NimitGuitar webboard

Full Version: Simpson Guitar, My Dream Guitar
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2
ในที่สุดก็ได้มา กับกีตาร์ในฝันที่เสาะหามาตลอดเกือบสองปีที่ผ่านมา กับเจ้า Used Simpson Grand Auditorium โดยช่างที่ชื่อว่า Jason Simpson ตัวนี้

สืบมาเองจาก Facebook ของ Simpson Guitar group ว่าตัวนี้สร้างขึ้นตอนช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2010 ส่วนเสป็กก็มีดังนี้
• Beautifully bookmatched CocoBolo back & sides
• Master Grade Western Red Cedar Top
• Soft cutaway
• Macassar ebony bindings and Top Bevel
• Elevated Ebony fretboard with Cocobolo termination
• Compensated bone saddle and nut
• Ethereal Bracing (Adirondack)
• Asymmetrical Fan Bracing (Adirondack)
• Custom Cocobolo and pearl rosette
• Top Decorative Paua Trim
• Stainless steel frets for greater wear resistance
• Ebony bridge with Ebony pins/pearl dots
• Cocobolo headstock backplate & truss rod cover
• Pearl Simpson logo on Ebony headstock face
• Black violet chrome Gotoh 510 tuning machines with black buttoms
• UV Polyester finish buffed to a high gloss
• Active LRBaggs IBeam pickup
• Just a beautiful instrument on every level
• Custom fit Ameritage case with Simpson logo

ส่วนตัวคิดว่าเท่าที่เคยลองมาเสียงใกล้เคียง Kevin Ryan ที่สุดครับ แต่มีความแตกต่าง
และมีสำเนียงคล้ายๆ R.Taylor Cedar/IR ที่ขายไป(คงเป็นเพราะไม้คล้ายกัน) แต่ชอบกว่ามากๆ
โน๊ตชัดและอิ่มทั้งต่ำ กลาง สูง และสูงมาก เต็มเม็ดเต็มหน่วยดี เวลาเล่นเบาๆเสียงหวานและอุ่น(ด้วยฝีมือกากๆนะเนี่ย) แต่ก็สตรัมเบาๆถึงปานกลางได้ดีเหมือนกัน เสียงดังกว่าที่คิดสำหรับ GA Cedar เสียงละเอียดและ balance ดีมาก responsive แล้วก็คอเล่นง่ายมากกกกกก เข้ามือผมสุดๆ (เป็นแบบ Low Profile) Armrest ก็ช่วยให้สบายขึ้นเยอะ เยี่ยมเลยครับ


นี่คือรูปที่รีบเอาออกไปถ่ายก่อนตะวันจะตกดิน ตัวจริงหลังสวยมากกกก แต่เนื่องจากถ่ายรูปไม่เป็น เลยไม่รู้จะถ่ายยังไงให้สวยได้เท่าที่เห็น มันเป็น Cocobolo ที่ลายเป็นสามมิติสีเข้มสวย ตอนเปิดออกมาแล้วพลิกดูด้านหลังดูแล้วแทบลืมหายใจเลยทีเดียว

[Image: 5p22.jpg]

[Image: ig6c.jpg]

[Image: g6g3.jpg]

[Image: lm98.jpg]

[Image: 5b6l.jpg]

[Image: rprw.jpg]

[Image: 6ra8.jpg]

[Image: y4qi.jpg]

[Image: 3hkh.jpg]

[Image: pdf0.jpg]

[Image: ggij.jpg]


เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้คงจะยาวหน่อยนะครับ (ก็เลยเอามาไว้ทีหลัง)

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ตอนนั้นผมเริ่มที่จะสนใจกีตาร์ High-End ยี่ห้อต่างๆ และผมก็ได้สอดส่องเว็ป Dreamguitars แล้วพบกับกีตาร์ที่ดูเรียบง่ายแต่สวยเตะตาผมมาก ตัวนั้นเป็นกีตาร์ตัวที่ 10 ที่ Jason ทำขายและถูกสร้างในปี 2004 ซึ่งนับว่าเป็น design แรกๆเลยทีเดียว
http://www.dreamguitars.com/detail/2883-...orium_010/
พอผมได้ฟัง sound clip ที่ Al Petteway เล่น ผมก็รู้สึกถูกใจเสียงของมันมากกว่าหน้าตาซะอีก โดยเฉพาะเสียงสูงของมัน รู้สึกว่ามัน sparkle ได้เพราะมาก เนื่องจากเป็นกีตาร์ตัวแรกๆรุ่นแรกๆและสภาพไม่ใหม่มากราคาของมันได้ถูกตั้งไว้ที่ $4600 (ซึ่งผมถือว่าสูงพอสมควรสำหรับกีตาร์มือสองตัวที่ 10 ของช่างคนนึง) แต่ก็เอาวะ ก็ชอบนี่นา เลยตั้งใจที่จะเก็บเงินซื้อให้ได้ซึ่งก็น่าจะอีกประมาณ 6 เดือนคงรวมกับเงินที่เก็บมาซื้อได้พอดี แต่ย่างเข้าเดือนที่ 3 มันก็ถูกขายไปโดยที่ผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนั้นไม่พร้อมจริงๆ ส่วนอีกสองตัวที่เคย list อยู่มีไม้หลังเป็น Quilted African Mahogany สวยมากๆ ตัวหนึ่งเป็น Used Condition ของปี 2006 ราคา $7500 (ซึ่งผมเพิ่งได้รู้จักกับเจ้าของใหม่ของมันเมื่อไม่นานมานี้)
http://www.dreamguitars.com/detail/89-simpson_gac_0293/
ส่วนอีกตัวเป็น New Condition ราคา $10400 แม้ว่าสองตัวนี้ราคาแพงมากแต่กลับถูกขายไปเร็วยิ่งกว่าตัวนั้นเสียอีก (ทั้งสามตัวนี้เป็น bracing แบบเก่าครับ ยังไม่มี Ethereal bracing ที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2010 แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้เรื่องหรอก)

จากนั้นผมก็เริ่มสนใจใน Boutique Guitar และตัดสินใจว่า ถ้าสบโอกาสเหมาะและทุนทรัพย์พร้อมเมื่อไหร่ ผมต้องเป็นเจ้าของ Simpson guitar ให้ได้ ผมจึงเริ่มเก็บเงินเพิ่ม ศึกษา Boutique guitars ให้มากขึ้นและคอยติดตาม หาข้อมูลของกีตาร์จาก Jason มาเรื่อยๆ นอกจากจะเว็ปไซต์และเฟสบุ๊คของ Simpson แล้ว ยังรวมถึง sound clips จากเว็ปต่างๆ ร้านต่างๆ และตาม Forum ต่างๆ แต่ก็ไม่เคยเจอ Simpson วางขายมือสองที่ไหน (อาจมีวอกแวกไปเล็ง Martin, Taylor, Charis, Petros, Wingert และ Ryan บ้าง และได้เคยจับทุกยี่ห้อเหล่านี้เกือบทุกยี่ห้อ . . . แต่กลับไม่เคยได้จับ Simpson เลย) ถ้าจะสั่งมือหนึ่งผมรู้สึกว่าราคามันเกินเอื้อมผมไปหน่อยสำหรับผม (กีตาร์ของ Simpson ตอนนี้เริ่มต้นที่ $7500 ถ้าอยากได้ spec ที่ต้องการคงประมาณ $9000 เลยทีเดียว) ตามที่ได้คุยกับคนที่รู้จัก ครอบครอง และเคยเล่นมา ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดีซะจนคนที่ครอบครองไม่คิดที่จะขายมัน

ทุกคนอธิบายกีตาร์ไปในทางเดียวกันว่า “rich and full with deep resonance and sustain”, “very musical”, “like a piano” กับประโยคเด็ดลงท้ายของหลายๆคนว่า “You will not be disappointed with a Simpson guitar”

และแล้วผมก็ได้มาพบกับ Used Simpson สองตัวสภาพใหม่กิ๊งทั้งคู่ตอนเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้บนเว็ปของ Guitar Gallery ตัวนึงเป็น SJ German/Brazilian (สืบมาว่าปี 2011) อีกตัวเป็น GA Cedar/Cocobolo
ก่อนจะซื้อมีลังเลกับเจ้า Lowden F50 ที่กำลังลดราคาใน GuitarGal เป็นอย่างมาก (Redwood/Madagascar Koa Bevel $5999 ตอนนี้ก็น่าจะยังอยู่นะ ตาจอร์จเอาไปออกงาน Winter NAMM 2010 ด้วยซะด้วย) ยิ่งได้ไปลอง Lowden ที่บ้านน้าวันละเป๊กและน้า Povation มาอย่างจุใจและชอบทีเดียวเลยทำให้ไขว้เขวมาก และถ้าเกิดต้องขายต่อขึ้นมาตอนที่กลับไทยมาแล้วคิดว่าคงง่ายกว่ากีตาร์จากช่างที่คนไทยไม่รู้จักอย่าง Simpson

พอลองนั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิด สุดท้ายก็ถามตัวเองว่าจริงๆแล้วเราอยากได้อะไรและทำไมเราถึงเสาะหา Boutique guitar ขนาดนี้ และผมก็ได้คำตอบว่าทุกอย่างเริ่มจาก Simpson guitar ซึ่งเป็นกีตาร์ที่ผมฝันถึงมาตลอดสองปีนี้ และผมก็ซื้อกีตาร์มาเพื่อเป็นของผม ไม่ได้ซื้อมาเพื่อขาย ผมก็เลยตัดสินใจมัดจำไว้ก่อน $300 เพื่อที่จะกลับไปจัดการตอนผมกลับไปอเมริกา

แล้วผมก็คิดขึ้นได้ว่า ทำไมไม่ลองหาดูละว่าเจ้าของเก่าคือใคร จากนั้นผมลงมือสืบเลยครับแล้วก็เจอคำตอบใน Facebook ของ Simpson นั่นแหละ ผมเลยส่ง email ไปหาเค้า และเค้าใจดีมากตอบมาอย่างยาวเลยโดยแปลเป็นไทยได้ดังนี้


ถึงปั๊บ,
ใช่แล้ว กีตาร์ตัวนั้นเคยเป็นของฉัน และไม้ที่ใช้นั้นฉันเป็นคนเลือกเองกับมือ Cocoboloที่ฉันส่งให้Jasonสร้างกีตาร์ตัวนั้นมันสุดยอดมากๆ (Jason เคยบอกไว้ใน facebook ว่าคนๆนี้ “has some of the finest woods on the planet” ) ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวว่าฉันเป็นเจ้าของ“ร้านขายกีตาร์ High-End และ Boutique Guitars ร้านหนึ่งในอเมริกา” (ขอไม่บอกชื่อร้านนะครับ) และมีส่วนร่วมทั้งการสร้างและขาย Simpson guitars มากกว่าใคร ฉันเชื่อว่า Jason Simpson คือหนึ่งในช่างทำกีตาร์ที่เก่งที่สุดในโลก กีตาร์ทุกๆตัวที่ Jason สร้างให้ฉันสามารถอธิบายอย่างง่ายๆได้ว่า “Amazing” ฉันเคยสร้างกีตาร์ แบนโจ และฮาร์ปตอนราวๆปี 1970 ขณะที่สอน wood technology ในมหาวิทยาลัย และตลอดที่ผ่านมา ฉันได้ขายกีตาร์ของช่างที่ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุดในโลกมาหลายคน และคุณภาพของกีตาร์จาก Jason นั้นไม่ด้อยไปกว่าช่างเหล่านั้นเลย หนึ่งในกีตาร์ที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเล่นมาในชีวิตคือ Simpson Malaysian Blackwood ที่ฉันเพิ่งได้รับมาเร็วๆนี้ เป็นกีตาร์ที่มีเสียงที่มีเอกลักษณ์มากและมีคุณภาพสุดยอดควรค่าแก่การสะสม แม้ว่าฉันจะพูดว่าอย่างนั้น กีตาร์ตัวที่เธอสนใจซื้อนั้น "better than most guitars out there”

เสียงของกีตาร์ที่เธอสนใจนั้นจะออกไปทางสดใส(delight)และอบอุ่น แต่ไม่ muddy แน่นอน ฉันเคยเล่น R.Taylors มาหลายตัว (ปั๊บบอกว่าปั๊บเคยมี R.Taylor ตัวนึงและเคยเล่น Kevin Ryan มาสามสี่ตัว) R.Taylors นั้นไม่สามารถเทียบกับ Simpsons ได้ทั้งในเรื่องของเสียงและคุณภาพของงาน (อยากบอกเค้าว่าราคาก็ด้วยนะ 555 ฮือๆๆ) Taylor ขอให้เค้าเป็นตัวแทนตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว Taylors เป็นกีตาร์ที่ดี(Good) แต่ไม่ใช่กีตาร์ที่ดีมาก(but not Great) Simpson สร้างกีตาร์ที่ดีมาก(Great) และ Kevin Ryan ซึ่งเป็นหนึ่งในช่างกีตาร์ที่ฉันชื่นชอบก็สร้างกีตาร์ที่ยอดเยี่ยม(Wonderful) แต่ Simpsons นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเลย และ “in some way better” ด้วยซ้ำ เวลาฉันดูกีตาร์ ฉันจะดูสามอย่าง 1.เสียง 2.คุณภาพงาน 3. สุนทรียภาพ สำหรับกีตาร์ที่ดีมากทั้งเสียงและคุณภาพงานนั้นแน่นอนอยู่แล้ว และสุนทรียภาพนั้นจำเป็นต่อการที่กีตาร์นั้นจะเป็นกีตาร์ที่ควรค่าแก่การสะสม และ Jason นั้นสร้างกีตาร์ที่มีครบทั้งสามอย่างนี้ “You cannot go wrong on any Simpson guitar”

ฉันพยายามที่จะไป Healdsburg festival ทุกปีเพื่อที่จะเล่นกีตาร์สร้างโดยช่างที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก และเพื่อซื้อกลับมาด้วยสามสี่ตัว (นี่คือ list ของช่าง 116 คน/กลุ่มที่นำกีตาร์มาโชว์ที่งานนี้ของปีนี้ครับ http://guitarfestival.lmii.com/participa...-2013.html (อยากไปจัง แต่อยู่ซะคนละฟากประเทศเลย และตอนนี้ช๊อตแล้ว ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยว่ากัน)) ช่างในดวงใจของฉัน ณ วันนี้คือ Simpson, Charis, Blanchard, Olson, Ryan, และ Petros พวกเขาเหล่านี้คือ Master Builders และกีตาร์ของพวกเขามีคุณภาพที่โดดเด่นออกมาจากช่างคนอื่นๆอย่างชัดเจน

และเค้าลงท้ายว่า “Great guitars will be around much longer than you and I. Hope all this helps--and sincerely hope whatever instrument you buy will inspire you to be the best you can be.”



พอกลับมาอเมริกา ผมก็จัดการทุกอย่าง และในที่สุดก็ได้มาไว้ในครอบครองครับ

หลังจากที่ได้มันมาแล้ว ในตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าผมดีใจและภูมิใจกับมันมากครับ กีตาร์ตัวนี้คงเป็นสมบัติล้ำค่าสุดๆอันหนึ่งในชีวิตและคงเป็นกีตาร์ตัวสุดท้ายที่ผมคิดจะขาย(กว่าจะหามาได้และรวมถึงความผูกพันกับมั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป) ตอนนี้กระสุนหมดแม็ก จะขอพักฟื้นยาวๆย๊าวยาวจากการเสาะหากีตาร์(หมายถึงหาซื้อนะครับ ไม่รวมหาลอง Tongue) และหันมาหัดเล่นกีตาร์ให้ฝีมือกากๆที่มีนั้นดีขึ้นหน่อยครับ Smile

ตกรูป Rosette ไป เป็น Rosette ที่ Jason บอกว่าใช้เวลาในการทำมาก

[Image: 6mvj.jpg]
กีตาร์แบบนี้มีคุณค่ามากๆครับ ยินดีที่มาอยู่คนที่รู้คุณค่ามันครับBig Grin
ยินดีด้วยครับ ส่วนตัวผมก็ชอบ cedar นะ เสียงจะนุ่มๆนวลๆกว่า spruce
แต่ถ้าทำไม่ดีเสียงจะบางและแหลมบาดหู
แต่ตัวนี้คงหายห่วงครับ ช่างระดับนี้เรื่อง voicing นั้นคงคุมได้ในแต่ละตัว
จากรูปดูเหมือนที่พักแขนเค้าจะกว้างกว่าที่เคยเห็นของช่างคนอื่นเลยนะครับ คงพักแขนสบายเลย

ไม่ทราบว่าคุณ Olanla เคยได้ลองของ Mark Blanchard รึเปล่าครับ
ผมชอบวิธีจูนไม้ของเค้านะ แต่ไม่รู้ว่าเสียงเป็นยังไง
ยินดีด้วยนะครับBig Grin
Alright Pup, such a long story to tell (But I like itBig Grin)

Thanks for sharing your wonderful story with us here Tongue

Now start playing it young man. Guitars are built to be played not just to be seen OK!!

Whenever you go to visit me at California I wish you would take this baby with you. BUT DON'T DO IT! It's better for it to be Safe and Sound at Worchester Big Grin
(09-08-2013, 12:55)parker1713 Wrote: [ -> ]กีตาร์แบบนี้มีคุณค่ามากๆครับ ยินดีที่มาอยู่คนที่รู้คุณค่ามันครับBig Grin
ขอบคุณครับพี่ ^^


(09-08-2013, 13:39)gman Wrote: [ -> ]ยินดีด้วยครับ ส่วนตัวผมก็ชอบ cedar นะ เสียงจะนุ่มๆนวลๆกว่า spruce
แต่ถ้าทำไม่ดีเสียงจะบางและแหลมบาดหู
แต่ตัวนี้คงหายห่วงครับ ช่างระดับนี้เรื่อง voicing นั้นคงคุมได้ในแต่ละตัว
จากรูปดูเหมือนที่พักแขนเค้าจะกว้างกว่าที่เคยเห็นของช่างคนอื่นเลยนะครับ คงพักแขนสบายเลย

ไม่ทราบว่าคุณ Olanla เคยได้ลองของ Mark Blanchard รึเปล่าครับ
ผมชอบวิธีจูนไม้ของเค้านะ แต่ไม่รู้ว่าเสียงเป็นยังไง
ขอบคุณครับ ตัวนี้เสียงนุ่มนวลมากจริงๆครับ
Blanchard นี่ยังไม่เคยลองครับ อยากเหมือนกัน เห็นนักดนตรีหลายๆคนใช้
เดี๋ยวปีหน้าจะพยายามหาเวลาไป Healdsburg festival ดูครับ จะได้ลองทุกตัวที่อยากลอง Smile


(09-08-2013, 21:22)วันละเป๊ก Wrote: [ -> ]ยินดีด้วยนะครับBig Grin
ครับผมมมม Big Grin


(09-08-2013, 22:17)napman Wrote: [ -> ]Now start playing it young man. Guitars are built to be played not just to be seen OK!!

Whenever you go to visit me at California I wish you would take this baby with you. BUT DON'T DO IT! It's better for it to be Safe and Sound at Worchester Big Grin
I am playing it and will sure play it a lot to make it deserve all of my time seeking for one.

That will be when you come to visit me, either here or in Thailand Big Grin
(09-08-2013, 22:48)Olanla Wrote: [ -> ]เดี๋ยวปีหน้าจะพยายามหาเวลาไป Healdsburg festival ดูครับ จะได้ลองทุกตัวที่อยากลอง Smile

เดี๋ยวนี้ Healdburg จะจัดสลับกับ Montreal Guitar Show กันปีละงานแล้วครับ
เพื่อให้ช่างได้เข้าร่วมได้เต็มที่ ไม่ต้องแบ่งจำนวนไปคนละงานในแต่ละปี
ปีหน้าเป็นคิวของ Montreal ครับ ถ้าเป็น Healdsburg ต้องรอปี 2015 ครับ
(10-08-2013, 10:44)gman Wrote: [ -> ]เดี๋ยวนี้ Healdburg จะจัดสลับกับ Montreal Guitar Show กันปีละงานแล้วครับ
เพื่อให้ช่างได้เข้าร่วมได้เต็มที่ ไม่ต้องแบ่งจำนวนไปคนละงานในแต่ละปี
ปีหน้าเป็นคิวของ Montreal ครับ ถ้าเป็น Healdsburg ต้องรอปี 2015 ครับ

ขอบคุณมากครับ แล้ว NAMM จัดทุกปีรึเปล่าครับ
เข้าใจว่าทุกปีปีละ 2 ครั้ง (winter กับ summer) นะครับ
เพิ่งคิดได้ว่าลืมแปะคลิปเสียงของตัวนี้ -_-

Pages: 1 2