NimitGuitar webboard

Full Version: ผมหาสเปค yamahaFG411CE ไม่เจอครับ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
ไม่ทราบว่าน้าๆท่านไหน พอมีข้อมูลบ้างครับ พอดีซื้อเมื่อ7-8ปีที่แล้ว 4-5ปีหลังเก็บไว้บ้านนอกอย่างเดียวเลย อิอิ เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา กลับไปเอามาซ่อม เฟรต เปลี่ยนnut กับ saddle ตอนซื้อเพิ่งเริ่มเล่นครับไม่สนใจสเปคเท่าไหร่ วันนี้เกิดอยากรู้ขึ้นมา ลองหาใน เนต ไม่มีแบบละเอียดเลย โดยเฉพาะ ขนาดส่วนของคอ
เพราะเล่นเข้ามืออย่างมาก อยากทราบไว้เพื่อเวลาหากีตาร์ใหม่ จะได้เอาเป็นขนาดอ้างอิงได้นะครับ

รบกวนด้วยครับ
ได้ความว่าอย่างนี้ครับ ...

SPECIFICATIONS:
FG411CE

Year(s) Sold: 1995-99
Original MSRP(US$): $599.00
Top: Spruce
Back / Sides: Agathis
Neck: Mahogany
Fingerboard: Indian Rosewood
Bridge: Rosewood
Color(s): Natural, Balck, Violin Sunburst, Marine Blue
Tuners: Chrome
Notes: Cutaway
...ที่มา..http://www.yamaha.com/apps/guitararchives/guitarchive2.asp
ถ้าดูจากเวบญี่ปุ่นซึ่งน่าจะเป็นสเป็คที่ส่งมาขายเมืองไทยจะแตกต่างกับรุ่นที่ขาย
ในอเมริกาเล็กน้อยครับ

ปีที่ผลิต......10/1993 to 04/1995
ราคา......28,000 yen
Scale length......636 mm. = 25"
Top.....Spruce
Back/side....Nato

http://www.yamaha.co.jp/item/archive/gui...cat_no=767

ส่วนความกว้างของคอนั้นกีต้าร์โปร่งของญี่ปุ่นในยุคนั้นส่วนมากกว้าง 42 mm.ครับ(เล็กกว่า Ovation 0.9 mm.)
โอ้ววว ขอบคุณทั้งน้า pisit5924 และ น้า กฤษ ครับ
มีข้อมูลอะไรที่ผมควรทราบอีกมั้ยครับ เพราะสภาพสีภาพนอกค่อนข้าง เยิน เป็นฝ้าๆ
และก็ สีมันแตกเป็นเส้นตามลายไม้ แต่ไม่กระเทาะออกมานะครับ
การแตกลายงาหรือที่ฝรั่งเรียกว่า finish checking เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
อย่างกระทันหันครับ ไม่มีผลต่อเสียง เดี๋ยวนี้ Fender custom shop ยังเอากีต้าร์ใหม่ไป
ทำให้แตกลายงาแล้วเอามาขายแพงฯเลย

ส่วนสีเป็นฝ้านั้นน่าจะเป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาของกีต้าร์ญี่ปุ่นเพราะยังไม่เคยเห็นฝรั่งเจ้าไหน
กล้าลอกเลียนแบบเลย กีต้าร์ญี่ปุ่นที่ไม่ใช่ solid back/side ชอบใช้ polyurethane finish
เพราะไม่ต้องขัดไม้มากและรวดเร็วดี ปัญหาก็คือกีต้าร์พวกนี้มันหายใจไม่ออกครับเพราะอากาศมันซึมผ่าน
ไม่ใด้เหมือนพวก nitro finish อยู่บ้านเขาไม่เท่าไหร่แต่พอมาอยู่บ้านเราที่อากาศชื้นมาก ความชื้นที่ซึมเข้า
ทางด้านในที่ไม่มี finish มันผ่านออกไปไม่ใด้ก็เลยกลายเป็นฝ้าครับ แก้ใด้โดยการขัดสีออกหมดแล้วลง nitro
finish ช่างบ้านเราทำใด้ทุกคนแต่ค่าทำแพงกว่ากีต้าร์ครับ
โอ้ววว ขอบคุณน้ากฤษอีกครั้งครับ หายกังวลเรื่องเสียงกับสีละ
แต่ปรากฏว่า true rod มันสุดแล้วอ่ะครับ เศร้า ตอนเอาไปให้พี่จงแกใส่saddle กับ รีเฟรต แกก็ไม่ว่าอะไรซักนิดงงกะแกเหมือนกัน ไม่ทราบว่าจะแก้ได้มั้ย คุ้มมั้ย
ถ้าผมซื้อ พวกFG 7xxs มาเจาะใส่ปรีตัว411 เข้าไป จะคุ้มกว่ามั้ยครับ เพราะชอบคออ้วนๆ กะเอามาลุยกลางคืนครับ
กีต้าร์ทุกตัวคอมันจะงอขึ้นเรื่อยฯตามอายุขัยของมันเนื่องจากแรงดึงของสายเขาก็เลยทำ
adjustable truss rod มาให้ปรับคอใด้โดยผู้ริเริ่มคือ Gibson ตั้งแต่ยุค 1920's พอ
ลิขสิทธ์หมดอายุลงเจ้าอื่นก็เลยทำตามบ้าง มี Martin เจ้าเดียวที่ไม่ยอมทำจนถึงปี 1985

ถ้า truss rod ปรับสุดแล้วคอยังงออยู่สิ่งที่ต้องทำคือการถอดคอออกมาปรับมุมใหม่ครับ
ความยากง่ายของการทำก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่ผู้ผลิตใช้ต่อคอกับตัวกีต้าร์ ถ้าเป็นกีต้าร์ยุคใหม่อย่าง
พวก Taylor, Bourgeois, Tacoma ที่ใช้น้อตยึดก็ง่ายมากแต่ถ้าเป็นกีต้าร์ส่วนใหญ่ที่ใช้
dovetail joint นี่เรื่องใหญ่มากครับ ช่างสมชายเคยบอกผมว่าใครให้สองหมื่นยังไม่ยอมทำให้
เลย ถ้าเป็น Martin ยังน่าทำแต่ Yamaha นี่คงไม่คุ้มครับ

วิธีแก้อย่างอื่นก็คือการฝน saddle ลง การใช้สายเบอร์เล็กลงและการตั้งสายที่ Eb ครับ ถ้าต้องการ
ทำ neck reset ควรปรึกษาช่างที่เป็น certified luthier ซึ่งในบ้านเราเท่าที่ทราบก็มีช่างโจนส์คน
หนึ่งแน่นอน

เรื่องคองอนี่คนที่ซื้อกีต้าร์มือสองทุกคนควรศึกษาไว้นะครับเพราะมันเป็นเรื่องปกติของกีต้าร์เก่าทุกตัว
ตามปกติถ้ากีต้าร์โดนฝน saddle มาแล้วผมไม่ซื้อครับ
ขอบคุณ น้ากฤษ มากครับ สงสัย ผมต้องหากีตาร์ตัวใหม่แล้วละครับ เพราะ saddle ลงสุดๆแล้ว สายเบอร์0.011 และมันโดนผมทิ้งอยู่ในซอง ป่วยๆ มาเวลานานมากๆ สงสัย ต้องเอามันไปพักซะแล้ว เฮ้อ เสียดายจัง
ส่วน ถ้าจะซื้อ คงมือหนึ่งละครับ (แต่ก็คงอีกซักพัก ช่วงนี้งานน้อย )
ขอบคุณมากครับ T-T
ตอนนี้ เซิร์จไปเจอ yamaha FGX730s สเปคเข้าที แต่ไม่น่านำเข้า ไม่รู้ว่าจะสั่งได้มั้ยเนี่ยครับ
มีใครพอทราบ ร้านที่เป็นตัว จำหน่ายyamaha โดยตรงมั่งครับ(นอกจาก beatspot ที่ฟอร์จูน)