NimitGuitar webboard

เมื่อก่อนนี้ Martin มีตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทยถึงสามเจ้าคือจิ้นเฮงหลี ลักกี้และมิวสิคคอลเลคชั่นซึ่งแปลกมากเพราะกีต้าร์ยี่ห้ออื่นๆเขาจะไม่ยอมให้มีตัวแทนเกินหนึ่งเจ้ากันทั้งนั้น

เมื่อสองปีที่แล้วมีสมาชิกท่านหนึ่งซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเล่าให้ฟังว่า Martin เริ่มใช้วิธีบังคับยอดขายซึ่งถ้าใครทำไม่ถึงก็จะโดนตัดออกจากการเป็น distributor น้าๆหลายคนคงยังจำใด้ว่าตอนนั้นมีการรับจอง Martin ในราคาถูกแบบไม่น่าเชื่อ (HD-28 หกหมื่นกว่า Series 42 แสนสองกว่า) เพื่อเพิ่มยอดขายให้ถึงเป้า

เมื่อเช้านี้ผมเปิดเว้บ Martin ดูเพราะมีน้าท่านหนึ่ง PM มาถามเรื่องราคาสั่ง ปรากฏว่า Martin เลิกสัญญากับตัวแทนจำหน่ายแล้วทั้งสามเจ้าเลยครับ

http://www.martinguitar.com/dealers/dist...php?dist=f

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงก้หมายความว่าต่อไปนี้จะไม่มี Martin มือหนึ่งขายในเมืองไทยอีกต่อไปแล้วเพราะร้านที่เอามาขายไม่สามารถสั่งตรงจากโรงงานใด้และต้องสั่งจาก dealer ในอเมริกาซึ่งพอมถึงบ้านเรามันก็กลายเป็นกีต้าร์มือสองที่ไม่มีประกันและราคาก็ต้องแพงขึ้นด้วยเพราะต้องซื้อผ่านยี่ปั้ว

มีใครทราบบ้างไมครับว่าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวถ้ามีเวลาว่างผมจะลองอีเมล์ไปถาม Martin ดู

เกิดอะไรขึ้น วงในเป็นอย่างไรผมก็ไม่อาจทราบได้ครับ
รู้แต่ว่า อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับแฟน Martin ชาวไทย
หากบางท่านจะใจถึงเงินถึงกว้านซื้อเอา Martin มือสองในสภาพดีๆ มาขายซะเอง

ธรรมดาของระบบdistributor มีการตั้งเป้าขายรายปีให้distributorอยู่แล้วปกติหากยอดขายไม่ถึงเป้าแค่ปีเดียวไม่มีปัญหาแต่ถ้าต่อเนื่องหลังครั้งมีปัญหาแน่ ปกติdistributorเค้าให้1-2ที่ในแต่ละประเทศอยู่ที่สายป่านใครยาวกว่ากันในกลยุทธ์การขาย

ถ้าพูดถึงเรื่องยอดขาย ก็เหมือนกับจะต้องมาดูว่าระบบการขาย การบริการลูกค้า การรู้จักสินค้าอย่างแท้จริง ของตัวแทนจำหน่ายสินค้าดังกล่าวเป็นอย่างไร
พูดไปก็เหมือนกันเป็นการซ้ำเติมตัวแทนจำหน่ายเดิม แต่น่าเสียดายมากที่ไม่มีตัวแทนขายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย

แต่จะว่าไป music concept นี่ก็เก่ง ที่สามารถเอา Gibson มาขายคู่กับ Fender ได้ เจ้าของเก่งจริงๆ ฉลาดด้วย
ที่แน่ๆ ตอนนี้ music concept เป็นลูกรักของ Fender แน่นอน เพราะหา order กีต้าร์+เบสไฟฟ้า+แอมป์ ได้ตั้ง 4500 ตัว

(20-05-2011, 10:43)povation Wrote: [ -> ]เกิดอะไรขึ้น วงในเป็นอย่างไรผมก็ไม่อาจทราบได้ครับ
รู้แต่ว่า อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับแฟน Martin ชาวไทย
หากบางท่านจะใจถึงเงินถึงกว้านซื้อเอา Martin มือสองในสภาพดีๆ มาขายซะเอง

ใด้ยินไหมนายเบ๊นซ์ หรือว่าจะติดต่อ Martin ขอเป็นตัวแทนจำหน่ายซะเองเลยเพราะข่าววงในบอกว่าเขาตั้งยอดสั่งไว้อย่างน้อย 300000 USD ต่อปีเท่านั้น

(20-05-2011, 11:23)pood Wrote: [ -> ]ใด้ยินไหมนายเบ๊นซ์ หรือว่าจะติดต่อ Martin ขอเป็นตัวแทนจำหน่ายซะเองเลยเพราะข่าววงในบอกว่าเขาตั้งยอดสั่งไว้อย่างน้อย 300000 USD ต่อปีเท่านั้น

ใช่เลยเบนซ์ ถ้าแค่สามแสนเหรียญต่อปี ก็แค่ขายกีต้าร์ตัวแสน ให้ได้ประมาณร้อยกว่าตัวเท่านั้นเอง
ขายเดือนละสิบตัวก็เป็นดีลเลอร์ได้แล้ว เอาเลยๆ

เรื่องเล็กมากๆสำหรับน้องเบ๊นซ์
ถ้าขายไม่ถึงเป้าเบ๊นซ์ก็แค่เก็บไว้เล่นที่บ้านง่ายจะตายไป
เดือนละสิบตัวเองเด็กๆ!

สรุปว่า ปัจจุบัน ... ซื้อกีต้าร์ในตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทย ... มีประกัน ... รึป่าวคับ ?

เท่าที่ผมเข้าใจคือ ... ไม่ได้ประกันกับทางบริษัทผู้ผลิตอยู่แล้ว ... แต่เป็นประกันของร้านที่ขาย ... ซึ่งผมเห็นว่ายังขาดมาตรฐานการบริการหลังการขายเอามากๆ

ทุกวันนี้ ผมไม่เชื่อมือช่างตามร้านขายกีต้าร์เลยคับ (คงเป็นเพราะผมไม่รู้จักช่างตามร้านขายกีต้าร์ที่เก่งๆ เลยซักคน)

กลับมาเข้าประเด็นของกระทู้ ... ถ้าการที่ไม่มีตัวแทนจำหน่ายกีต้าร์ martin ในเมืองไทยแล้วทำให้ คนไทยซื้อกีต้าร์ martin ได้ในราคาที่ถูกลง ... ผมในฐานะผู้บริโภค ... ก็ happy คับ อิอิ


Thanks: ฝากรูป

จริงหรือครับนี่...

เท่าที่ทราบ ตอนนี้ตัวแทนจำหน่าย Martin ในบ้านเราคือ Music Colloction ไม่ใช่หรือครับ เพราะพึ่งได้เป็น Sole Distributer ของ Martin ไปเมื่อไม่นานนี้เอง ถ้าถูกตัดตอนนี้ ผมว่ามันเร็วไปหน่อยนะ เค้าพึ่งได้มาไม่ถึงปีเลย ในทางธุรกิจ เค้าน่าจะประเมินยอดสัก 2-3 ปีแล้วค่อยพิจารณาอีกครั้งว่า ตัวแทนจำหน่ายเดิมทำยอดได้หรือไม่ ถ้า 2-3 ปีแล้วยังทำไม่ได้ตามเป้า จะถูกตัดก็ไม่แปลก

ยังไงรบกวนพี่กฤษณ์สืบหาข้อมูลให้ด้วยครับ...

ชอบใจรูปกีต้าร์ที่น้าveedemortของ Willie Nelson จริงๆเปนรูขนาดนี้แกยังเล่นอีก
เป็นของเบนซ์คงเอาไปทำฟืนนานแล้ว
เรื่ิองการไม่มีตัวแทนจำหน่ายนั้นผมว่าคงทำให้คนไทยโดยรวมเสียโอกาส
ในการได้เห็นและลองก่อนซื้อของนะครับการมีตัวแทนคงจะดีกว่าในทุกๆด้าน
เสียดายคงยากมากทึี่ตัวแทนจะขายได้ตามเป้าครับดูตัวเลขแล้วเหนื่อยแทน