ผมตอบแล้วนะครับว่า B-25 มันออกมาแทนรุ่น LG-2 และเป็น x-braces เหมือนกัน ทำไมเสียงมันถึงจะไปเหมือน LG-1 ใด้ล่ะครับ
เหตุผลที่ B-25 ไม่เป็นที่นิยมก็เพราะคอมันกว้างเท่า Les Paul (1 5/8") ครับ ถ้าคุณเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าอยู่แล้วก็คงเล่นใด้สะดวกแต่ถ้าชินกับคอกว้าง 1 11/16" ก็อาจเล่นไม่ถนัดมือ
เรื่องตีคอร์ดใดีหรือไม่ผมก็เห็นคนส่วนใหญ่เขาซื้อรุ่นนี้มาตีคอร์ดกันทั้งโลก ไม่เห็นมีใครเอาไปเล่น finger style กันซักคน ถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็ซื้อ Martin D-18 ไปเลยครับ เสียงของ Gibson นั้นเขาว่าเป็น acquired taste ที่ต้องมีประสพการณ์มาพอสมควรเหมือนกับการรับรู้รสชาติของ wine ชั้นดีแหละครับ ตนที่ชอบ Gibson ในบ้านนี้ก็เคยมี Martin กันมาก่อนทุกคนครับ
(13-05-2012, 21:17)pood Wrote: [ -> ]ผมตอบแล้วนะครับว่า B-25 มันออกมาแทนรุ่น LG-2 และเป็น x-braces เหมือนกัน ทำไมเสียงมันถึงจะไปเหมือน LG-1 ใด้ล่ะครับ
เหตุผลที่ B-25 ไม่เป็นที่นิยมก็เพราะคอมันกว้างเท่า Les Paul (1 5/8") ครับ ถ้าคุณเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าอยู่แล้วก็คงเล่นใด้สะดวกแต่ถ้าชินกับคอกว้าง 1 11/16" ก็อาจเล่นไม่ถนัดมือ
เรื่องตีคอร์ดใดีหรือไม่ผมก็เห็นคนส่วนใหญ่เขาซื้อรุ่นนี้มาตีคอร์ดกันทั้งโลก ไม่เห็นมีใครเอาไปเล่น finger style กันซักคน ถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็ซื้อ Martin D-18 ไปเลยครับ เสียงของ Gibson นั้นเขาว่าเป็น acquired taste ที่ต้องมีประสพการณ์มาพอสมควรเหมือนกับการรับรู้รสชาติของ wine ชั้นดีแหละครับ ตนที่ชอบ Gibson ในบ้านนี้ก็เคยมี Martin กันมาก่อนทุกคนครับ
ขอบคุณมากคับ เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วคับ ^^
(13-05-2012, 15:53)naitinan Wrote: [ -> ]คับน้าซิน^^ แล้ว martin d-18 ที่น้าแนะนำ3ตัวนั้นแตกต่างกันยังไง แล้วแต่ละตัวราคาค่างวดอยู่ที่ประมารเท่าไหร่คับ ขอบคุณคับ http://www.youtube.com/watch?v=x9L13iAeB...ure=relmfu
ส่วนวิดีโอข้างบนนี่ผมอยากรู้ว่าเขาใช้gibsonอะไร ผมคิดว่าเป็นLG1อะครับ(ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือเปล่า^^) ผมเลยอยากได้ตัวแบบในวีดีโออะคับ
ขอบคุณน้าซินมากคับสำหรับคำตอบ ^^
วิดีโอข้างบน กีต้าร์ที่นายคนนี้เล่นผมโทรไปถามให้แล้วครับ
เค้าบอกผมว่าเป็นGibson LG-1 ที่ถูกผลิตระหว่างปี 1955-1961 เท่านั้น
สำหรับ D-18 แตกต่างกันอย่างไร อันนี้คงยาวครับ สั้นๆก็คือเรื่องของไม้หน้าที่แตกต่าง
ผมส่งลิ้งค์ สเปคมาลองอ่านที่สำคัญๆดูความแตกต่างในเรื่อง
nut width, string space,Bracing,
ราคานั้นมือสองในบ้านผมคาดว่า
GE 80,000 up
D-18V 70,000 up
D-18VS 75,000 up
ผมแนะนำให้อีกรุ่นที่น่าสนใจคือ 2012 D-18 Martin เค้ายกเลิกการผลิต D-18V
แต่อัพสเปค D-18 ใหม่ที่ออกปี 2012นี้ ให้คล้ายๆ V แต่ดีกว่าเล็กๆ
สเปคดีกว่า d-18V อีกน่าสนมาก แถมทำคอกว้าง 1 3/4
พวกที่ชอบ Fingerstyle คงชอบกว่าคอ 1 11/16 ของ D-18V ด้วย
งบถึง D-18GE ไม่ก็ 2012 D-18 มือสองคงไม่มีครับ แต่มือหนึ่งคงไม่แพงมาก
ลองศึกษาสเปคดูนะครับ
spec D-18GE
http://www.martinguitar.com/index.php?op...e&Itemid=6
spec D-18V
http://www.musiciansfriend.com/guitars/m...tic-guitar
spec D-18VS
http://www.sweetwater.com/store/detail/D18VS
Spec 2012 D-18
http://www.martinguitar.com/index.php?op...8&Itemid=6
(13-05-2012, 21:17)pood Wrote: [ -> ]ถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็ซื้อ Martin D-18 ไปเลยครับ เสียงของ Gibson นั้นเขาว่าเป็น acquired taste ที่ต้องมีประสพการณ์มาพอสมควรเหมือนกับการรับรู้รสชาติของ wine ชั้นดีแหละครับ ตนที่ชอบ Gibson ในบ้านนี้ก็เคยมี Martin กันมาก่อนทุกคนครับ
เห็นด้วยกับพี่กฤษณ์ทุกประการ
ได้ความรู้มากมายเลยคับ ขอบคุณน้าๆทุกคนมากคับ
สำหรับd18ที่น้าซินได้แนะนำผมทั้ง3รุ่นน่าสนใจมากคับแต่งบผมจำกัดจริงๆคับ ในงบ50k นี่ martin d-18ตัวธรรมดา สภาพดีๆยังพออยู่ในงบไหมคับ
ส่วนกีต้าตัวในวีดีโอนั้นสรุปว่าเป็นLG-1 ไม่ใช่ LG-2 ตามที่น้าซินบอก*-*
งบ 50K คงหาได้บ้างจากต่างประเทศ แต่สภาพอาจเก่าหน่อย ไม่แนะนำ
หรือไม่ลองไปประกาศหาตามกระทู้ซื้อขายดูก็ได้ อาจมีคนกำลังอยากขายพอดีครับ
ราคา D-18 ล้อตเก่าก่อนจะเปลี่ยนเป็น vintage spec 67,900 บาทครับ ถูกกว่า D-28 นิดเดียวเองแต่รุ่นใหม่ที่เปลี่ยนสเป็คเป็น D-18V ราคาจะใกล้เคียงกับรุ่น D-28 ครับ
คนไทยทั่วๆไปยังคิดว่า D-18 เป็นกีต้าร์ราคาถูกซึ่งก็เป็นความจริงตอนที่มันออกมาใหม่เมือ 80 ปีที่แล้ว สมัยนั้น D-18 ราคา $60 แต่ D-28 ราคา $100 แต่ตอนนี้ไม้ mahogany แท้ๆราคาไม่ใด้แตกต่างกับ indian rosewood เลยครับ ถ้ารักถ้าชอบเสียงแบบ original ของ vintage Martins ก็ซื้อ D-18 รุ่นใดรุ่นหนึ่งใด้เลยแต่ตอนขายต่อนี่ลำบากหน่อยครับ เมื่อตอนต้นปีผมเห็นมีคนลงขาย D-18V มือสองที่ 70,000 บาทก็ไม่เห็นมีใครสนใจเพราะราคาแพงกว่า D-28 มือสองเยอะครับ
ผมเคยมี D-18GE 1934 Golden Era ที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อตอนต้นเดือน สาเหตุที่ปล่อยก็เพราะว่าผมไม่ใด้ชื่นชมสไตล์เสียงของ vintage mahogany Martins มากนัก ผมมีกีต้าร์ mahogany ที่ผมชอบเสียงมากกว่า D-18GE เกินครึ่งโหลครับ แฟนของ Martin คงคิดว่าผมนั้นเป็นคนประเภท "ไก่ใด้พลอย" ซึ่งผมก็ว่าจริงของเขาเหมือนกัน
ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรลองเสียงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำใด้ก่อนนะครับเพราะมีคุณคนเดียวที่จะตอบคำถามใด้ว่าคุณชอบเสียงแบบไหนกันแน่ หรือจะซื้อมาลองแล้วขายต่อถ้าไม่ชอบแบบน้าๆบางคนในบ้านนี้ก็ไม่ผิดกติกาเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับคำตอบของน้าๆมากคับได้ความรู้เยอะมากคับ^^
ขอถามอีกคำถามนึงนะคับ taylor314ce เป็นall solidไหมคับ แล้วในงบ50kพอหามือ2สภาพเยี่ยม ในเมืองไทยพอจะมีไหมหรือต้องหาจากนอกคับ ขอบคุณคับ
alex turner ... ผมชอบเสียงตานี่จริงๆ คับ
(13-05-2012, 21:17)pood Wrote: [ -> ]ผมตอบแล้วนะครับว่า B-25 มันออกมาแทนรุ่น LG-2 และเป็น x-braces เหมือนกัน ทำไมเสียงมันถึงจะไปเหมือน LG-1 ใด้ล่ะครับ
เหตุผลที่ B-25 ไม่เป็นที่นิยมก็เพราะคอมันกว้างเท่า Les Paul (1 5/8") ครับ ถ้าคุณเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าอยู่แล้วก็คงเล่นใด้สะดวกแต่ถ้าชินกับคอกว้าง 1 11/16" ก็อาจเล่นไม่ถนัดมือ
เรื่องตีคอร์ดใดีหรือไม่ผมก็เห็นคนส่วนใหญ่เขาซื้อรุ่นนี้มาตีคอร์ดกันทั้งโลก ไม่เห็นมีใครเอาไปเล่น finger style กันซักคน ถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็ซื้อ Martin D-18 ไปเลยครับ เสียงของ Gibson นั้นเขาว่าเป็น acquired taste ที่ต้องมีประสพการณ์มาพอสมควรเหมือนกับการรับรู้รสชาติของ wine ชั้นดีแหละครับ ตนที่ชอบ Gibson ในบ้านนี้ก็เคยมี Martin กันมาก่อนทุกคนครับ
เปรียบเทียบเห็นภาพม๊ากกกกกกกค่ะ
(13-05-2012, 21:17)pood Wrote: [ -> ]ผมตอบแล้วนะครับว่า B-25 มันออกมาแทนรุ่น LG-2 และเป็น x-braces เหมือนกัน ทำไมเสียงมันถึงจะไปเหมือน LG-1 ใด้ล่ะครับ
เหตุผลที่ B-25 ไม่เป็นที่นิยมก็เพราะคอมันกว้างเท่า Les Paul (1 5/8") ครับ ถ้าคุณเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าอยู่แล้วก็คงเล่นใด้สะดวกแต่ถ้าชินกับคอกว้าง 1 11/16" ก็อาจเล่นไม่ถนัดมือ
เรื่องตีคอร์ดใดีหรือไม่ผมก็เห็นคนส่วนใหญ่เขาซื้อรุ่นนี้มาตีคอร์ดกันทั้งโลก ไม่เห็นมีใครเอาไปเล่น finger style กันซักคน ถ้าตัดสินใจไม่ถูกก็ซื้อ Martin D-18 ไปเลยครับ เสียงของ Gibson นั้นเขาว่าเป็น acquired taste ที่ต้องมีประสพการณ์มาพอสมควรเหมือนกับการรับรู้รสชาติของ wine ชั้นดีแหละครับ ตนที่ชอบ Gibson ในบ้านนี้ก็เคยมี Martin กันมาก่อนทุกคนครับ
เปรียบเทียบเห็นภาพม๊ากกกกกกกค่ะ