NimitGuitar webboard

Full Version: pickup & solid body
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
เห็นประเด็นกีตาร์ไฟฟ้ากำลังมาแรง ผมเลยอยากทราบว่า pickup กับไม้ที่ใช้ทำกีตาร์ไฟฟ้า แบบไหนที่ให้เสียงหวานๆ กลมๆครับ แล้วชนิดของไม้มีผลต่อเสียงมากหรือน้อยกว่า pickup (คำถามโลกแตก)

ตอนวัยรุ่นรู้แต่ว่าถ้าจะเล่นโหดๆต้อง humbucking ไว้ก่อน ส่วนยี่ห้ออะไร ไม้อะไร ไม่ค่อยได้ศึกษา แล้วก็ไม่ได้ลองมากนักนอกจาก Gibson กับ Fender รุ่นทั่วๆไปเท่านั้นเองครับ

ขอบคุณครับ Smile
ไม่รู้อ่ะค๊าบบบ.. รอพี่ยอดแล้วกันนะคับพี่.. Big Grin
หวานๆ กลมๆ ก็ ต้อง .........อมยิ้ม ซิครับ ไม่ใช่กีต้าร์ Tongue
หรือ "กิ๊ก อัพ" ก็น่าจะหาแบบ หวาน ๆ กลม ๆ ได้นะ...
ผมว่าประเภทของ body มีผลต่อเสียงมากสุดครับ ส่วนชนิดของไม้นั้นกีต้าร์ไฟฟ้าใช้กันอยู่แค่ไม่กี่ชนิด
ลองมาดูกันตามประเภทของ body นะครับ

1.SOLID BODY พวกนี้ใช้ไม้ชนิดเดียวเป็น body แต่อาจมีการปะหน้าด้วยไม้ลายสวยฯ ส่วนมากจะใช้
ash, alder,basswood ถ้าปิ้คอัพเป็น single coil ถ้าเป็น humbucker มักใช้ไม้ mahogany
พวก single coil เสียงจะหวานใสแต่เบสไม่ค่อยมี พวก humbucker จะโหด ลึก ยาว บางทีเขาจะเจาะรู
ที่ body เพื่อลดน้ำหนักครับแต่ไม่ใด้ต้องการให้เสียงเปลี่ยนอย่างในรูป

[Image: chamber-2.jpg]


2. CHAMBERED BODY พวกนี้จะคว้าน body เพื่อทำ tone chamber
ตัวบอดี้นิยมใช้ mahogany เสียงของกีต้าร์ประเภทนี้จะมี resonance ดีกว่า
และเสียงนุ่มกว่าแต่ sustain สั้นกว่าพวก solid body ที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนใหญ่เป็น custom shop ถ้าเป็น Fender ก็มี Telecaster Thinline RI,
Showmaster Elite ถ้า Gibson ก็มี Les Paul Supreme, ES-339, ES-356 เป็นต้น


[Image: Chamber-1.jpg]



3. SEMI-HOLLOW BODY พวกนี้ประกอบเหมือนกีต้าร์โปร่งแต่มีไม้แท่งเบ้อเริ่มอยู่ตรงกลางเพื่อเพิ่ม sustain และลด feedback น้ำหนักเลยค่อนข้างเยอะ
ส่วนใหญ่จะใช้ไม้ laminate maple ทำและใช้ humbucker ยกเว้นบางตัว
ใช้ single coil รุ่นโบราณอย่าง P-90 ตัวอย่างก็มี Gibson ES-137,ES-335

4. HOLLOW BODY ถ้าเป็น solid wood จะใช้การ carved จากไม้แผ่นหนา
ถ้าเป็น laminate จะใช้การดัดขึ้นรูป ไม้หน้าถ้าไม่ spruce ก็ maple ไม้หลัง
ถ้าไม่ maple ก็ mahogany เสียงพวกนี้คล้ายกีต้าร์โปร่ง ปิ้คอัพเป็น humbucker ล้วนฯครับ
ขอบคุณมากครับน้าปู๊ด Smile
ระหว่างไม้และ Pickup ถามว่าอะไรให้ผลต่างของเสียงมากกว่ากัน
คงต้องตอบว่า Pickup ครับ เพราะว่าความหลากหลายของ Pickup นั่นเอง
มันสามารถปรุงแต่ย่านเสียงต่างๆได้ รวมทั้งความดังเบาของ Output ด้วย
เมื่อต้องการเปลี่ยนเสียง ก็เปลี่ยน Pickup จะเห็นผลชัดสุดแต่............

ความ Balance ของกีต้าร์ และ Harmonic Overtone ต่างๆ ต้องอาศัยไม้เป็นตัว Resonance ครับ
เป็นผมๆ เลือกไม้ที่ตรงใจก่อน แล้วหา Pickup เพื่อมาปรุงแต่งให้ได้เสียงที่ตรงใจจ้า

สรุปว่า ผมให้ความสำคัญกับไม้และโครงสร้างเป็นหลักครับ เหมือนที่พี่กฤษณ์ว่าไว้
ส่วน Pickup น่ะมันเปลี่ยนง่ายครับ ฮุๆๆๆ Big Grin
แล้วเรื่องของ body กับ pickup มีส่วนอะไรไหมครับกับการเลือกขนาดและชนิดของสายกีต้าร์
ขนาดและชนิดของสายกีต้าร์ขึ้นกับรูปทรงของกีต้าร์มากกว่าครับ
ถ้าเป็นพวก Solid body หรือ semi hollow จะนิยมสายเบอร์เล็กคือ .009",.010" และ .011"
ถ้าเป็นพวก hollow body ที่ใช้ floating bridge จะนิยมเบอร์ .012",.013" ที่มีสาย G เป็น wound string
ถ้าเป็นกีต้าร์แจ้สจะนิยมใช้ flat wound ครับ

อย่างยามาฮ่าของน้าอ้วนถ้าใส่สายกีต้าร์ไฟฟ้าธรรมดาที่สายสามเป็น plain steel ละก้อ intonation เพี้ยนแน่นอนครับ
จริงอย่างน้าpood ว่า... ผมจำได้ว่าเมื่อตอนที่ยังเล่นจริง ๆ อยู่ ด้วยความที่ไม่มีความรู้ เคยพยายามเปลี่ยนไปใช้เบอร์ .009 เพราะแค่นึกว่าสา่ยเบอร์เล็ก ๆ มันจะได้นิ่ม เอื้อนได้ง่ายและเือื้อนเสียงข้ามโน๊ตได้หลายตัว แต่เมื่อใส่แล้ว ตอนเล่นคอร์ดไม่มีปัญหา มีตอนไล่ solo คือเสียงตั้งแต่ตำแหน่ง fret 7th ลงมาจะเหมือนตั้งสายไม่ตรง แรก ๆ นึกโทษว่าสายฯ มันไม่ดี เสียเงินเปลี่ยนไปไม่น้อย จนครั้งหนึ่งหาซื้อสายเบอร์ .009 ไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนกลับมาใช้สายเบอร์ .012 อาการดังกล่าวก็หาย...

ครับ... อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ด้วยความที่ไม่มีความรู้ ก็เลยแค่รู้แต่เพียงว่า กีต้าร์ตัวนี้ใส่สาย .012 หรือ .011 หากไปใช้สายฯ ที่เล็กกว่ามันจะเพี้ยน...555


ทีนี้ระหว่างสาย .009 - .010 -.011 นอกเหนือจากความนิ่มแล้ว เรื่องเนื้อเสียงนี่ต่างกันมากไหมครับ บนกีต้าร์ตัวเดียวกัน
Pages: 1 2 3