NimitGuitar webboard

อ้าวคนคอเดียวกัน ชอบเหมือนกันครับแต่เผอิญ Glenlivete เป็นขวดแรกที่ได้ทดลองจึงเหมือนเป็นสัญญลักษณ์ประจำบ้านไป ถ้าชอบกลิ่นควันมากๆลอง Laphroaig สิครับแล้วจะชอบ

....แหมม....ดูซิ.....ทำเอาเราเปรี้ยวปาก.....นึกถึง Glenfiddich เพียวซิงเกิลมอลล์ยี่ห้อแรกของไทย.....โอ้ย.......คุยอะไรกัน

ไม้ที่ใช้ทำกีต้าร์โปร่งเขาจะต้องตัดแบบ quartersawn เป็นสี่ส่วนแล้วตัดในแนวตั้งฉากกับวงปี
อีกทีซึ่งวิธีนี้จะใด้ไม้ที่มีความแข็งแรงสูงแต่สิ้นเปลืองมาก หากจะใช้ไม้หลังแผ่นเดียวมาทำกีต้าร์ทรง
dreadnought คงต้องใช้ไม้ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร ดังนั้นเลยไม่มีใครใช้ครับ

ส่วนไม้หลังสามชิ้นเป็นการคิดค้นของ Martin ในยุค 60's เพื่อต้องการใช้ประโยชน์จากแผ่นไม้ที่เล็ก
เกินไปที่จะเอามาทำเป็นสองชิ้นใด้ กีต้าร์ไม้หลังสามชิ้นตัวแรกคือ Martin D-35 ต่อมาในยุค 70's กีต้าร์
ญี่ปุ่นก็เอามาใช้กันเยอะมาก อย่างเช่น Yamaha FG-1500, FG-2000 เป็นต้น

Martin(Dick Boak) บอกว่าผลพลอยใด้ของไม้หลังสามชิ้นคือเสียงเบสมันเยอะขึ้นครับเมื่อเทียบกับหลังสองชิ้น
ส่วนหลังชิ้นเดียวอาจมีให้เห็นบ้างในกีต้าร์คลาสสิคครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบหลังสองชิ้นครับ

หลังสองชิ้นในภาพนี้มัน match กันดีเหลือเกินครับสีสรรได้เปี๊ยบเลย

สงสัยว่านี้เป็นแฟนเก่าตอนอยู่ที่อเมริกาหรือเปล่าครับ

....โอย.....น้า pood ครับ....สองชิ้นหลังตามภาบประกอบของน้า pood นี่อายุไม่น่าจะเกิน 20 ปี นา....จริงหรือเปล่าครับ กีต้าร์รุ่นท๊อปๆของมาร์ตินเขาจะใช้ไม้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20+ ปีครับ..........เอ....สงสัยกระทู้นี้ น่าจะ เป็นกระทู้ร้อนนะสำหรับ แก๊งล่มกระทู้......สงสัยคงยังไม่ตื่นกันมั้ง.....อะ....อะ....อะ....

อืมม...หลังแบบนี้ เบสส์คงทุ้มยิ่งกว่าไวโอลีนนะครับน้ากีต้าร์เก่า...

ฮ๊าดด..เช้ยยยยย!!!

ชอบชิ้นซ้ายครับ..

อยากดูชิ้นที่เป็นหลังเต่าอ่ะครับ


เผ่นดีก่า!!!.....แผล่วววว!..... เพล้ง!!! ..อูยยย

สุดยอดเลยครับน้า pood (ขออนุญาติเรียกตามสมาชิกอาวุโส) สองชิ้นนี้สงสัยจะทำทรง OM

Meeting หน้า ขอลองครับ อิ ๆ


(ผมเปล่าเริ่มน๊า..... )

pood Wrote:ไม้ที่ใช้ทำกีต้าร์โปร่งเขาจะต้องตัดแบบ quartersawn เป็นสี่ส่วนแล้วตัดในแนวตั้งฉากกับวงปี
อีกทีซึ่งวิธีนี้จะใด้ไม้ที่มีความแข็งแรงสูงแต่สิ้นเปลืองมาก หากจะใช้ไม้หลังแผ่นเดียวมาทำกีต้าร์ทรง
dreadnought คงต้องใช้ไม้ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่ต่ำกว่าหนึ่งเมตร ดังนั้นเลยไม่มีใครใช้ครับ

ส่วนไม้หลังสามชิ้นเป็นการคิดค้นของ Martin ในยุค 60's เพื่อต้องการใช้ประโยชน์จากแผ่นไม้ที่เล็ก
เกินไปที่จะเอามาทำเป็นสองชิ้นใด้ กีต้าร์ไม้หลังสามชิ้นตัวแรกคือ Martin D-35 ต่อมาในยุค 70's กีต้าร์
ญี่ปุ่นก็เอามาใช้กันเยอะมาก อย่างเช่น Yamaha FG-1500, FG-2000 เป็นต้น

Martin(Dick Boak) บอกว่าผลพลอยใด้ของไม้หลังสามชิ้นคือเสียงเบสมันเยอะขึ้นครับเมื่อเทียบกับหลังสองชิ้น
ส่วนหลังชิ้นเดียวอาจมีให้เห็นบ้างในกีต้าร์คลาสสิคครับ

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบหลังสองชิ้นครับ

ได้ความรู้ดีจังเรยครับสำหรับมือใหม่สมัครเล่นอย่างผม

ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ ถามต่อเรยนะครับ......กรณีที่ไม้หลังที่นำมาประกอบกัน มันต่างประเภทกันโดยสิ้นเชิง เพื่อวัตถุประสงค์อะไรครับ.....แล้วสมดุลย์ของเสียงเป็นอย่างไรครับ........สมดุลย์ (Balance) ของเสียง จะอิงกับชนิดของไม้ หรือ รูปทรงของกีต้าร์ครับ ขอขอบคุณทุกคำตอบไว้ล่วงหน้าครับผม