14-03-2012, 14:11
14-03-2012, 21:52
ผมคิดว่าโครงสร้างของไม้หน้าและ bracing นั้นถ้าไม่ได้อ่อนเกินไปจนบริเวณหลังบริดจ์ปูดแต่ด้านหน้าบริดจ์ยุบตัวอย่างชัดเจนแล้ว
อาการท้องป่องน่าจะมีสาเหตุจากความชื้นมากกว่าครับ ความหนาไม้หน้าของกีตาร์โปร่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2 มม.กว่าถึง 3 มม.กว่า
ถ้าเจอความชื้นแล้วไม่ว่าหนาหรือบางก็น่าจะมีโิอกาสปูดได้ไม่แพ้กันครับ
แต่ถ้ากลัวเจอปัญหาจากแรงตึงสายที่ทำกับไม้หน้าในระยะยาวแล้วจะเลือกตัวที่ไม้หนาหน่อยก็ได้ครับถ้าเราชอบเสียงของมัน
อาการท้องป่องน่าจะมีสาเหตุจากความชื้นมากกว่าครับ ความหนาไม้หน้าของกีตาร์โปร่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2 มม.กว่าถึง 3 มม.กว่า
ถ้าเจอความชื้นแล้วไม่ว่าหนาหรือบางก็น่าจะมีโิอกาสปูดได้ไม่แพ้กันครับ
แต่ถ้ากลัวเจอปัญหาจากแรงตึงสายที่ทำกับไม้หน้าในระยะยาวแล้วจะเลือกตัวที่ไม้หนาหน่อยก็ได้ครับถ้าเราชอบเสียงของมัน
15-03-2012, 02:59
ครับ ผมก็ว่ามันไม่ใช่สิ่งต้องคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ
เอาเสียง ความถนัด ราคา รสนิยม เป็นหลักดีกว่าครับ
เอาเสียง ความถนัด ราคา รสนิยม เป็นหลักดีกว่าครับ
15-03-2012, 08:38
แต่บางตัวมันก็ไปเร็วจนรับไม่ได้เหมือนกันนะครับ เพราะมัน Top Solid มันบางมาก
ทั้งที่ป้องกันความชื้น
ใส่สายใหม่ เช่นเดิมจากโรงงานเบอร์.12 เปลี่ยนเบอร์.11
เล่นเสร็จเช็ดสาย เช็ดกีต้าร์ด้วยผ้าแห้ง
เช็ค Siliga (ตัวเม็ดดูดความชื้น)
ใส่กระเป๋าพร้อม ที่วัดความชื้นไม่ให้เกิน 40
ก็ยังป่องเล็ก ๆ กลัวจะเป็นมาก
เลยจำใจต้องขายทิ้งมันไปครับ
ทั้งที่ป้องกันความชื้น
ใส่สายใหม่ เช่นเดิมจากโรงงานเบอร์.12 เปลี่ยนเบอร์.11
เล่นเสร็จเช็ดสาย เช็ดกีต้าร์ด้วยผ้าแห้ง
เช็ค Siliga (ตัวเม็ดดูดความชื้น)
ใส่กระเป๋าพร้อม ที่วัดความชื้นไม่ให้เกิน 40
ก็ยังป่องเล็ก ๆ กลัวจะเป็นมาก
เลยจำใจต้องขายทิ้งมันไปครับ
15-03-2012, 18:06
ดูที่ยี่ห้อ เมดอิน และราคาประกอบด้วยครับ อันนี้น่าจะมีเหตุผลอธิบายได้ดีกว่าความหนาที่วิศวกรคำนวณมาดีแล้ว ถ้าเน้นทำมาสเป็คสูงแต่ราคาต่ำทำยอดจำหน่าย อาจเสียงดีในตอนแรกๆ แต่ในระยะยาวอาจกลายเป็นกีตาร์เจ้าปัญหาได้
15-03-2012, 18:29
ตามราคาอ่ะครับ
15-03-2012, 19:45
ขอบคุณมากครับน้า gman Katayoot Nisorn kongpatom ที่มาให้ความรู้นะครับ