]




[Image: DSC02333.jpg]




[Image: DSC02330.jpg]




HRW pickups

[Image: DSC02329.jpg]




[Image: DSC02327.jpg]


2011 H-110

รุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกมาในปี 2009 Heritage จัดให้อยู่ในประเภท semi-hollow body แต่ความจริงแล้วควรจะเป็นประเภท chambered body เพราะไม้ลังและไม้ข้างเป็นการขุดจาก solid mahogany ส่วนไม้หน้านั้นเป็นการ carve จาก solid maple


[Image: H110-LW-VWB-1.jpg]


รุ่นนี้ใช้ไม้หน้าหนาประมาณครึ่งนิ้วมา carve ตรงกลางมี block หน้าและหลังแต่ไม่ยาวตลอดเหมือนพวก semi-hollow ทั่วไป

[Image: H2.jpg]




ตัวจริงครับ

[Image: DSC02346.jpg]




Seymour Duncan '59 pickups

[Image: DSC02341.jpg]




[Image: DSC02335.jpg]




[Image: DSC02339.jpg]





รุ่นนี้ราคาตั้ง = 3,160 USD ครับ
เพิ่งมีโอกาสอัดเสียง Johnny Smith Signature ครับ

คลิปแรกเป็นเสียงเปล่าๆ รายละเอียดของเสียงของมันมีเยอะที่สุดเท่าที่เคยฟังกีตาร์ประเภทนี้มา ตัวนี้ใช้สาย Martin Retro light gauge ซึ่งเป็นสาย acoustic ที่ใช้กับ magnetic pickup ใด้ครับ



คลิปที่สองเป็นเสียงผสมโดยมีไมค์จับเสียงเปล่าหนึ่งตัวและไมค์ตัวที่สองจับเสียงออกแอมป์โดยต่อสัญญาณจาก piezo เข้าแอมป์ AER Domino II และสํญญาณจาก magnetic pickup เข้าแอมป์ Fender Deluxe VM สัญญาณจากไมค์ mix ด้วยมิกเซอร์ตัวเล็กที่วางอยู่บนแอมป์ Fender และต่อ line out เข้ากล้อง video ครับ

[Image: 140727094246.jpg]

เสียง

Pages: 1 2