ช่วงนี้เห็นกีตาร์ที่ลง Varnish Finish ผ่านตา เลยสงสัยว่ามันแตกต่างกันกับ finish แบบอื่นยังไง และทำไมถึงไม่ค่อยมีใครใช้กับกีตาร์ครับ (ส่วนใหญ่เห็นใช้แต่กับไวโอลิน)
มีครับน้า Olanla แต่ก็ราคาขึ้นไปอีกประมาณพันเหรียญครับ
เท่าที่ทราบ ถ้าเทียบกับ lacquer แล้ว varnish จะแห้งช้ากว่า ดังนั้นจึงใช้เวลานานกว่าครับ
ผมเข้าใจว่า varnish ที่ใช้กับไวโอลิน กับที่ใช้กับกีตาร์นั้นมีความต่างกันอยู่ครับ
ในไวโอลินจะนิยมใช้เรซินจากธรรมชาติเช่น shellac เป็นส่วนผสม
แต่ที่นิยมใช้กับกีตาร์จะเป็น varnish ที่มีเรซินสังเคราะห์เป็นส่วนผสมเช่น alkyd หรือ urethane เป็นต้น
ซึ่งจะแข็งทนทานกว่าแบบที่ใช้ในไวโอลินครับ
Taylor 114 รุ่นนี้เป็น Varnish Finish
เท่าที่ใช้งาน มันเคลือบบางมาก และไม่มีความแข็งมากพอ คล้ายๆกับการย้อมครับ
เวลาเล่นแล้วเคาะกีตาร์ ถ้าเอาเล็บเคาะนี้จิกเข้าไม้เลย
ตัวของผมแค่สายสะพาย ถูนิดเดียวก็ลอกแล้ว
![[Image: 1402332_390391344426547_1958238278_o.jpg]](https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/1402332_390391344426547_1958238278_o.jpg)
แห้งช้า ทาหลายรอบ ว่ากันว่าเสียงดีเลิศ ผิวอ่อนมาก แต่ซ่อมง่าย
แต่ว่าทำไมมันถึงแพงครับ หรือแค่เป็นเรื่องค่าแรง แล้วที่ว่าเสียงดีเลิศนี่จริงเท็จอย่างไรครับ?
สงสัยเหมือนน้า โคแก่ ครับ
ผมเข้าใจว่าเหตุที่แพงก็เพราะว่าขั้นตอนมันใช้เวลานานกว่าครับ
เท่าที่ทราบการเคลือบกีตาร์ด้วย oil varnish ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 วัน
ในขณะที่ finish พวก UV cured ที่โรงงานใหญ่นิยมใช้กัน น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 วันครับ
ส่วนเรื่องเสียง ส่วนตัวผมไม่เคยลองนะ แต่คิดว่า finish ก็เป็นแค่หนึ่งในหลายๆ
องค์ประกอบที่ทำให้กีตาร์เสียงดีหรือไม่ วิธีการทำเป็นเรื่องสำคัญกว่าครับ
สำหรับ finish ผมคิดว่าถ้าไม่เคลือบหนาเกินไป ไม่ว่าเคลือบด้วยอะไรก็ไม่น่าส่งผลต่อเสียงมากนัก
เท่าที่ทราบกีตาร์ Bourgeois ที่ไม่ใช่ aged tone ก็มีที่ใช้ oil varnish เคลือบครับ
แต่ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันยังใช้อยู่หรือไม่
กีต้าร์ Bourgeois ที่ไม่ได้เป็น aged tone กับ Collings ก็ยังมีการทำ varnish เหมือนกันครับ ซึ่งในสเปคก็จะมีการระบุต่อท้ายว่า varnish
แต่ราคาก็ก้าวกระโดดเ่ช่นกันเลยครับ
ขอบคุณน้าๆมากครับ
