24-09-2011, 11:16
หลังจากใด้ไปงานชุมนุม Gibson "J" และดูคลิปอยู่เป็นชั่วโมง ผมก็เลยอยากถามความเห็นของน้าๆว่ามีคิดอย่างไรกับเรื่องต่อไปนี้ครับ
1. เสียงกีต้าร์กับราคาของมันเกี่ยวกันไหม
ในวีนนั้นมี Gibson J ตั้งแต่ราคาไม่ถึงครึ่งแสนจนถึงราคาเกินครึ่งล้าน น้าๆมีความประทับใจกับเสียงของตัวไหนบ้างครับ?
ผมเองโดนหลอนอยู่สองตัวคือ J-45 Zebrawood และ SJ-200 Prewar Western Brazilian แต่ผมไม่ใด้ลองเสียงทุกตัวนะครับ
2. เล่นกีต้าร์ใหม่เอี่ยมราคาแพงระยับของคนอื่นแล้วเกร็ง
วันนั้นมีน้าๆหลายท่านที่ขึ้นไปเล่นบนเวที (ผมไม่ใด้เล่น) ผมอยากทราบว่าเวลาขึ้นไปเล่นโดยใช้กีต้าร์สะสมสภาพไร้ริ้วรอยนี่เกร็งกว่าเวลาเล่นกีต้าร์ตัวเองหรือเปล่าครับ
3. กีต้าร์ยิ่งแพงเสียงออกแอมป์ยิ่งห่วย
วันนั้นผมสังเกตุว่าน้าสามเล็กต้องวิ่งไปปรับเสียง mixer เกือบทุกเพลงตอนที่คนเล่นใช้กีต้าร์สะสมราคาแพง กีต้าร์พวกนี้เสียงเปล่านั้นสุดยอดครับแวลาออกแอมป์แล้วเสียงบวมเกือบทุกตัว หรือว่าเป็นเพราะ LR Baggs Element ที่ติดมาจากโรงงานมันไม่เหมาะกับการเล่น on stage เทาไหร่ ผมว่า Element เล่นเบาๆในห้องเสียงดีมากครับแต่ถ้าปรับ gain เกินครึ่งเสียงบวมทันที (Gibson ของผมตัวที่ใส่ Element มาผมถอดทิ้งแล้วใส่ Fishman แทนครับ)
เรื่อง "เสียงห่วย" นี่ผมหมายความถึงกีต้าร์แพงที่เสียงเบสกระแทกพุงนั้นแม้แต่ฝรั่งเขาก็ไม่เอาไปใช้อัดเสียงใน studio กันเพราะมันปรับ balance ยากมากครับ เรื่องนี้ผมเคยอ่านมาแต่เพิ่งเจอประสพการณ์จริงหนแรกครับ
ถ้าอยากทราบว่าผมหมายถึงอะไรก็ลองกลับไปฟังคลิปในกระทู้ชุมนุม Gibson ใด้ครับว่าเห็นด้วยกับผมหรือเปล่า ผมขอเอาตัวอย่างมาหนึ่งคลิปที่ผมแน่ใจว่าคนเล่นไม่เกร็งแน่นอนเพราะคุณ Pong 555 ตบ J-200 Custom Vine ไปห้าทีตอน intro
Pong 555 and Benz ?one Note Samba?
5. " THE TONE IS IN THE FINGERS"
ประโยคฝรั่งประโยคนี้น่าจะหมายความว่าเสียงของกีต้าร์นั้นขึ้นอยู่กับคนเล่นเพราะแต่ละคนน้ำหนักมือไม่เท่ากัน สไตล์การเล่นไม่เหมือนกัน คนที่เล่น fingerstyle ดีๆนั้นน้ำหนักนิ้วมือซ้ายจะนิ่งมากเพื่อดึง sustain ให้ยาวแต่น้ำหนักมือขวาจะไม่กระแทกกระทั้น ขฌะที่คนที่เล่น Blues นั้นจะปล่อยนิ้วมือซ้ายเร็วตอนสับคอร์ดเพราะต้องการ purcussive sound และนิ้วมือขวาจะตบแรงมากเพราะต้องการรีด dynamic ของกีต้าร์ออกมาใช้ให้หมด
เมื่อก่อนนั้นผมก็ไม่เข้าใจถ่องแท้ว่าประโยคนี้เขาหมายถึงอะไรแต่บังเอิญในวันงานมีน้า Benz ที่มีคำล่ำลือว่าเป็นมือ Blues ระดับเทพมาร่วมงาน ในตอนแรกๆที่น้า Benz ขึ้นไปเล่นเพลงแจ้สและเพลงไทยนั้นผมก็ฟังออกว่าเล่นเก่งแต่ดูเกร็งๆเวลาเล่นกีต้าร์ตัวละเป็นแสนของคนอื่น
พอมาถึงตอนที่เราเชิญน้า Benz ให้ขึ้นไปเล่น Blues น้าสามเล็กก็เลยมาขอ Gibson J-50 ของผมที่น่าจะอายุมากกว่าคนเล่นและสภาพเป็นกีต้าร์ "beater" ที่คนเล่นกระแทกใด้โดยไม่ต้องเกร็ง (ตัวนี้ซื้อมาตอนนั้นราคาไม่ถึงห้าหมื่นบาท) J-50 ตัวนี้ติด Fishman Rare Earth รุ่นโบราณที่เสียงบางกว่ารุ่นใหม่เยอะอีกต่างหาก
พอใด้ยินน้า Benz ร้องและเล่นคืนนั้นผมอยากจะยกกีต้าร์ให้เลยครับ
น้าสามเล็กเองก็คงงงเหมือนกันเพราะวิ่งมาบอกผมว่าปรับ mixer ไว้ flat หมดโดยไม่ต้องแก้อะไรเลย พอมาถึงคิวน้าสามเล็กเล่นก็เลยไม่ยอมใช้ตัวอื่นเหมือนกัน ผมเอิก็ทึ่งว่าเวลาเอามาเล่นแบบ easy listening เสียงมันกลับออกมาเหมือนเป็นกีต้าร์คนละตัวเลยครับ
น้าๆมีความเห็นอย่างไรครับ ถ้าใครมีข้อคิดอื่นๆก็เสนอมาเลยครับ
1. เสียงกีต้าร์กับราคาของมันเกี่ยวกันไหม
ในวีนนั้นมี Gibson J ตั้งแต่ราคาไม่ถึงครึ่งแสนจนถึงราคาเกินครึ่งล้าน น้าๆมีความประทับใจกับเสียงของตัวไหนบ้างครับ?
ผมเองโดนหลอนอยู่สองตัวคือ J-45 Zebrawood และ SJ-200 Prewar Western Brazilian แต่ผมไม่ใด้ลองเสียงทุกตัวนะครับ
2. เล่นกีต้าร์ใหม่เอี่ยมราคาแพงระยับของคนอื่นแล้วเกร็ง
วันนั้นมีน้าๆหลายท่านที่ขึ้นไปเล่นบนเวที (ผมไม่ใด้เล่น) ผมอยากทราบว่าเวลาขึ้นไปเล่นโดยใช้กีต้าร์สะสมสภาพไร้ริ้วรอยนี่เกร็งกว่าเวลาเล่นกีต้าร์ตัวเองหรือเปล่าครับ
3. กีต้าร์ยิ่งแพงเสียงออกแอมป์ยิ่งห่วย
วันนั้นผมสังเกตุว่าน้าสามเล็กต้องวิ่งไปปรับเสียง mixer เกือบทุกเพลงตอนที่คนเล่นใช้กีต้าร์สะสมราคาแพง กีต้าร์พวกนี้เสียงเปล่านั้นสุดยอดครับแวลาออกแอมป์แล้วเสียงบวมเกือบทุกตัว หรือว่าเป็นเพราะ LR Baggs Element ที่ติดมาจากโรงงานมันไม่เหมาะกับการเล่น on stage เทาไหร่ ผมว่า Element เล่นเบาๆในห้องเสียงดีมากครับแต่ถ้าปรับ gain เกินครึ่งเสียงบวมทันที (Gibson ของผมตัวที่ใส่ Element มาผมถอดทิ้งแล้วใส่ Fishman แทนครับ)
เรื่อง "เสียงห่วย" นี่ผมหมายความถึงกีต้าร์แพงที่เสียงเบสกระแทกพุงนั้นแม้แต่ฝรั่งเขาก็ไม่เอาไปใช้อัดเสียงใน studio กันเพราะมันปรับ balance ยากมากครับ เรื่องนี้ผมเคยอ่านมาแต่เพิ่งเจอประสพการณ์จริงหนแรกครับ
ถ้าอยากทราบว่าผมหมายถึงอะไรก็ลองกลับไปฟังคลิปในกระทู้ชุมนุม Gibson ใด้ครับว่าเห็นด้วยกับผมหรือเปล่า ผมขอเอาตัวอย่างมาหนึ่งคลิปที่ผมแน่ใจว่าคนเล่นไม่เกร็งแน่นอนเพราะคุณ Pong 555 ตบ J-200 Custom Vine ไปห้าทีตอน intro
Pong 555 and Benz ?one Note Samba?
5. " THE TONE IS IN THE FINGERS"
ประโยคฝรั่งประโยคนี้น่าจะหมายความว่าเสียงของกีต้าร์นั้นขึ้นอยู่กับคนเล่นเพราะแต่ละคนน้ำหนักมือไม่เท่ากัน สไตล์การเล่นไม่เหมือนกัน คนที่เล่น fingerstyle ดีๆนั้นน้ำหนักนิ้วมือซ้ายจะนิ่งมากเพื่อดึง sustain ให้ยาวแต่น้ำหนักมือขวาจะไม่กระแทกกระทั้น ขฌะที่คนที่เล่น Blues นั้นจะปล่อยนิ้วมือซ้ายเร็วตอนสับคอร์ดเพราะต้องการ purcussive sound และนิ้วมือขวาจะตบแรงมากเพราะต้องการรีด dynamic ของกีต้าร์ออกมาใช้ให้หมด
เมื่อก่อนนั้นผมก็ไม่เข้าใจถ่องแท้ว่าประโยคนี้เขาหมายถึงอะไรแต่บังเอิญในวันงานมีน้า Benz ที่มีคำล่ำลือว่าเป็นมือ Blues ระดับเทพมาร่วมงาน ในตอนแรกๆที่น้า Benz ขึ้นไปเล่นเพลงแจ้สและเพลงไทยนั้นผมก็ฟังออกว่าเล่นเก่งแต่ดูเกร็งๆเวลาเล่นกีต้าร์ตัวละเป็นแสนของคนอื่น
พอมาถึงตอนที่เราเชิญน้า Benz ให้ขึ้นไปเล่น Blues น้าสามเล็กก็เลยมาขอ Gibson J-50 ของผมที่น่าจะอายุมากกว่าคนเล่นและสภาพเป็นกีต้าร์ "beater" ที่คนเล่นกระแทกใด้โดยไม่ต้องเกร็ง (ตัวนี้ซื้อมาตอนนั้นราคาไม่ถึงห้าหมื่นบาท) J-50 ตัวนี้ติด Fishman Rare Earth รุ่นโบราณที่เสียงบางกว่ารุ่นใหม่เยอะอีกต่างหาก
พอใด้ยินน้า Benz ร้องและเล่นคืนนั้นผมอยากจะยกกีต้าร์ให้เลยครับ
น้าสามเล็กเองก็คงงงเหมือนกันเพราะวิ่งมาบอกผมว่าปรับ mixer ไว้ flat หมดโดยไม่ต้องแก้อะไรเลย พอมาถึงคิวน้าสามเล็กเล่นก็เลยไม่ยอมใช้ตัวอื่นเหมือนกัน ผมเอิก็ทึ่งว่าเวลาเอามาเล่นแบบ easy listening เสียงมันกลับออกมาเหมือนเป็นกีต้าร์คนละตัวเลยครับ
น้าๆมีความเห็นอย่างไรครับ ถ้าใครมีข้อคิดอื่นๆก็เสนอมาเลยครับ