NimitGuitar webboard

ขอส่งแรงใจให้น้าปิ๋วมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคครับ

กรมชลประทานสามเสน ตอนนี้ ปริ่มๆ แล้วครับ จุดนี้ ห่างบ้านพี่กฤษณ์ ไม่กี่ กม. ครับ แต่ ยังมี คลอง ประปา ขวางอยู่ครับ

ขอเอาใจช่วยทุกๆท่านครับ

ดูจากกราฟ จะเห็นว่า ระบบการระบายน้ำและคันกั้นน้ำ ช่วงกรุงเทพ ชั้นใน ทำงานได้ ดีมาก ระดับน้ำนอกคันพนังสูงกว่าระดับน้ำช่วง ถนน พหลโยธิน เป็นเมตรเลย แต่ อย่าไว้ใจครับ

ขอบคุณพี่นริศมากครับสำหรับข้อมูล ต้องเฝ้าระวังกันต่อไปครับ
น่าเห็นใจมากๆครับ ลูกค้าผมในนิคมต่างๆ ไล่มาตั้งแต่สหรัตนนคร โรจนะ บางปะอิน และตอนนี้จ่อนวนครกันแล้วครับ
ขอให้ทุกๆฝ่ายร่วมมือกัน สามัคคีกัน แล้วพวกเราก็จะฝ่าวิกฤตไปได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ สู้ๆ

ได้ข่าวว่านวนครน้ำเข้าไปเรียบร้อยแล้วครับ เศร้า

(16-10-2011, 14:31)karn Wrote: [ -> ]ขอส่งแรงใจให้น้าปิ๋วมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคครับ

ขอบคุณครับน้ากาน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ มีงานเฮฮาทีไรมาไม่ได้สักทีเลย คงมีโอกาสเจอกันนะครับ

พาดหัวข่าวนสพ.เกือบทุกฉบับเมื่อเช้านี้ครับ




ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านนายกเอาอะไรมาพูดแต่ถ้าคิดในแง่ดีก็อาจเป็นใด้ว่าไม่ต้องการให้คน กทม.กักตุนอาหารเพราะตอนนี้กักกันจนเกลี้ยงแล้ว เมื่อวานไปช้อปเห้นแผนกอาหารแห้งและอาหารกระป๋องไม่มีอะไำรเหลือเลยครับ



ท่านนายกฯแถลงข่าวว่าน้ำเหือก้อนใหญ่ไหลลงทะเลไปแล้ว ตอนนี้เขื่อนใหญ่ทางเหนือเริ่มปล่อยน้ำน้อยลงดังนั้นกรุงเทพฯปลอดภัยแน่นอน ลองมาดูเรื่องจริงกันดีกว่าครับ



รูปข้างบนคือความเร็วน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอาจดูไม่รู้เรื่องถ้าไม่เคยดู ผมขออธิบายหลักการคร่าวๆดังนี้ครับ

ความเร็วของน้ำเขาใช้หน่วย ลบม/วินาที ซึ่งวัดจากความเร็วจริงที่มีหน่วยเป็น เมตร/วินาทีแล้วคูณด้วยพื้นที่หน้าตัดของแม่น้ำจึงใด้หน่วยเป็น ลบม./วินาที่ครับ เมื่อเช้านี้ความเร็วน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาลดลงจาก 3700-3800 เมื่อตอนสุดสัปดาเหลือ 3610 m3/sec ซึ่งก็ถูกของท่านนายกครับ

ตามปกตินั้นน้ำมันไม่หายไปไหนถ้าไม่นับการระเหยและการดูดซึมของดินครับ ถ้าดูจากรูปจะเห็นว่าความเร็วน้ำลดลงจาก 3610 เหลือ 2652 m3/sec ที่จังหวัดอ่างทอง ที่น้ำมันหายไปก็เพราะมันล้นไปท่วมทุ่งครับ ในรูปจะเห็นใด้ว่าระดับน้ำ (เส้นสีน้ำเงินประ) มันสูงกว่าระดับคันกั้นน้ำมาตลอดทางและอ่างทองกับสิงห์บุรีกำลังรับน้ำไปเต็มๆตอนนี้

คราวนี้ลองดูสถานการณ์จากอ่างทองถึง กทม. ครับ



พอน้ำมาถึงอยุธยาความเร็วก็ลดจาก 3652 เหลือแค่ 1479 m3/sec ซึ่งหมายความว่าสองข้างแม่น้ำนั้นท่วมเละเทะแน่นอนแต่ความเร็วน้ำจิบจ้อยแค่นี้ กทม.รับมือใด้สบายครับ

ระหว่างอยุธยาถึงบางไทรนั้นน้ำท่วมแบบเต็มๆอยู่แล้ว ถ้าดูตัวเลขความเร็วน้ำที่บางไทรนั้นกระโดดขึ้นมาจาก 1479 เป็น m3/sec เป็น 3783 m3/sec ช่วงนี้มีน้ำไหลมาสมทบจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำแควน้อย = 628 m3/sec แต่ความเร้วน้ำที่บางไทรกลับเพิ่มขึ้นกว่า 2500 m3/sec น้ำจำนวนมหาศาลนี้ก็คือ overland water ที่ท่วมขังอยู่ที่อยุธยามันไหลย้อนมาลงแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ซึ่งน่าเป็นห่วงมากเพราะมันก็คือน้ำเหนือก้อนแรกที่ยังไม่ใด้ไหลลงทะเลนั้นแหละ




จากรูปข้างบนจะเห็นใด้ว่าจากบางไทรถึงกรุงเทพฯนั้นเราไม่มีคลองผันน้ำขนาดใหญ่เลย ดังนั้นน้าจากบางไทรนี่ปทุมธานีรับไปก่อนเต็มๆ จากนั้นก็เป็นนนทบุรีและกรุงเทพฯครับ ตอนนี้น้าที่ปทุมอยู่ที่ระดับเหนือเขื่อนแล้ว ส่วนที่ปากเกร็ดนั้นเมื่อกี้ขึ้นมาเกือบถึงสันคันกั้นน้ำแล้วครับ




ตอนนี้แถวแจ้งวัฒนะฝนตกเมื่อไหร่ก้ท่วมเมื่อนั้นครับเพราะระบายออกแม่น้ำไม่ใด้



นับเป็นเรื่องแปลกครับที่พอเราใด้นายกฯคนแรกมีมีชื้อเป็นสัตว์น้ำ น้าก็ท่วมใหญ่เลย

ขอเสริมเรื่องปริมาณน้ำ กับ ความเร็วน้ำ ครับ

ความเร็วน้ำ ในทางชลศาสตร์ เราจะพูดกันเป็น 1 หน่วย ต่อ เวลา นั่น คือ ม. ต่อ วินาที

ส่วนปริมาณน้ำ จะพูดเป็น ลูกบาศก์เมตรต่อ วินาที หรือ ม.3/วินาที หรือ ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที นั่นเอง

สูตรที่ใช้หาปริมาณน้ำ Q = A x V
เมื่อ V คือ ความเร็ว หน่วยเป็น ม./วินาที
A คือ พื้นที่หน้าตัดของลำน้ำ หน่วย ม.2

ตามหลักแล้ว ปริมาณน้ำมาเท่าไร ไปเท่านั้น ครับ ถ้าไม่มีการระเหย รั่วซึมหรือใครสูบไปใช้ แต่ ความเร็ว จะเพิ่มหรือลดลงได้ตามหน้าตัดของลำน้ำครับ

ทีนี่ที่บอก ว่า ความเร็วลดลงนั้น จริงแล้ว ปริมาณก้อนน้ำ มันยังคงอยู่ แต่ ไหลบ่าไปตามทุ่งต่างๆ ทั้งนครสวรรค์ ลพบุรี ไปจนถึง อยุธยา นั่นหมายถึงว่า น้ำเหนือยังไม่ได้ไหลไปไหน มันบ่าเท้อในทุ่ง และ ปีนี้ น้ำจะ ท่วมนาน แน่ๆ ครับ

I received an email from friend and am wondering if there is any truth about it?

First I was reluctant to post it here because it seems to contain some "Political matter". But if it's true then we should know about it.

I'll leave it to Nimit the Webmaster to decide to leave it here or delete it at his discretion (it's OK with me either way)

"สอบมาเรียบร้อยแล้วครับ สุพรรณไม่ใช่ที่บรรหารครับ
แต่เป็นที่ทักษิณกับนายอัล ฟา แยต บิดา นายโด ดี้ อัลฟาแยต เข้ามาซื้อเมื่อหลายปีก่อน
และปลูกข้าวหอมมะลิ. ถ้าปล่อยท่วม ข้าว ที่กะว่าจะมีขายคนเดียว นั้นจะจมหมด

เถียงมาได้ว่าไม่ใช่นะครับ

ทีวีทุกช่อง สรยุทธ ก็ไม่กล้าไปทำข่าวสุพรรณ นายจอม เพชรประดับ ก็ไม่กล้าพูด ข่าวทุกช่อง ไม่มีใครกล้าแสดงความจริงต่อประชาชน

ถ้าระบายน้ำผ่านสุพรรณลงท่าจีน ออกอ่าวไทย
อีกสาย. จะท่วมไม่นาน แค่น้ำผ่านไม่กี่วัน"