NimitGuitar webboard

Full Version: กีต้าร์ราคาสมเหตุสมผล.. เลือกซื้อจากที่ไหน.. และเพราะอะไรครับ..
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
(04-05-2013, 10:06)surasakluang Wrote: [ -> ]ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากอ่านมาซักพักนะครับ ผมว่าราคาที่แต่ละคนได้ก็เป็นราคาที่เราพอใจตอนที่เราทำการซื้อขายไม่ใช่หรือ ยังจำความรู้สึกตอนที่ตกลงซื้อ ตั้งหน้าตั้งตารอเมื่อไหร่จะได้มา ตอนที่เปิดกล่องหยิบกีต้าร์ขึ้นมาลูบคลำ มันช่างมีความสุขซะเหลือเกิน แล้วทำไมเราไม่จบแค่นั้น เคยไปซื้อรถแล้วหลังจากนั้นพบว่ามีคนอื่นต่อราคาหรือต่อของแถมได้มากกว่าหรือเปล่าครับ คุณทำยังไงกัน ขับกลับไปโวยวายที่ศูนย์ฯหรือเปล่า หรือเลิกขับรถคันนั้นเพราะเสียความรู้สึกหรือเปล่า หรือ คุณเคยมั้ย ตอนสมัครงานแล้วต่อรองเงินเดิอนที่คุณพอใจที่จะมาทำ จำความตื่นเต้นตอนกลับไปบอกแฟน พ่อแม่ เพื่อน ว่าได้งานใหม่ เงินเดือนดี๊ดี ยังจำความตื่นเต้นตอนไปเริ่มงานวันแรกได้มั้ย แต่ภายหลังตำแหน่งเดียวกัน รับคนใหม่เงินเดือนมากกว่า คุณเป็นไง ทุกข์ หงุดหงิด ผิดหวัง รู้สึกเหมือนถูกหลอก? ถามว่า ใครทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น คิดให้ดีๆนะครับ ว่าใคร????

ไม่ได้บอกว่าการค้ากำไรที่เกินไปเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเป็นความพอใจของทั้งสองฝ่าย ดังเหตุผลข้างบน แต่แน่นอนการบิดเบือนข้อมูลของตัวกีต้าร์ หรือการย้อมแมว เป็นคนละเรื่องกันและสมควรถูกประนาม

ขอเถอะครับ ถ้าคุยกันได้ก็ไปคุยกัน ถ้าไม่ได้ก็ควรจะยอมรับในสิ่งที่เราได้ตกลง กระทำไปแบบลูกผู้ชาย ยอมรับใน consequence ของมัน จำเป็นบทเรียนแล้ว move on ครับ
ครับผม
สวัสดีครับเพื่อนๆ

ผมนั่งอ่านมาหลายวันแล้ว ขอใช้โอกาสเวลาว่างชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ครับ
1. ประเด็นต่างๆที่คุณVornusถามมาทั้งทางPM, โทรศัพท์, ตั้งกระทู้ ผมคิดว่าตัวแทนของเราคือน้องเป๊กได้ตอบไปหมดแล้วชัดเจน และไม่ขอกล่าวซ้ำอีก เหมือนย้ำคิดย้ำทำครับ สังคมจะตัดสินเองครับ
2. ขอขอบพระคุณลูกค้าที่เปรียบเสมือนเพื่อนของเราทุกๆท่านที่ได้ใช้บริการที่ผ่านมา ขอบคุณหลายต่อหลายสายที่โทรศัพท์เข้ามาหา ถามด้วยความเป็นห่วง ไม่ว่าจะทาง Line, PM, แรงใจเหล่านีและคำแนะนำดีๆจากผู้ใหญ่หลายๆท่าน เราทราบซึ้งใจท่านยิ่งนักครับ น้ำใจอันดงดงามเหล่านี้จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของพวกเราเสมอ ขอบคุณมิตรภาพดีๆเช่นเคยครับ
3. ขอขอบคุณเพื่อนๆที่มาออกแสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ให้แง่คิดดีๆอีกมากมายก่อเกิดในเวบบอร์ดแห่งนี้ครับ คิดต่างได้แต่ไม่แตกแยกครับ
4. สุดท้ายคงต้องขอบคุณน้องVornusที่ส่งPMมาสอบถามเพราะไม่สบายใจคาใจ ซึ่งพวกเราก็ตอบไปทุกประเด็น หากแต่ยังไม่ทำให้คุณพึงพอใจอยู่ดีและเราก็ไม่สามารถรับข้อเสนอที่คุณขอมาได้ครับ น้องเป๊กทำหน้าที่ได้ดีในฐานะตัวแทนพวกเราและคิดว่าการตอบคำถามให้คุณVornusบรรเทาความไม่สบายใจก็ได้ทำไปทั้งหมดแล้วด้วยเหตุและผลครับ
5. Guitarmania (เดิม) และ RPM เจตนารมย์ยังเหมือนเดิม เกิดขึ้นเพราะมิตรภาพจากบุคคลกลุ่มหนึ่งที่รักในเสียงดนตรีโดยเฉพาะAcoustics Guitarและได้รู้จักกันฉันท์เพื่อนในเวบบ้านสีฟ้าแห่งนี้ พวกเรามารวมตัวกันได้เพราะมิตรภาพและสิ่งที่พวกเราทำอยู่ก็เรียกง่ายๆว่า "ธุรกิจ" ซึ่งแน่นอนต้องมีกำไรเพียงพอที่จะเลี้ยงธุรกิจให้อยู่ได้ หากแต่สิ่งที่พวกเราทำธุรกิจเล็กๆนี้ก็เพื่อให้ยังคงมีช่องทางในการนำเข้ากีต้าร์ดีๆได้ทั้งในทีมตนเองและเพื่อนๆที่สามารถใช้บริการได้
ดังนั้นเราไม่อยากให้ช่องทางนี้ดับสลายไปจึงเกิดเป็น RPM ขึ้นครับและทุกอย่างก็ดำเนินไปตามทางของมันครับ กำไรจากการทำธุรกิจตรงนี้ ขอชี้แจงได้เลยครับว่ามันน้อยมาก เรียกว่าน้ำจิ้มเลยก็ว่าได้เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น พวกเราทำเพราะสนุก อยากทำเพราะจะได้มีสิ่งนี้ดึงพวกเราไว้ไม่ให้ห่างกัน ได้เจอกัน คุยเรื่องกีต้าร์กัน อยากหยุดทำเมื่อไหร่ก็ทำได้ทุกๆเมื่อเหมือนตอนเราหยุดGuitarmania ทุกวันนี้ก็มีแต่เพื่อนๆเราเนี่ยแหละครับที่เป็นลูกค้าเหนียวแน่น

ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างผู้ชมผู้อ่านเป็นผู้ตัดสินครับ


หมู
ขอให้ความเห็นตามประเด็นหัวข้อกระทู้ของน้องโฟล์คน้อยดังนี้ครับ
ขอยกตัวอย่างหลายๆกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นได้
กรณีที่1.
คนรับฝากซื้อชักชวนให้คนซื้อ สั่งซื้อกีตาร์มาจากต่างประเทศ โดยรับจะดำเนินการจัดมาให้ถึงมือคนซื้อ
โดยคนรับฝากซื้อบอกว่าตัวนี้ดีเหลือหลาย ตำหนิมีน้อยหรือแทบไม่มี ราคาเท่านั้นเท่านี้ สนใจไหม
คนซื้อ ตกลงปลงใจ อาจจะต่อรองจนได้ราคารวมค่าดำเนินการทั้งหมดแล้ว เป็นเงินที่แน่นอน คนซื้อจ่ายเงินให้ครบแล้ว
กีตาร์มาถึง พอเปิดกล่องออก กลายเป็นไม่ดีอย่างที่โม้ไว้ (ไม่ใช่เพียงแค่คาดเดา) ราคาที่ซื้อมามันเป็นราคาที่พอใจแต่แรกก็จริง
แต่เปิดออกมาราคาที่พอใจจะกลายเป็นราคาที่ไม่พอใจ คงไม่ใช่
ประเด็นอยู่ที่ว่า คนซื้อเชื่อคนชักชวนใช่หรือไม่ คนซื้อตกลงซื้อเพราะเหตุใด แสดงเจตนาชัดๆเลยไหมว่าซื้อราคานั้นเพราะเหตุใด

กรณีที่1. นี้อย่าเพิ่งสรุปนะครับว่า ใครผิดใครถูก

กรณีที่2. คนชักชวนบอกว่ากีตาร์ตัวนี้ดี หายาก ราคาเท่านั้นเท่านี้ไม่แพงแล้ว สนใจไหม จะจัดการให้
ข้อความจริงคือ คนชักชวนคิดไปเองว่าเป็นเช่นนั้น ไม่ได้หลอกลวง เพียงแต่หวังดี เข้าใจไปเอง
คนซื้อเชื่อถือในประสบการณ์ของคนชักชวน พอคนซื้อตกลงปลงใจฝากซื้อ ต่อมาไม่นาน มาเห็นว่า กีตาร์รุ่นนี้ไม่ได้หายากนัก ราคาปัจจุบันก็ถูกกว่าปีที่แล้ว เช่นนี้ สมควรจะไม่พอใจคนชักชวนหรือไม่

ผมจะยกตัวอย่างไปเรื่อยๆ. กรณีทั้งหลายอาจเข้ากับกรณีของท่านใดท่านหนึ่งก็ได้
ซึ่งผมขอสงวนสิทธิที่จะตอบโดยทันทีว่า ใครผิดใครถูกอย่างไร
ผมว่าเรากำลังหลงประเด็นกันอยู่นะครับทางน้าVornus เท่าที่ผมวิเคราะห์คงไม่ได้ติดใจกับกำไรที่ทาง Guitarmania บวกเข้าไปแต่น่าจะเป็นเรื่องที่น้าVornusไม่พอใจที่ GM หมกเม็ดเรื่ิองที่มาของกำไร

แก่นของเรื่องนี้น่าจะเป็นที่ Guitarmania โฆษนาว่าคิดค่า "ขนส่ง" เบ็ดเสร็จ 12,000 แล้วค่ากำไรจากส่วนต่างมาจากไหน ถึงแม้น้าเป็กจะพยายามจะบอกว่าน้าVornus ได้ตอบ"ตกลง"ว่าจะให้GM เป็นคนนำเข้าในตอนแรกแต่ตอนนี้ทำไมมาโวยวาย แต่ตอนตกลงดีลเป็นการตกลงที่ทำบนพื้นฐานที่พอใจในเรื่อง "ค่าส่ง" ที่12,000

ในทางกลับกันถ้า GM บอกไว้ตั่งแต่แรกว่านำเสนอกีต้าร์จากอเมริกาในราคาที่คุณพอใจแทนที่จะโฆษนาว่าเป็นคนนำกีต้าร์เข้าในราคา 12,000 เรื่องนี้คงไม่เกิดขึ้น
(04-05-2013, 10:39)vornus Wrote: [ -> ]
(04-05-2013, 10:06)surasakluang Wrote: [ -> ]ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากอ่านมาซักพักนะครับ ผมว่าราคาที่แต่ละคนได้ก็เป็นราคาที่เราพอใจตอนที่เราทำการซื้อขายไม่ใช่หรือ ยังจำความรู้สึกตอนที่ตกลงซื้อ ตั้งหน้าตั้งตารอเมื่อไหร่จะได้มา ตอนที่เปิดกล่องหยิบกีต้าร์ขึ้นมาลูบคลำ มันช่างมีความสุขซะเหลือเกิน แล้วทำไมเราไม่จบแค่นั้น เคยไปซื้อรถแล้วหลังจากนั้นพบว่ามีคนอื่นต่อราคาหรือต่อของแถมได้มากกว่าหรือเปล่าครับ คุณทำยังไงกัน ขับกลับไปโวยวายที่ศูนย์ฯหรือเปล่า หรือเลิกขับรถคันนั้นเพราะเสียความรู้สึกหรือเปล่า หรือ คุณเคยมั้ย ตอนสมัครงานแล้วต่อรองเงินเดิอนที่คุณพอใจที่จะมาทำ จำความตื่นเต้นตอนกลับไปบอกแฟน พ่อแม่ เพื่อน ว่าได้งานใหม่ เงินเดือนดี๊ดี ยังจำความตื่นเต้นตอนไปเริ่มงานวันแรกได้มั้ย แต่ภายหลังตำแหน่งเดียวกัน รับคนใหม่เงินเดือนมากกว่า คุณเป็นไง ทุกข์ หงุดหงิด ผิดหวัง รู้สึกเหมือนถูกหลอก? ถามว่า ใครทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น คิดให้ดีๆนะครับ ว่าใคร????

ไม่ได้บอกว่าการค้ากำไรที่เกินไปเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเป็นความพอใจของทั้งสองฝ่าย ดังเหตุผลข้างบน แต่แน่นอนการบิดเบือนข้อมูลของตัวกีต้าร์ หรือการย้อมแมว เป็นคนละเรื่องกันและสมควรถูกประนาม

ขอเถอะครับ ถ้าคุยกันได้ก็ไปคุยกัน ถ้าไม่ได้ก็ควรจะยอมรับในสิ่งที่เราได้ตกลง กระทำไปแบบลูกผู้ชาย ยอมรับใน consequence ของมัน จำเป็นบทเรียนแล้ว move on ครับ
ครับผม
Tongueดีใจ ที่น้า vornus เข้าถึงธรรม และยุติเรื่องนี้ลงได้ครับSmile

(04-05-2013, 12:20)povation Wrote: [ -> ]ขอยกตัวอย่างหลายๆกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นได้
กรณีที่1.
คนรับฝากซื้อชักชวนให้คนซื้อ สั่งซื้อกีตาร์มาจากต่างประเทศ โดยรับจะดำเนินการจัดมาให้ถึงมือคนซื้อ
โดยคนรับฝากซื้อบอกว่าตัวนี้ดีเหลือหลาย ตำหนิมีน้อยหรือแทบไม่มี ราคาเท่านั้นเท่านี้ สนใจไหม
คนซื้อ ตกลงปลงใจ อาจจะต่อรองจนได้ราคารวมค่าดำเนินการทั้งหมดแล้ว เป็นเงินที่แน่นอน คนซื้อจ่ายเงินให้ครบแล้ว
กีตาร์มาถึง พอเปิดกล่องออก กลายเป็นไม่ดีอย่างที่โม้ไว้ (ไม่ใช่เพียงแค่คาดเดา) ราคาที่ซื้อมามันเป็นราคาที่พอใจแต่แรกก็จริง
แต่เปิดออกมาราคาที่พอใจจะกลายเป็นราคาที่ไม่พอใจ คงไม่ใช่
ประเด็นอยู่ที่ว่า คนซื้อเชื่อคนชักชวนใช่หรือไม่ คนซื้อตกลงซื้อเพราะเหตุใด แสดงเจตนาชัดๆเลยไหมว่าซื้อราคานั้นเพราะเหตุใด

กรณีที่1. นี้อย่าเพิ่งสรุปนะครับว่า ใครผิดใครถูก

กรณีที่2. คนชักชวนบอกว่ากีตาร์ตัวนี้ดี หายาก ราคาเท่านั้นเท่านี้ไม่แพงแล้ว สนใจไหม จะจัดการให้
ข้อความจริงคือ คนชักชวนคิดไปเองว่าเป็นเช่นนั้น ไม่ได้หลอกลวง เพียงแต่หวังดี เข้าใจไปเอง
คนซื้อเชื่อถือในประสบการณ์ของคนชักชวน พอคนซื้อตกลงปลงใจฝากซื้อ ต่อมาไม่นาน มาเห็นว่า กีตาร์รุ่นนี้ไม่ได้หายากนัก ราคาปัจจุบันก็ถูกกว่าปีที่แล้ว เช่นนี้ สมควรจะไม่พอใจคนชักชวนหรือไม่

ผมจะยกตัวอย่างไปเรื่อยๆ. กรณีทั้งหลายอาจเข้ากับกรณีของท่านใดท่านหนึ่งก็ได้
ซึ่งผมขอสงวนสิทธิที่จะตอบโดยทันทีว่า ใครผิดใครถูกอย่างไร

Winkขอบคุณน้าป๋อ ที่มายกตัวอย่างให้ ผู้อ่อนด้อยในวงการอย่างผมได้มีความเข้าใจ ถึงใจเขาใจเรา และความเสี่ยงความไม่เป็นดังคาดหมายก็มีอยู่ในทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นอยู่ของมันอยู่แล้วShy
กรณีที่ 3.
คนซื้ออยากจะได้กีตาร์จากต่างประเทศ มองไว้แต่ติดต่อไม่เป็นหรือไม่สะดวกที่จะทำด้วยตนเอง จึงขอพึ่งให้คนที่ดำเนินการแบบมืออาชีพที่เคยติดต่อซื้อมาหลายครั้งจากต่างประเทศแล้ว ดำเนินการให้
โดยตกลงกันว่า ค่าเนินการที่กำหนดไว้มาตราฐานนั้น รับราคาได้
โดยคนซื้อขอให้ช่วยต่อราคาให้ด้วยถ้าทำได้ คนดำเนินการต่อให้แล้วแจ้งว่าได้ลดจากราคาตั้งไว้ 10% คนซื้อยอมรับราคาที่ลดแล้วได้
ต่อมา เมื่อกีตาร์มาถึง คนซื้อพอใจเป็นหนักหนา อยู่มาวันหนึ่ง คนซื้อไปได้ข้อมูลที่ไหนมาไม่อาจทราบได้ว่า ร้านที่ซื้อมานั้น ปัจจุบันลดให้ได้ถึง 15% เช่นนี้ คนซื้อจะเสียใจเพียงใดที่คนดำเนินการขอส่วนลดให้น้อยไป ทั้งๆที่คนดำเนินการขอลดได้เท่านั้นจริงๆ คนซื้อจะเชื่อคนดำเนินการไหมหนอ หรือจะมองว่า คนดำเนินการ แอบมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไร

กรณีที่ 4.
คนซื้อขอให้คนดำเนินการช่วยจัดหากีตาร์จากต่างประเทศโดยระบุตัวที่ชอบเลือกไว้แล้ว
คนดำเนินการถามว่า พอใจราคาเท่าใด ราคาตั้งไว้ $5000.
คนซื้อบอกว่าถ้าได้ราคาไม่เกิน $4500. ก็ตกลงจัดมาได้เลย
คนดำเนินการไปต่อรองจนได้ราคามาต่ำสุดที่$4000.
คนดำเนินการบอกคนซื้อว่าเค้าให้ราคา $4500. จะซื้อไหม
คนซื้อบอก จัดมาให้ไวเลย
เช่นนี้ คนดำเนินการ สมควรได้ส่วนลด $500. หรือไม่ หรือควรบอกความจริงกับคนซื้อว่า ลดเหลือ $4000.
กรณีไม่ได้บอกนะว่า คนดำเนินการไปเจรจาลิ้นทองอย่างไรจึงได้ส่วนลดมาเช่นนั้น ไปสัญญาใดๆกับคนขายว่าจะมาอุดหนุนอีกหลายตัวหรือบ่อยๆหรือไม่
หากคนซื้อมาทราบความจริงภายหลังว่า กีตาร์ตัวนี้คนขายลดให้ $1000. คนซื้อควรได้เงินคืนจากคนดำเนินการอีก $500. หรือไม่
ใครผิดใครถูก ยังไม่สรุปตอนนี้ครับ
ยอมรับในการตัดสินใจ และผลที่จะตามมาของตัวเอง จะทำให้ชีวิตมีความสุขครับ
ซื้อไปแล้ว กีตาร์ก็เล่น ก็กอดไปแล้ว เสียงดีไหมครับ R Taylor เคยได้ยินแต่ชื่อ

สมมุติ มีผู้ชายคนนึง ไปแต่งงานกับผูหญิงคน เข้าใไปเองจว่าสาวยังมิเคยต้องมืชายใดมาก่่อน ถ้าตอนหลังรู้ว่าเคยผ่านมือชายมาแล้ว จะเอาไปคืน คงโดนลูกปืนจากพ่อตา

สำหรับผมซื้อมาแล้ว ไม่ Happy กับร้านไม่ว่ากรณีไดๆ ก็เลิกเข้าร้านนั้น ก็จบ ไม่เห็นต้องคิดมาก
กรณีที่ 5.
เกิดขึ้นในเมืองไทย
คนขายบอกขายกีตาร์โดยพูดด้วยวาจากับผู้ที่สนใจทั้งหลายว่า กีตาร์ตัวนี้ได้มาจากต่างประเทศ ในราคา $3000.
แต่ความจริงแล้วได้มาเพียง $2500. ต่อมามีคนซื้อไปราคา $3300. แล้วมารู้ความจริงทีหลังว่า คนขายได้มาราคาเพียง $2500.
เช่นนี้ คนขายน่าถูกตำหนิหรือไม่ หรือต้องรับผิดชอบต่อคนซื้ออย่างไร หากเหตุเกิดที่บ้านสีฟ้า
การซื้อกีตาร์นั้นถ้าเป็นการซื้อขายที่ภาษากฏหหมายสากลเรียกว่า "CAVEAT EMPTOR" ซึ่งเป็น Roman Law แปลใด้ว่า "Let The Buyer Beware" ครับ

"Under the principle of caveat emptor, the buyer could not recover damages from the seller for defects on the property that rendered the property unfit for ordinary purposes. The only exception was if the seller actively concealed latent defects or otherwise made material misrepresentations amounting to fraud."

http://en.wikipedia.org/wiki/Caveat_emptor

ผมขอยกตัวอย่างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วนะครับ ผมสั่งซื้อ 1989 Taylor 712 จาก Guitarmania กีตาร์ตัวนี้ผู้ขายบรรยายว่าสภาพแทบไม่มีที่ติ

"As I hope the pictures indicate, there are virtually no cosmetic items to report, and not even any real evidences of play wear. The frets are virtually unworn, the pick guard is unscratched, and the finish has only a few small dings and some slight finish crazing on the top."

พอใด้รับกีตาร์และเปิดกล่องดูผมแทบลมจับเพราะกีตาร์ตัวนี้คอหักครับ รูปที่ลงในเว้บนั้นเขา photoshop มา ผมรู้ว่าผมไม่สามารถแจ้งให้ Guitarmania ทำเรื่องขอเงินคืนใด้เพราะกว่ากีตาร์จะมาถึงมือผมมันก็เกิน 45 วันแล้ว ถึงแม้จะขอเงินคืนใด้แต่ค่าส่งกีตาร์ไปกลับก็คงจะหลายหมื่นครับ

กรณีนี้ตามกฏหมายแล้ว Guitarmania เป็นผู้ขายนะครับไม่ใช่ผู้จัดส่งเพราะผมจ่ายเงินให้ Guitarmania และ Guitar mania ก็ไปซื้อสินค้าและเอามาขายผมในราคาต้นทุนบวกค่าดำเนินการบวกกำไรครับ

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างของ Caveat Emptor Law ที่ระบุชัดเจนว่าผู้ซื้อต้องยอมรับสภาพของสินค้าไม่ว่ามันจะใช้งานใด้หรือไม่และไม่สามารถเรียงร้องค่าเสียหายใดๆจากผู้ขายใด้หากผู้ขายไม่มีเจตนาฉ้อโกงโดยการปกปิดจุดบกพร่องหรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จโดยเจตนาแก่ผู้ซื้อ

นอกจากผมแล้วเมื่อปีที่แล้วก็มีผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งในบ้านนี้ที่โดนคนขายในอเมริกาหลอก เรื่องนั้นในที่สุดก็เคลมเงินคืนใด้แต่ก็เสียค่าขนส่งไปหลายหมื่นบาทครับ

Taylor ตัวนี้ผมต้องเสียเงืนเปลี่ยนคอใหม่อีกสองหมื่นบาทและขายเมื่อไหร่ก็ขาดทุนยับเยินเมื่อนั้นแต่ก็ไม่ใช่ความผิดของผู้ขายคือ Guitarmania นะครับ
ด้วยความที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ผมจึงคิดว่ากำไรสูงสุดเป็นสิ่งที่ต้องคาดหวังในการทำธุรกิจต่างๆ ผมว่าถ้าไม่บิดเบือนข้อมูลในตัวกีตาร์จำพวก ผลิตที่ไหน วัสดุที่ใช้ Error ต่างๆบนตัวกีตาร์ ผมคิดว่าเพียงพอแล้วครับที่จะขายกีตาร์ตัวนึง ส่วนเรื่องราคาซื้อมาเท่าไหร่นั้น จะบอกเกินจริง หรือจะไม่บอกเลยก็ได้ครับ ไม่ใช่ประเด็นต้องสนใจเลย ถ้าคุณเห็นว่าราคาในขณะที่คุณตัดสินใจซื้อนั้น มันทำให้คุณพอใจ คนขายไม่มีความผิดอันใดเลยครับ จริยธรรมในการค้าขายไม่ได้หมายความว่า อย่าเอากำไรเกินไปนะ ต้องเคลียร์ข้อมูลไปจนถึงแหล่งผลิตเลยนะ ซื้อมาเท่าไหร่ผ่านมากี่มือ โกหกเรื่องราคาซื้อรึเปล่า แค่ข้อมูลของสินค้าถูกต้อง ของไปเงินมา จบครับ กรณีที่ 5 ของพี่ป๋อ นั้นโทษคนขายไม่ได้เลยครับ มันคือเทคนิคการขายอย่างหนึ่งครับ ยกตัวอย่างถ้าผมได้กีตาร์มาฟรีๆเลยตัวนึง ผมต้องให้คนอื่นไปฟรีๆเหมือนที่ได้มารึเปล่าครับ แล้วผมต้องบอกคนอื่นด้วยรึเปล่าเวลาลงขายว่าได้มาฟรีนะ มันไม่ใช่เรื่องครับ ผมมองว่าเป็นเทคนิคการขายครับ กรณีรู้ข้อมูลที่หลังจากซื้อแล้วอันนี้เป็นผมจะเงียบให้มากที่สุดครับ เพราะอายที่เสียรู้ครับ แล้วก็จะเตือนตนเองให้รอบคอบในการซื็อของมากกว่านี้ ทุกกรณีที่พี่ป๋อกล่าวมาทั้งหมด คนขายไม่ผิดครับ ฟันธงจากมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์คนนึง ผิดที่ไว้ใจมากกว่าครับ ไม่มีอคติกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายครับ ผมกาสองเบอร์ ไม่เชื่อถามน้า karn ได้
Pages: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14