NimitGuitar webboard

Full Version: อยากเริ่มเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
พอมีพื้นฐานกีต้าร์โปร่งครับ อยากหาสิ่งใหม่ๆบ้าง ไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงดี

อยากเล่นแนวแบบ rock อย่างเช่น bodyslam , big ass ครับ
ผมก็เหมือนกันครับ
จริงๆแล้วอยากจะบอกว่าไปหาที่เรียนอย่างถูกต้องจะดีกว่าน่ะครับ (พวกพื้นฐานทฤษฎีโน้ต สเกลทั้งหลาย)
เพราะพื้นฐานเหล่านี้ หากเปรียบกับการเรียนภาษาอังกฤษ ก็เหมือนกับเราได้เรียนไวยกรณ์อย่างถูกต้องน่ะครับ
มีโครงสร้างที่ถูกต้อง รู้คำศัพท์ที่ถูกต้อง มันจะนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการสนทนาในทุกสถานการณ์

แต่ถ้าอยากเรียนทางลัดอย่างเช่นซื้อ TAB มาหัด แล้วใช้วิธีำตะบี้ตะบันจำเอาว่าเพลงนี้มีโน้ตอะไรบ้าง พอจำได้ก็เล่นซ้ำไปมาจนคล่อง
มันก็จะเหมือนกับเราท่องบทความภาษาอังกฤษไปพูดหน้าชั้นน่ะครับ พูดได้คล่อง แต่แทบไม่รู้ความหมาย
หากเกิดการพูดผิดพลาดที่ท่อนใดท่อนหนึ่ง ท่อนต่อๆมาจะเสียขบวน พูดผิดไปหมดทั้งบทความครับ

เช่น เราท่องแทบเป็นแทบตายเพื่อไปพูดหน้าชั้นเรียนว่า

My name is dear. I live in Nontaburi. My father's name is Mana. My mother's name is Wan.
My favorite guitarist is SRV, Eric Clapton, Mark Knofler........bla bla....

ถ้าเราไม่กดดัน ไม่ตื่นเต้น เราก็พูดตามที่เราท่องไว้ได้สบายครับ
แต่ถ้าตื่นเต้น แล้วดันเผลอพูดสลับท่อนกัน เช่น

My name is dear. My father's name is Mana. My mother's name is Wan. (ผิดจากที่ท่องมาที่ข้างต้นนะครับ)

เท่านั้นล่ะครับ ความซวยมาเยือน เราอาจจะลืมไปเลยว่าเราบ้านอยู่ไหน (I live in Nontaburi)
และเมื่อกังวลไปประโยคนึง ที่เหลืออาจจะลืมไปหมดเลยก็ได้ หัวขาวโพลนครับ
พูดผิด พูดถูก จนถึงขนาดพูดไม่จบ หรือ "ล่ม" ในภาษานักดนตรีนั่นเองครับ

แต่ถ้าเราแตกฉานรู้ทฤษฏี รู้ไวยกรณ์ เราจะพูดได้ทุกสถานการณ์

ในกรณีนี้เราก็แค่เติมท้ายประโยคที่เราพูดลำดับผิดได้ว่า

My name is dear. My father's name is Mana. My mother's name is Wan. We live in Nontaburi.

เท่านี้ก็ได้เนื้อความครบถ้วนตามที่ท่องมาครับ


พิมพ์มายืดยาวที่อยากจะบอกคือ การเล่นกีต้าไฟฟ้าก็เหมือนกันครับ

ผมอาจจะแนะนำให้หัดทางลัด (ซึ่งผมเองก็ทำอยู่) นั่นคือหา TAB เพลงนั้นๆ มาหัด
(เปรียบเหมือนกับอาจารย์สั่งให้เราพูดหน้าชั้นเรียนเรื่องอะไร เราก็ท่องเรื่องนั้นๆ เรื่องเดียว)
เมื่อหัดสำเร็จ เราสามารถเล่นได้เหมือนเป๊ะก็จริง...แต่เราจะเล่นได้แต่ "เพลงนั้นๆ" ครับ
เล่นเพลงอื่นไม่ได้เลย (ซึ่งก็คือ พูดได้แต่เรื่องนั้นๆ ที่ท่องไว้แต่ไปคุยภาษาอังกฤษกับคนอื่นไม่ได้เลยเพราะไม่ได้ท่องมาครับ)

ในขณะที่หากคุณเรียนพื้นฐานทฤษฎีโน้ต สเกล อย่างถูกต้อง คุณจะประยุกต์ใช้ได้กับทุกเพลง
ถึงจะเล่นผิดท่อน ลืมไอ้ที่จำมา แต่คุณจะเอาตัวรอดได้ ด้วยทฤษฎีที่เรียนมา
สื่อสารได้ มั่วได้ ลำดับอาจจะผิด แต่ได้เนื้อหาครบถ้วน

และที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบัน "แกะ" และ "จำ" เพลงทุกเพลง
เพราะท่อน Solo หรือ ท่อน Lead ทั้งหลายนั้นก็มาจากทฤษฎีหรือสเกลนั่นเอง
เพียงแต่ศิลปินแต่ละคน เปลี่ยนสเกลนั้นๆด้วยการ เรียงลำดับโน๊ต ใส่น้ำหนัก ใส่สำเนียง ให้เป็นดนตรีของตัวเองครับ
ซึ่งก็คือหมายความว่า หากรู้พื้นฐานแน่นๆ เล่นสเกลได้คล่อง ก็ไม่ต้องจำ ไม่ต้องแกะโน้ตอะไรมากมายครับ มันจะคุ้นๆ อยู่ที่หูอยู่ที่มืออยู่แล้วเพราะเราเคยเรียน
ที่เหลือก็แ่ค่แกะสำเนียงของเพลงที่เราอยากเล่นก็พอ

ทำนองนี้ครับ

แต่การเรียนตั้งแต่พื้นฐาน ก็เข้าใจครับว่าเห็นผลช้า น่าเบื่อ (แต่ดีในระยะยาว)
ในขณะที่หัดเป็นเพลงๆ เห็นผลเร็ว หัดแล้วเล่นเพลงนั้นได้เลย (แต่ในระยะยาว อยากเ่ล่นเพลงไหนต้องแกะ ต้องจำ อย่า่งหนัก ก็ลำบากเหมือนกันครับ)

แต่ืั้ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอออกตัวกันหน้าแตกว่า...
ศิลปินระดับมหาเทพที่ไม่รู้โน้ต ไม่รู้ทฤษฎี ไม่รู้สเกลก็มีอยู่มากมายครับ
แต่เค้าก็ต้องเล่นอย่างหนักจนทฤษฎีเข้าไปอยู่ในตัวนั่นล่ะครับ เพียงแต่เค้าไม่รู้ตัวเท่านั้นแหละว่าเค้าเองก็รู้ทฤษฎี

เหมือนผมที่ตอนเด็กไม่เคยเรียนภาษาไทยแต่ก็พูดได้
แต่ถึงเวลาต้องสอบภาษาไทยก็สอบตกอ่ะครับ

ต้องการแบบไหนต้องเลือกเองล่ะครับ จะหัดเป็นเพลงๆ หรือเรียนตั้งแต่เริ่มต้น

ผมเอง ซื้อ DVD มาหัด (เรียนทางลัดนั่นเองครับ)
มีอยู่ 4 เพลง ผ่านไป 8 เดือน ยังเล่นได้ไม่สมบูรณ์ซักเพลงเลยครับ
ยากโคตรครับ

โชคดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่โลกกีต้าไฟฟ้าด้วยครับ
ผมน่าจะได้อ่านกระทู้นี้ตั้งแต่ตอนเริ่มเล่นกีต้าร์นะครับ

น้าเดียร์ อธิบายได้กระจ่างมากครับ

ผมก็พึ่งมาเล่นเหมือนกัน ใช้วธีเดียวกันกับน้าเค้าเลยครับ

แล้วสุดท้าย เราจะได้เรื่องการอ่านแทป การเล่นลูกเล่น เช่นการดันสาย แฮมเมอร์ออน พูลออฟ ฯลฯ

ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพอสมควร และถ่าจะเล่นแนวร็อคจริงๆ ไม่แนะนำให้เล่นบอดี้แสลมก่อนครับ พี่ยอดแกเล่นโซโล่ยากมาก ควรลองเล่นเพลงง่ายๆ เพาร์เวอร์คอร์ดวนไปวนมา โซโล่ง่ายๆ พวกNirvana Greenday พวกนี้ครับ ผมเริ่มเล่นกีตาร์ไฟฟ้าจากวงเหล่านี้ครับ


สู้ๆครับ
(07-11-2011, 13:52)dear709 Wrote: [ -> ]ผมก็เหมือนกันครับ
จริงๆแล้วอยากจะบอกว่าไปหาที่เรียนอย่างถูกต้องจะดีกว่าน่ะครับ (พวกพื้นฐานทฤษฎีโน้ต สเกลทั้งหลาย)
เพราะพื้นฐานเหล่านี้ หากเปรียบกับการเรียนภาษาอังกฤษ ก็เหมือนกับเราได้เรียนไวยกรณ์อย่างถูกต้องน่ะครับ
มีโครงสร้างที่ถูกต้อง รู้คำศัพท์ที่ถูกต้อง มันจะนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการสนทนาในทุกสถานการณ์

แต่ถ้าอยากเรียนทางลัดอย่างเช่นซื้อ TAB มาหัด แล้วใช้วิธีำตะบี้ตะบันจำเอาว่าเพลงนี้มีโน้ตอะไรบ้าง พอจำได้ก็เล่นซ้ำไปมาจนคล่อง
มันก็จะเหมือนกับเราท่องบทความภาษาอังกฤษไปพูดหน้าชั้นน่ะครับ พูดได้คล่อง แต่แทบไม่รู้ความหมาย
หากเกิดการพูดผิดพลาดที่ท่อนใดท่อนหนึ่ง ท่อนต่อๆมาจะเสียขบวน พูดผิดไปหมดทั้งบทความครับ

เช่น เราท่องแทบเป็นแทบตายเพื่อไปพูดหน้าชั้นเรียนว่า

My name is dear. I live in Nontaburi. My father's name is Mana. My mother's name is Wan.
My favorite guitarist is SRV, Eric Clapton, Mark Knofler........bla bla....

ถ้าเราไม่กดดัน ไม่ตื่นเต้น เราก็พูดตามที่เราท่องไว้ได้สบายครับ
แต่ถ้าตื่นเต้น แล้วดันเผลอพูดสลับท่อนกัน เช่น

My name is dear. My father's name is Mana. My mother's name is Wan. (ผิดจากที่ท่องมาที่ข้างต้นนะครับ)

เท่านั้นล่ะครับ ความซวยมาเยือน เราอาจจะลืมไปเลยว่าเราบ้านอยู่ไหน (I live in Nontaburi)
และเมื่อกังวลไปประโยคนึง ที่เหลืออาจจะลืมไปหมดเลยก็ได้ หัวขาวโพลนครับ
พูดผิด พูดถูก จนถึงขนาดพูดไม่จบ หรือ "ล่ม" ในภาษานักดนตรีนั่นเองครับ

แต่ถ้าเราแตกฉานรู้ทฤษฏี รู้ไวยกรณ์ เราจะพูดได้ทุกสถานการณ์

ในกรณีนี้เราก็แค่เติมท้ายประโยคที่เราพูดลำดับผิดได้ว่า

My name is dear. My father's name is Mana. My mother's name is Wan. We live in Nontaburi.

เท่านี้ก็ได้เนื้อความครบถ้วนตามที่ท่องมาครับ


พิมพ์มายืดยาวที่อยากจะบอกคือ การเล่นกีต้าไฟฟ้าก็เหมือนกันครับ

ผมอาจจะแนะนำให้หัดทางลัด (ซึ่งผมเองก็ทำอยู่) นั่นคือหา TAB เพลงนั้นๆ มาหัด
(เปรียบเหมือนกับอาจารย์สั่งให้เราพูดหน้าชั้นเรียนเรื่องอะไร เราก็ท่องเรื่องนั้นๆ เรื่องเดียว)
เมื่อหัดสำเร็จ เราสามารถเล่นได้เหมือนเป๊ะก็จริง...แต่เราจะเล่นได้แต่ "เพลงนั้นๆ" ครับ
เล่นเพลงอื่นไม่ได้เลย (ซึ่งก็คือ พูดได้แต่เรื่องนั้นๆ ที่ท่องไว้แต่ไปคุยภาษาอังกฤษกับคนอื่นไม่ได้เลยเพราะไม่ได้ท่องมาครับ)

ในขณะที่หากคุณเรียนพื้นฐานทฤษฎีโน้ต สเกล อย่างถูกต้อง คุณจะประยุกต์ใช้ได้กับทุกเพลง
ถึงจะเล่นผิดท่อน ลืมไอ้ที่จำมา แต่คุณจะเอาตัวรอดได้ ด้วยทฤษฎีที่เรียนมา
สื่อสารได้ มั่วได้ ลำดับอาจจะผิด แต่ได้เนื้อหาครบถ้วน

และที่สำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องตะบี้ตะบัน "แกะ" และ "จำ" เพลงทุกเพลง
เพราะท่อน Solo หรือ ท่อน Lead ทั้งหลายนั้นก็มาจากทฤษฎีหรือสเกลนั่นเอง
เพียงแต่ศิลปินแต่ละคน เปลี่ยนสเกลนั้นๆด้วยการ เรียงลำดับโน๊ต ใส่น้ำหนัก ใส่สำเนียง ให้เป็นดนตรีของตัวเองครับ
ซึ่งก็คือหมายความว่า หากรู้พื้นฐานแน่นๆ เล่นสเกลได้คล่อง ก็ไม่ต้องจำ ไม่ต้องแกะโน้ตอะไรมากมายครับ มันจะคุ้นๆ อยู่ที่หูอยู่ที่มืออยู่แล้วเพราะเราเคยเรียน
ที่เหลือก็แ่ค่แกะสำเนียงของเพลงที่เราอยากเล่นก็พอ

ทำนองนี้ครับ

แต่การเรียนตั้งแต่พื้นฐาน ก็เข้าใจครับว่าเห็นผลช้า น่าเบื่อ (แต่ดีในระยะยาว)
ในขณะที่หัดเป็นเพลงๆ เห็นผลเร็ว หัดแล้วเล่นเพลงนั้นได้เลย (แต่ในระยะยาว อยากเ่ล่นเพลงไหนต้องแกะ ต้องจำ อย่า่งหนัก ก็ลำบากเหมือนกันครับ)

แต่ืั้ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอออกตัวกันหน้าแตกว่า...
ศิลปินระดับมหาเทพที่ไม่รู้โน้ต ไม่รู้ทฤษฎี ไม่รู้สเกลก็มีอยู่มากมายครับ
แต่เค้าก็ต้องเล่นอย่างหนักจนทฤษฎีเข้าไปอยู่ในตัวนั่นล่ะครับ เพียงแต่เค้าไม่รู้ตัวเท่านั้นแหละว่าเค้าเองก็รู้ทฤษฎี

เหมือนผมที่ตอนเด็กไม่เคยเรียนภาษาไทยแต่ก็พูดได้
แต่ถึงเวลาต้องสอบภาษาไทยก็สอบตกอ่ะครับ

ต้องการแบบไหนต้องเลือกเองล่ะครับ จะหัดเป็นเพลงๆ หรือเรียนตั้งแต่เริ่มต้น

ผมเอง ซื้อ DVD มาหัด (เรียนทางลัดนั่นเองครับ)
มีอยู่ 4 เพลง ผ่านไป 8 เดือน ยังเล่นได้ไม่สมบูรณ์ซักเพลงเลยครับ
ยากโคตรครับ

โชคดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่โลกกีต้าไฟฟ้าด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ ผมตัดสินใจไปเรียนเอาพื้นฐานไรงี้ให้แน่นก่อนครับ
และก็หาแทปเพลงที่ชอบมาเล่นควบคู่ไปด้วย

การเรียนทฤษฎี เป็นเรื่องจำเป็นครับ กีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า ก็ต้องเรียนทั้งนั้น จะเรียนไปพร้อมกับเริ่มเล่น หรือ เล่นให้เป็นก่อน ค่อยไปเรียน ก็ได้
และ ทั้งกีตาร์ไฟฟ้า และ กีตาร์โปร่ง ก็มี แทปให้อ่าน
มันถกกันมานานแล้วครับ ว่า อ่าน แทป ดีหรือไม่ สำหรับผม สมัยก่อน มันไม่มี แทป ครับ มีแต่เทป กรอไป กรอมา จนเทปยืด สิงที่เราได้มาโดยม่รู้ตัวคือ Ear Trainig เมื่อก่อนเพลงที่ว่ายากๆ อย่าง Rock Bottom,Highway Star มันฟังออก แกะได้
แต่พอเข้าสู่ยุคของ Van Halen เรื่อยมาจนถึง Yingwie ,Stieve Vai มันฟังไม่ออกครับ ไม่รู้ว่ามันเล่นอะไร เล่นยังไง แทป เกิดขึ้นมาตอนั้นครับ เหมือนเฉลยเกมส์ มันทำให้เราเล่น Far Beyond The Sun ได้ เริ่มมี VDO ประกอบ Tab ด้วย ก็หามาดูมาเล่นกัน

พอมาถึงสมัยนี้ เดี๋ยวนี้ยิ่งง่ายใหญ่ ใน UTube มีคนมาเฉลยให้ดูเลย
แต่ ผมไม่อยากให้ใช้มันมากเกินไป เพราะ เราจะไม่ได้ฝึกหู ลองแกะดูก่อนครับ แกะไม่ได้ ค่อยดูเฉลย ทางนิ้วของเรา ก็เป็นของเราครับ ในแทป มันเป็นทางนิ้วของคนอื่น หลายๆครั้งที่ผมพบว่า เล่นไม่ถนัด และ ถ้าอ่านเฉลยทั้งหมด มันแกะแล้วไม่ภูมิใจ ไม่สนุก

จะเห็นว่า ไม่ว่ากีตาร์โปร่ง หรือ ไฟฟ้า สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการเรียนทฤษฎีคือ แกะเพลงครับ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ของนักดนตรี

ส่วนที่ถามมาเรื่อง อยากเล่นไฟฟ้านั้นในมุมมองของผม กีตาร์ไฟฟ้า ไม่ได้แตกต่างอะไร หรือ แต่กต่างกันน้อยมาก กับกีตาร์โปร่ง ในแง่ของวิธีการเล่น
แต่ในแง่ของอุปกรณ์ มันแตกต่างกัน เพราะ มันต้องมีแอมป์ มี Effect เพื่อทำให้เกิดเสียง ที่แตกต่าง

สมัยก่อน ไม่มีกีตาร์ไฟฟ้าเล่น ก็เอากีตาร์โปร่งนี่แหละครับ แกะ มันไม่เห็นต่างกันเลย