NimitGuitar webboard

Full Version: กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ...
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3
SARUN Wrote:Show ลักษณะแบบพี่ลิ้นจี่ นี้ ก็เคยเห็น
พี่จิมมี่ เฮน
พี่สตีวี่ เรย์
พี่อิงวี่ มัม
ยังมีใครอีกไม๊เนี่ย?


มีครับ แต่ศิลปินคนนี้เสียชีวิตไปแล้ว

ก็ คือ Krut Cobain ราชาเพลงกรั้นท์แห่งยุคปี 90 มือกีต้าร์และนักร้องนำของวง Nirvana ครับ....
แหม....ทำไปได้
การทำลายกีต้าร์และแอมป์ทิ้งตอนจบ concert เป็นวัฒนธรรมของยุค 60's ครับ
ในยุคนั้นพวกศิลปินแนว hard rock ส่วนใหญ่จะเมายากระตุ้นประสาทพวก LSD,
PCP, Reds, พอจบ concert ไม่อยากเล่น encore ก็เลยทุบกีต้าร์ทิ้ง

ผมไม่ทราบว่าใครทำเป็นคนแรกแต่น่าจะเป็น Jini Hendrix วงที่โด่งดังขึ้นมาเพราะการทำลายกีต้าร์
หลังจบ concert ทุกครั้งคือ The Who ครับ ตา Pete นี่จนเดี๋ยวนี้ก็ยังทำอยู่ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=6e8mdm7JKcQ

ผมเคยไปดูหนังคอนเสิร์ตของ The Who แถววังบูรพาตอนอยู่มัธยมพอดูจบน้ำตาใหลเพราะเสียดายกีต้าร์
เลยครับ สมัยนั้น Strat ตัวละเจ็ดพันบาท ข้าราชการชั้นตรีเงินเดือนแค่เก้าร้อยบาท

โปรดสังเกตุว่ากีต้าร์ที่โดนทุบส่วนใหญ่เป็น Fender Strat นะครับ คงเป็นเพราะว่ามันเปลี่ยนคอใด้ง่ายฯมั้ง

ส่วนกีต้าร์โปร่งไม่เตยเห็นใครทุบนะครับ ถ้าใครจะทุบกีต้าร์เพราอยากดังก็เชิญตามสบายครับแต่อย่าไปทุบแอมป์เพราะอาจเจอแบบนี้

http://www.youtube.com/watch?v=5uw_6IyPg...re=related
ริชชี่ บ้าหม้อ แต่ก่อนผมชอบมากครับ

ยิ่งยุคหลังๆที่เปลี่ยนมาเป็น acoustic ใช้ชื่อว่า Blackmore's Night Smile
เป็นยังงัยครับน้าปุ๊ที่ว่า "บ้าหม้อ"
วัยรุ่นงงครับ
pood Wrote:ผมเคยไปดูหนังคอนเสิร์ตของ The Who แถววังบูรพาตอนอยู่มัธยมพอดูจบน้ำตาใหลเพราะเสียดายกีต้าร์
เลยครับ

Pete Towshend ทำลายกีต้าร์ของตัวเองบนเวทีคอนเสิร์ตด้วยการฟาดมันลงบนแอมป์มาแชล
..คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเกิดขึ้นในสมัยนี้ แต่ความรู้สึกของคนเมื่อยี่สิบปีที่แล้วล่ะ..เหตุการณ์นี้คงเต็มไปด้วยความแตกตื่น งุนงง สงสัย ถึงเหตุผลของการทำ?

ผมค้นมาได้แล้วครับ?..


Auto Desrtuctive Art เป็นทฤษฎีทางศิลปะแขนงดนตรี ที่โด่งดังทฤษฎีหนึ่ง(แปลกประหลาดทางศิลปะ ) ถูกเผยแพร่และคิดค้นโดย Gustav Metzger ในปี 1960 หลักการของ Auto Desrtuctive Art คือการสร้างสิ่งหนึ่ง ด้วยการทำลายอีกสิ่งหนึ่งลงไป เช่น จิตรกร เพ้นท์สีน้ำมันลงบนเฟรม เป็นการสร้างภาพเขียน แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นการทำลายความว่างเปล่าของเฟรมผ้าผืนนั้น
ขึ้นอยู่กับตัวคุณว่าจะเลือกมองด้านไหนของมัน

และนักเรียนในการบรรยายครั้งแรกของเขาก็มีลูกศิษย์อย่าง Pete Towshend มาร่วมฟังการบรรยายด้วย

Auto Desrtuctive Art
ประกอบด้วย 3 สิ่ง คือ
Noise (เสียงรบกวน) ,
Non-Musical sound (เสียงที่ไม่ใช่เสียงดนตรี)
Silent(ความเงียบ)

การที่ Pete ฟาดกีต้าร์ลงบนแอมป์ซึ่งทำให้เกิดเสียงโหยหวน หลายคนคงคิดว่าเขากำลังสร้างเสียงรบกวน
แต่แท้ที่จริง ตามทฤษฎีนี้ มันเป็นการ สร้าง Non-Musical sound และ ทำลาย Silent ลงไป

หากนักดนตรีบนเวที ปล่อยให้ผู้ชมนั่งฟังความว่างเปล่า นั่นคือ เขากำลังสร้าง Silent และทำลาย Noise ลงไป
Maow Wrote:เป็นยังงัยครับน้าปุ๊ที่ว่า "บ้าหม้อ"
วัยรุ่นงงครับ

นักดนตรี rock รุ่นเก๋าเค้าเรียกกันเล่นๆครับน้าหม่าว Big Grin

Blackmore = แบล็คมอร์ = บ้าหม้อ
Maow Wrote:เป็นยังงัยครับน้าปุ๊ที่ว่า "บ้าหม้อ"
วัยรุ่นงงครับ

อุอุ หมายถึง"บ้านหม้อ" อะป่าว
ตอนสุดท้ายข้างหลังคงบอกว่า กีต้าร์หมดแล้ว เลยต้องเอาตัวสุดท้ายที่พังไปแล้วมาพยามเล่นตั้งสายใหม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ อิอิ โส-น้า-หน้า Tongue
แกสั่ง บาราคูด้าไปจากเมืองไทยครับ อิอิ
แต่ยังไงก็ไม่ควรทำที่เมืองไทยมีแต่โยนกีต้าร์ให้คนดูครับในคอนเสริส ร๊อคอำพัน น้าพิสุทธ์แกโยนตอนนั้นผมยังเล่นกีต้าร์ไม่เป็นเลย
Pages: 1 2 3