NimitGuitar webboard

Full Version: ถามหลายเรื่องค่ะ
You're currently viewing a stripped down version of our content. View the full version with proper formatting.
Pages: 1 2 3 4
pood Wrote:เห็นด้วยกับน้าตู่ครับสำหรับคนที่ไม่ใด้เล่นแนวคลาสสิคเพราะศิลปินมากมาย
ก็อ่านโน้ตไม่เป็นอาทิเช่น

The Beatles, The Rolling Stones, Joe Pass, Ray Charles, Stevie Wonder, Jose Filiciano

ครับน้า .... โดนเฉพาะRay Charles, Stevie Wonder, Jose Filiciano
อุอุ เพราะ ตาบอดดด แต่เจ๋งมากๆ ครับ
ผมดูลุง tommy เล่นแล้วบางคนว่าแกมั่วแต่ผมดูยังไงแกก็ไม่มั่วตรงกันข้ามแกเข้าใจอย่างถ่องแท้ทีเดียวถึงเล่นออกมาแบบนั้น
The Beatles อ่านโน๊ตไม่เป็นแต่อย่างเทพครับ ผมเอาขึ้นหิ้งบูชาไปแล้ว อิอิ
ผมได้คุยกับนักคนตรี classic มาบ้างครับ และเห็นแนวทางในการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งน้องจ๋าได้ศึกษาและร่ำเรียนมาเพื่อให้เป็นนักดนตรี classic อย่างเต็มตัว และเต็มภาคภูมิ

ซึ่งค่อนข้างแตกต่างมากๆกับนักดนตรีที่เล่นอีกรูปแบบหนึ่ง จะเรียกว่า ลุยสวน, improvisation หรือ buskin (นักดนตรีที่เล่นเปิดหมวกในที่สาธารณะ) หรืออื่นๆก็แล้วแต่ครับ

พอดีผมได้สัมผัสมาบ้างทั้ง 2 รูปแบบแม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่รับรู้ว่ามันต่างกันจริงๆ นักดนตรี classic จะมีพื้นฐานดนตรีที่แน่นปึ๊ก รอบรู้ทั้งทฤษฎีและโครงสร้างดนตรี ตลอดจนปฏิบัติตามขนบมาเป็นเวลานาน เพราะได้ถูกหล่อหลอมในเบ้านักดนตรีในฐานะที่เป็นศาสตร์ชั้นสูง ลงลึกในด้านการแสดงดนตรีและอื่นๆอีกมากมาย

มันก็มักจะเกิดเป็น 2 ขั้ว คือ

1. นักดนตรี classic ที่ศึกษาจบด้านดนตรี และอยู่ในขนบ รังสรรค์และสร้างศาสตร์แห่งดนตรีให้สืบเนื่องต่อไปสำหรับมนุษยชาติ

2. นักดนตรีจิตวิญญาณ อยู่นอกกรอบ เล่นดนตรีด้วยหัวใจ ไม่มีคำว่าผิดถูก อารมณ์เป็นสำคัญ

คราวนี้ก็เลยอยู่ที่ว่า ขั้วไหนจะมองเห็นความต่างและยอมรับกันและกัน ว่าเรา "มีความเหมือนและแตกต่าง" อยู่ในที...

เพราะสำหรับขั้วที่ 1 ในทางทฤษฎีและปฏิบัติดนตรีมีผิดมีถูก อารมณ์เพลงมีครับ แต่ต้องตั้งอยู่บนรากฐานแห่งความถูกต้อง เพราะเป็นนักดนตรีทั้งกายและใจ ตลอดจนต้องสืบทอดศาสตร์แห่งดนตรีให้มนุษย์รุ่นหลัง

แต่สำหรับขั้วที่ 2 ดนตรีไม่มีผิดถูก มีแต่จับหลักการ แล้วก็เดินไปเอง ตกท่อก็ตะเกียกตะกายขึ้นมาใหม่ แล้วก็เดินตุปัดตุเป๋ไปแบบมันส์ๆ กว่าจะไปถึง level ที่เรามักเรียกว่า "เทพ" ก็แผลเหวอะหวะทั้งใจและวิญญาณ แต่พลังที่ถ่ายทอดออกมามันเลยมหาศาลมากๆไงครับ

แต่เราก็เล่นดนตรีเหมือนกัน ต่างกันที่จุดประสงค์เท่านั้นเองครับ Smile
คงได้คำตอบหมดแล้วใช่ไหมครับ ยังไงก็สู้นะครับ
ชอบคำตอบน้า pooh ครับ ถึงแก่นดี ผมขอแบบผสมๆข้อ 1 +2 ละกัน แต่ตอนนี้ยังไม่เก่งขอเรียนพื้นฐานไปก่อนครับ อิอิ
ขอถือโอกาสชมคุณจ๋าครับ ผมเคยดู clip แล้ว
เล่นเก่งจัง
วีแปด ๔ooo Wrote:ขอตอบข้อ 5Shy

ผมเรียนกีตาร์จากคนผิวดำ(เรียนข้างถนน) ไม่ได้เรียนดนตรี ไม่รู้โน๊ต แต่สิ่งนึงที่เค้าให้ผมมาคือคำว่า "วิญญาน" เค้าเปรียบให้ฟังว่า "คุณจำได้ มั๊ย คุณ พูด เป็น ก่อน หรือ เขียน เป็นก่อน" ผมเลย เรียนรู้เรื่องของอารมย์ ความคิด ความอยาก และกระสันต์จริง ที่ผมอยากจะเรียนรู้มัน

และตอนนี้ ผม ก็ยังไม่รู้โน๊ต ไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร แต่ผมก็รู้ว่า มันคือสิ่งที่ผมรักที่สุด แม้นทุกวันนี้ ผมมีหน้าที่การงาน ที่มั่นคง แต่ผมก็ยังไปเล่นดนตรี ตามปกติ

"ดนตรีไม่มี ผิดถูก มีแต่ เหมาะสม หรือไม่เหมาะสมเท่านั้น" ที่ผ่านมา ผมเคยโดน ตำหนิจากนักดนตรีหลายๆคน ว่า "มั่ว" บ้างSad บางคนบอกว่า "นอก รีต"(แรงมากสำหรับผม) Sadมันยากมากกว่าจะผ่านตรงนั้นมา และทำให้คนยอมรับกับสิ่งที่เราทำและเป็นอยู่

Big Grin

นั่นไง นั่นไง !!!!!!!!!!!!! จับได้แล้ว........เวลาเจอกันผมก็ถามตลอดว่า "พี่ ทำไมวันนี้เสื้อยับจัง"............พี่ตู่ตอบผม ด้วยน้ำเสียงอันนุ่ม หลังจิบ รี และกระดกน้ำเปล่าตามเข้าไปแล้วสั้น ๆ เพียงว่า "อุอุ"

อ๋อ.....ตอนนี้เข้าใจแล้วครับว่าทำไมถึงยับ
พูดได้ก่อนเขียน คมจริงๆ Smile
1. เช็ดครับ แต่แบ่งลักษณะการเช็ดครับ ถ้าไม่เมา จะเช็ดอย่างปรานีตมาก ถ้าเมาจะเช็ดแบบถูแล้วถูอีก ถูมันอยู่นั่น ถ้าเมื่อคืนเมาตื่นมาต้องมาตรวจสภาพกีต้าร์ครับ ว่าเป็นยังไงบ้าง สามารถตรวจระดับแอลกอฮอล ได้ด้วยครับ ว่าเมื่อคืนเมาแค่ไหน ไม่ต้องเข้าด่านไปเป่าครับ

2. ไม่เคยใช้ครับ
3. ผมใช้ D'Ad ครับ
4. หัดเองครับ ตอนเด็กๆ คุณอาสอนครับ

5. ยินดีครับ ไม่รู้ช่วยได้ป่าว
ผมจะเมาไม่เมาก็ทั้งเช็ดสายเช็ดบอดี้เงาวับครับ ก่อนนอนก็นั่งมองอยู่อย่างนั้น บางทีปิดไฟนอนแล้วยังลุกขึ้นมาเปิดไฟใหม่แล้วเอามานั่งเช็ดอีกรอบเลยครับ ชักจะบ้าไปกันใหญ่ล่ะผม ต่อๆไปอาจต้องเข้าบำบัดอาการติดกีต้าร์มั้ง อิอิ
Pages: 1 2 3 4