NimitGuitar webboard

ผมใด้รับ PM จากน้า Porshe ในเรื่องนี้ ผมเลยขออนุญาติเอามาตั้งเป็นกระทู้ซะเลยจะใด้รับฟังความเห็นของน้าๆท่านอื่นด้วย

"ขอถามคำถามตามนี้เลยนะครับน้า ^^

เนื่องจากที่ผมหากีต้าร์Fender มือ2 มาใช้ แต่ด้วยความที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ Fender จึงมีน้าๆแนะนำ ให้ผมเล่นมือ1 ไปเลย แต่ผมเลยสงสัยที่น้าเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องquartersawn, flatsawn

1.ผมอยากทราบว่า Fender american standard กับ american deluxe เนี่ย
เวลาผลิตออกมา เขาจะมีQC (ในการตัดไม้และเลือกไม้)
รวมไปถึง เรื่อง**quartersawn, flatsawn ** ไหมครับ
โดยเปรียบเทียบ
ระหว่าง รุ่นamerican standard กับ american deluxe

2. แล้วสมมุติ ผมเลือกซื้อ fender american deluxe มือ1 ทางfenderเขามีการทดสอบ (เสียงแต่ละตัวก่อนจะส่งออกมาขายไหมครับ)และถ้าQC ไม่ผ่านเนี่ยเขาจะนำไปแก้ไขใหม่ หรือป่าว"


กีต้าร์ไฟฟ้านั้นไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่อง quartersawn, flatsawn เหมือนกีต้าร์โปร่ง ตามปกติแล้วไม้ที่เลื่อยตั้งฉากกับวงปี (quatersawn) จะมีความแข็งแรงกว่าไม้ที่เลื่อยแบบอื่นๆประมาณ 25% และบิดตัวเนื่องจากความชื้นเปลี่ยนน้อยกว่าประมาณ 30%

ไม้ที่เอามาทำกีต้าร์ไฟฟ้าร้อยทั้งร้อยเขาเลื่อยแบบ flatsawn แบบในรูปข้างล่างครับ




จากรูปจะเห็นใด้ว่าไม้ตรงกลางนอกจากจะชิ้นใหญ่กว่าแล้วยังมีเกรนวิ่งไปในทางเดียวกัน เวลาเอามาทำ body หรือ neck เกรนที่เรียงตัวเป็นระเบียบในทิศทางเดียวกับสายกีต้าร์เมื่อสั่นตามสายย่อมสั่นมากกว่าและสั่นยาวกว่าครับ นอกจากนั้นแล้วเวลาเอามาทำ body ก็ใช้แค่เพียงสองชิ้นก็เหลือเฟือไม่เหมือนกับไม้ส่วนนอกที่ขนาดเล็กกว่าและเกรนไม่ขนานซึ่งสั่นน้อยกว่าและต้องประกบกันลายชิ้น ดังนั้นเมื่อเขาซื้อท่อนซุงมาเลื่อยเขาก็เก็บเอาส่วนกลางมาทำกีต้าร์ราคาแพง ส่วนถัดไปก็ทำกีต้าร์ราคาปานกลาง ส่วนนอกสุดก็ใช้กับรุ่นถูกสุดไงครับ

ถ้ากีต้าร์ไม่ใด้พ่นสีทับก็สังเกตุใด้ง่ายครับว่าเอาไม้ส่วนไหนมาทำแต่ถ้ามีสีทับอยู่ก็มองไม่เห็นครับ



ถ้าเป็นกีต้าร์ archtop ที่เป็น solid carved top นี่ต้องใช้ส่วนกลางเท่านั้นมันถึงใด้ราคาแพง



ส่วนพวกที่ใช้ไม้ปะหน้านั้นส่วนที่ปะหน้ามันไม่ใด้เป็นโครงสร้างเขาเลยมักเลือกไม้ flatsawn ที่มีลวดลายจัดกว่า



ถ้าเป็นคอไม้ quartersawn ก็สั่นมากกว่าเหมือนกันและบิดเบี้ยวยากกว่าด้วย



ที่อธิบายมาน่าจะตอบคำถามใด้แล้วนะครับว่ากีต้าร์ Fender รุ่นแพงมันแพงกว่าเพราะอะไร ผมเคยอ่านเจอบ่อยๆที่มีคนคุยว่า Fender Mexico เอามาเปลียน pickup แล้วเสียงดีกว่า Fender USA ผมบอกใด้ก่อนเลยว่ายากครับ

ส่วนเรื่องการทดสอบและ set up นั้นกีต้าร์ทุกยี่ห้อเขาต้องทำก่อนจะส่งออกจากโรงงานครับ ถ้ามี defect ก็ต้องแก้ก่อนแต่จะทำใด้ดีแค่ไหนนั้นก็แล้วแต่ยีห้อ ถ้าเป็น Fender USA นี่ดีสุดยอดแต่ถ้าเป็น Gibson ก็ห่วยสุดยอดเหมือนกัน

ความรู้ดีๆทั้งนั้น สุดยอดเช่นเคยครับพี่กฤษณ์
LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE
LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE
LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE

ขอบคุณ น้า กษฤณ์ มากๆครับ

ขอบคุณครับได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย

(30-05-2011, 15:20)piggyprince Wrote: [ -> ]ความรู้ดีๆทั้งนั้น สุดยอดเช่นเคยครับพี่กฤษณ์
LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE
LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE
LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE LIKE

Yessssssssssssssssssssssssssssssssssssssss, my friend.
I wholeheartedly agree

Thank you Pood

Thank for sharing krub....

โอ้วขอบคุณน้า Pood มากๆครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ปักหมุดไว้เลย^^

(01-06-2011, 15:35)Porsche Wrote: [ -> ]โอ้วขอบคุณน้า Pood มากๆครับ กระทู้ดีๆแบบนี้ปักหมุดไว้เลย^^

อ๊ะ..อ๊ะ จะขอปักหมุด!
อย่ามาฝังเข็มพี่pood ของน้องๆนะครับ

เกี่ยวกับเรื่องความแข็งของไม้ที่เป็น qaurtersawn กับ flatsawn เมื่อก่อนผมก็เคยคิดว่า quartersawn นั้นน่าจะแข็งกว่า flatsawn เสมอ
แต่หลังจากได้อ่านข้อมูลจากแหล่งต่างๆแล้ว คิดว่าอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ครับ

Roger Siminoff (http://www.siminoff.net) เคยทำ deflection test ซึ่งหมายถึงการทดสอบการยุบตัวของไม้เมื่อไม้นั้นถูกถ่วงด้วยน้ำหนัก ถ้าไม้ขนาดเท่ากันและน้ำหนักที่ถ่วงเท่ากัน ไม้ที่ยุบตัวน้อยกว่าจะมีความแข็งมากกว่า โดยเค้าทดสอบกับท่อนไม้ maple ทรงสี่เหลี่ยมท่อนหนึ่งที่เป็น quartersawn เมื่อพลิก 90 องศาก็เป็น flatsawn ผลที่ได้คือไม้ท่อนนั้นแข็งกว่าประมาณ 10% เมื่อเป็น flatsawn

Ervin Somogyi เคยทดสอบกับ Sitka spruce ที่มี density ต่างกันสำหรับไม้ที่ใช้ทำ bracing ของเค้า พบว่าทางไม้หรือ grain orientation ไม่ค่อยจะมีผลต่อความแข็งของไม้ที่มีค่า density สูง โดยพบว่าค่า deflection ของทั้ง quartersawn และ flatsawn นั้นใกล้เคียงกันสำหรับไม้ที่ค่า density สูง ส่วน spruce ท่อนที่ค่า density กลางและต่ำพบว่าทางไม้จะมีผลต่อความแข็งมากกว่าโดยพบว่า flatsawn โดยทั่วไปในตัวอย่างที่ทดสอบนั้นแข็งกว่า quartersawn ดังนั้น Ervin จึงสรุปตามการทดสอบว่าทางไม้จะมีผลต่อความแข็งของไม้สำหรับไม้ที่มีค่า density น้อยมากกว่า

อีกคนคือ David Hurd (http://www.ukuleles.com/LBLBook/TOC.html ) เค้าทดสอบ deflection กับไม้ 4 ชนิดคือ Koa, Redwood, Wester red cedar, และ Douglas fir ได้ผลที่ต่างออกไป คือพบว่าไม้ในแต่ละชนิดนั้น ทั้ง quartersawn และ flatsawn มีค่า deflection ใกล้เคียงกัน ซึ่งแปลความได้ว่าไม่ว่า quartersawn หรือ flatsawn นั้นมีความแข็งพอๆกัน

ที่เล่ามาก็เป็นเพียงการทดสอบจากช่างเพียง 3 คนในตัวอย่างไม้ที่แตกต่างกันไปครับ อาจจะยังไม่สามารถสรุปไปในทางใดทางหนึ่งได้แน่นอน ซึ่งไม้แต่ละชนิดแต่ละชิ้นก็อาจจะมีคุณสมบัติต่างกันออกไปได้ นี่จึงเป็นเพียงข้อมูลอีกด้านหนึ่งเท่านั้นครับ แต่ในเว็บบอร์ดช่างต่างประเทศดูเหมือนจะมีความเห็นตรงกันครับว่า quartersawn นั้นมีความคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพอากาศได้ดีกว่า flatsawn ครับ

ขอบคุณสำหรับความเห็นของคุณ gman ครับ บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่อ้างอิงมาพูดถูกทุกคนเลย ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเราจะให้คำจำกัดความของ "ความแข็ง" ว่าอย่างไรกันแน่

ความแข็งแรงมันไม่ใช่ความแข็งนะครับ (yield strength vs stiffness) การวัด deflection นั้นเป็นการวัดความแข็ง (stiffness) เท่านั้นแต่ความแข็งแรง (yield strength) คือการวัดแรงกดสูงสุดที่เมื่อยกออกแล้ววัสดุยังคืนตัวกลับมาในรูปแบบเดิมใด้ครับ

ขอยกตัวอย่างง่ายๆกับวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็น homogenous และ isotropic material ก่อนอย่างเช่นเหล็กเป็นต้น เหล็กหล่อ (cast iron) นั้นแข็งกว่าเหล็กกล้า (steel) แน่นอน ถ้าใช้แรงกดเท่ากันเหล้กหล่อย่อมโก่งน้อยกว่าเหล็กกล้าแต่ถ้ากดแรงขึ้นมันก็หักเพราะมันเปราะกว่าครับในขณะที่เหล็กกล้าจะคืนตัวกลับมาตรงเหมือนเดิมเมื่อไม่มีแรงกด

คุณสมบัติไม้หน้าและไม้หลังของกีต้าร์ก็เหมือนกันครับ ไม้ที่ตัดขวางเกรนจะมี stiffness มากกว่าและจะสั่นน้อยกว่าเมื่อสายกีต้าร์สั่นจากแรงดีด ในกีต้าร์ไฟฟ้าเราคงไม่ต้องการ stiffness แต่ต้องการ yield strength มากกว่าครับ